ปิโตรนาส เปิดสถาบันเปลี่ยนผ่านพลังงาน ปั้นคนรับอนาคตคาร์บอนต่ำ

ปิโตรนาส เปิดสถาบันเปลี่ยนผ่านพลังงาน ปั้นคนรับอนาคตคาร์บอนต่ำ

ปิโตรนาส (PETRONAS) เดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านพลังงานแห่งอนาคต ประกาศเปิดตัว “สถาบันการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานปิโตรนาส” หรือ P-ETA (PETRONAS Energy Transition Academy) อย่างเป็นทางการ ในงานประชุม Energy Asia ครั้งที่ 2 มุ่งยกระดับการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมพลังงานทั่วโลก เตรียมความพร้อมรับมือความท้าทายและโอกาสในยุคพลังงานคาร์บอนต่ำ พร้อมจับมือพันธมิตรระดับโลกและระดับชาติ สร้างมาตรฐานหลักสูตรเทียบเท่านานาชาติ หนุนแผนเปลี่ยนผ่านพลังงานแห่งชาติของมาเลเซีย (NETR) ที่คาดว่าจะสร้างงานได้กว่า 310,000 ตำแหน่งภายในปี 2050

กัวลาลัมเปอร์, มาเลเซีย – ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานที่กำลังเป็นวาระสำคัญของโลก บริษัทพลังงานแห่งชาติมาเลเซีย หรือ ปิโตรนาส (PETRONAS) ได้ประกาศความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ ด้วยการเปิดตัว สถาบันการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานปิโตรนาส (PETRONAS Energy Transition Academy – P-ETA) ซึ่งเป็นสถาบันที่ออกแบบมาเพื่อพัฒนาและเตรียมความพร้อมของบุคลากรในอุตสาหกรรม ให้มีทักษะและความรู้ที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพลังงานคาร์บอนต่ำที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

พิธีเปิดตัวสถาบัน P-ETA จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ภายในงานประชุม Energy Asia ครั้งที่ 2 โดยได้รับเกียรติจาก ตันศรี เต็งกู มูฮัมหมัด เทาฟิก ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทปิโตรนาส เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงจากปิโตรนาสและองค์กรพันธมิตรเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

สถาบัน P-ETA ถือเป็นโครงการริเริ่มโดย สถาบันเทคโนโลยีปิโตรเลียมปิโตรนาส (Institut Teknologi Petroleum PETRONAS – INSTEP) ซึ่งเป็นสถาบันฝึกอบรมด้านเทคนิคของปิโตรนาสที่มีชื่อเสียง โดยจะเปิดรับผู้เข้าร่วมจากบริษัทพลังงานชั้นนำทั่วโลก เพื่อสร้างระบบนิเวศแห่งการเรียนรู้ที่ครอบคลุมและตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมได้อย่างแท้จริง

วิสัยทัศน์ผู้นำและการสร้างอนาคตพลังงานที่เท่าเทียม

ตันศรี เต็งกู มูฮัมหมัด เทาฟิก ได้กล่าวถึงวิสัยทัศน์และความสำคัญของการจัดตั้งสถาบันแห่งนี้ว่า “เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเปิดตัว P-ETA ในวันนี้ จะเป็นรากฐานที่สำคัญในการสร้างอนาคตด้านพลังงานที่เท่าเทียม ซึ่งหล่อหลอมโดยผู้นำและผู้เชี่ยวชาญที่มีชุดทักษะที่จำเป็นต่อการตอบสนองความต้องการพลังงานของโลกที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ปิโตรนาสยังคงเดินหน้าตามกลยุทธ์การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ซึ่งมุ่งสร้างสมดุลระหว่างความมั่นคงทางพลังงาน, การเข้าถึงได้ของพลังงานในราคาที่เหมาะสม และความยั่งยืน โครงการริเริ่มนี้จึงถูกคาดหวังว่าจะช่วยสนับสนุนการเข้าถึงโอกาสที่เท่าเทียมสำหรับบุคลากร ผ่านหลักสูตรที่จะได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันในบริบทของการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานโดยเฉพาะ”

คำกล่าวของผู้นำปิโตรนาสสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่ไม่เพียงแต่จะพัฒนาธุรกิจ แต่ยังให้ความสำคัญกับการ “พัฒนาคน” ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการเปลี่ยนผ่านที่ยั่งยืน โดยมุ่งแก้ปัญหา “Energy Trilemma” หรือ ปัญหาไตรภาวะด้านพลังงาน ทั้งในด้านความมั่นคง, ราคาที่เข้าถึงได้ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ผนึกกำลังพันธมิตรระดับโลก สร้างมาตรฐานสากล

ไฮไลท์สำคัญภายในงาน คือพิธีแลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจ (MoU) ระหว่าง INSTEP กับพันธมิตรด้านการฝึกอบรม 3 องค์กรหลัก ซึ่งจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการร่วมพัฒนาหลักสูตรและการฝึกอบรมของ P-ETA ได้แก่:

  1. องค์การพัฒนาพลังงานอย่างยั่งยืนแห่งมาเลเซีย (Sustainable Energy Development Authority Malaysia – SEDA Malaysia): หน่วยงานภาครัฐของมาเลเซียที่มีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลและส่งเสริมพลังงานหมุนเวียนและการอนุรักษ์พลังงาน ความร่วมมือนี้จะช่วยให้หลักสูตรของ P-ETA สอดคล้องกับนโยบายและทิศทางการพัฒนาพลังงานของประเทศ
  2. สถาบันพลังงานแห่งสหราชอาณาจักร (Energy Institute – EI): องค์กรวิชาชีพระดับโลกสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพในอุตสาหกรรมพลังงาน การจับมือกับ EI จะช่วยยกระดับหลักสูตรให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล และเชื่อมโยงผู้เรียนเข้ากับเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก
  3. OPITO: องค์กรกำหนดมาตรฐานทักษะและความปลอดภัยสำหรับอุตสาหกรรมพลังงานระดับโลก ความร่วมมือกับ OPITO จะทำให้มั่นใจได้ว่าบุคลากรที่ผ่านการอบรมจาก P-ETA จะมีทักษะด้านความปลอดภัยและปฏิบัติการที่เป็นเลิศตามมาตรฐานสากล

ความร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งนี้ มีเป้าหมายเพื่อเร่งรัดการพัฒนาขีดความสามารถในสาขาสำคัญต่างๆ ที่เป็นหัวใจของการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน เช่น การจัดการคาร์บอน (Carbon Management), ไฮโดรเจน (Hydrogen), พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy), ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (Energy Efficiency) และ แนวปฏิบัติเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

สถาบัน P-ETA จะตั้งอยู่ที่ INSTEP ในรัฐตรังกานู ประเทศมาเลเซีย โดยจะเน้นรูปแบบการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริงและการฝึกปฏิบัติ (Experiential Learning and Hands-on Training) เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้ทันที

ตอบโจทย์เศรษฐกิจและแผนพลังงานชาติ

การจัดตั้ง P-ETA ไม่ได้เป็นเพียงแค่การลงทุนขององค์กร แต่ยังเป็นการขานรับนโยบายระดับชาติอย่าง แผนการเปลี่ยนผ่านพลังงานแห่งชาติของมาเลเซีย (National Energy Transition Roadmap – NETR) ซึ่งเป็นแผนแม่บทที่รัฐบาลมาเลเซียวางไว้เพื่อเปลี่ยนผ่านประเทศไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ การเปลี่ยนผ่านนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ยังเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจครั้งมหาศาล

รายงานของ NETR ประเมินว่า หากการเปลี่ยนผ่านพลังงานประสบความสำเร็จ จะสามารถสร้างตำแหน่งงานใหม่ในมาเลเซียได้มากถึง 310,000 ตำแหน่งภายในปี 2050 ซึ่งการจะไปถึงจุดนั้นได้ จำเป็นต้องมีการยกระดับทักษะ (Upskilling) และการสร้างทักษะใหม่ (Reskilling) ให้กับแรงงานในภาคพลังงานอย่างเร่งด่วน เพื่อให้สามารถคว้าโอกาสงานใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม P-ETA จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเป็นกลไกหลักเพื่อสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพป้อนเข้าสู่ตลาดแรงงานในอนาคต

เดินหน้าลดคาร์บอนและการจัดการก๊าซมีเทน

การเปิดตัว P-ETA ยังเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับการประชุมระดับสูงว่าด้วยการลดคาร์บอน (High-Level Session on Decarbonisation) ที่จัดโดยปิโตรนาส ซึ่งตอกย้ำถึงความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของการลดการปล่อยก๊าซมีเทนและการลดคาร์บอนในภาพรวม

ภายในงานยังมีการเสวนาโดยผู้เชี่ยวชาญจากปิโตรนาส, สมาคมระหว่างประเทศเพื่อการศึกษาการเปลี่ยนผ่านพลังงาน (International Society for Energy Transition Studies) และองค์การเพื่อความมั่นคงด้านโลหะและพลังงานแห่งญี่ปุ่น (JOGMEC) เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับความท้าทายและความคืบหน้าในการลดคาร์บอน

นอกจากนี้ ยังมีการหารือถึงความคืบหน้าของโครงการ ศูนย์ประเมินเทคโนโลยีการปล่อยก๊าซมีเทนแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia Methane Emissions Technology Evaluation Centre – METEC) ซึ่งจะเป็นศูนย์แห่งแรกในภูมิภาค มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างขีดความสามารถด้านการจัดการการปล่อยก๊าซมีเทนในระดับภูมิภาค โดยจะทำหน้าที่กำกับดูแลกระบวนการตรวจวัด, ติดตาม, รายงาน และทวนสอบ (MMRV) รวมถึงการวิจัยและพัฒนา

โครงการ METEC เป็นความร่วมมือระหว่างปิโตรนาสและ JOGMEC ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาด้านวิศวกรรมเพื่อจัดตั้งศูนย์ ณ INSTEP ในรัฐตรังกานู และที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีปิโตรนาส (UTP) ในรัฐเประ ความร่วมมือนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ASEAN Energy Sector Methane Leadership Programme 2.0 ที่มุ่งเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจและรัฐบาลในอาเซียนเพื่อสนับสนุนคำมั่นสัญญาโลกในการลดก๊าซมีเทน (Global Methane Pledge)

โดยสรุป การเปิดตัวสถาบัน P-ETA ถือเป็นก้าวย่างเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญของปิโตรนาสในการแสดงบทบาทผู้นำการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมพลังงาน ไม่ใช่แค่ในมาเลเซียแต่ในระดับโลก การลงทุนในการพัฒนา “คน” ครั้งนี้ จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้การเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานคาร์บอนต่ำเป็นไปอย่างราบรื่น ยั่งยืน และสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้กับประเทศและภูมิภาคได้อย่างแท้จริง

#PETRONAS #PETA #EnergyTransition #ปิโตรนาส #การเปลี่ยนผ่านพลังงาน #พัฒนาบุคลากร #พลังงานคาร์บอนต่ำ #ความยั่งยืน #NETR #เศรษฐกิจมาเลเซีย #INSTEP #Decarbonisation #EnergyAsia

Related Posts