อีสท์วอเตอร์เล็งนำ Smart Water เข้าไปบริการจัดการน้ำใน EEC

อีสท์วอเตอร์เล็งนำ Smart Water เข้าไปบริการจัดการน้ำใน EEC

อีสท์วอเตอร์พร้อมให้บริการน้ำแบบครบวงจรใน EEC มั่นใจจะส่งผลดีต่อการเติบโตของธุรกิจหลัก เพราะจะช่วยให้ธุรกิจน้ำดิบเติบโตตามไปด้วย พร้อมใช้เทคโนโลยี Smart Water เพื่อบริหารจัดการน้ำแบบเบ็ดเสร็จ สร้างความมั่นใจให้ลูกค้าในระยะยาว พร้อมจับมือ CAT เข้าไปรุกการบริหารจัดการน้ำใน Digital Park Thailand คาดการเติบโตปีนี้จะไม่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ผ่านมาอยู่ที่ 6%

นายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์วอเตอร์ กล่าวว่า อีสท์วอเตอร์ได้วางแผนและดำเนินการพัฒนาระบบโครงข่ายท่อส่งน้ำและพัฒนาแหล่งน้ำต้นทุนเพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำ ในการสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมตามนโยบายโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ ซึ่งคาดว่าภายในปี 2570 จะมีความต้องการใช้น้ำเพิ่มขึ้นถึง 800 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน

โดยจะนำระบบบริหารจัดการน้ำด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย Smart Water สำหรับเข้าไปให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ ตรวจสอบข้อมูลการใช้น้ำ คุณภาพ แรงดัน และการรั่วซึมในระบบได้แบบ real-time รวมถึงการชำระค่าน้ำ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถดำเนินการได้ผ่าน Application หรือเว็บเพจ ช่วยเพิ่มความรวดเร็วและแม่นยำ ลดปริมาณน้ำสูญเสียและต้นทุนในการดูแลรักษา

พร้อมการแจ้งเตือนอัตโนมัติหากมีเหตุผิดปกติเกิดขึ้นในระบบ ด้วยการควบคุมทั้งระบบจาก Control Center เพียงจุดเดียว เพื่อรองรับธุรกิจบริหารจัดการน้ำแบบครบวงจร และการขยายพื้นที่ให้บริการของอีสท์ วอเตอร์ในอนาคตอีกด้วย

สำหรับในปีนี้ อีสท์ วอเตอร์ จะเริ่มให้บริการน้ำแบบครบวงจรเพื่อขยายการเติบโตของธุรกิจในอนาคต โดยมองหาโครงการลงทุนใหม่ๆ ในประเทศและอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ต้องการให้บริษัทฯ เข้าไปช่วยวางระบบน้ำให้เกิดประสิทธิภาพและคุ้มค่าสูงสุด ล่าสุดเตรียมจับมือกับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคด้านน้ำแบบครบวงจร

ภายในพื้นที่อุทยานนวัตกรรมดิจิทัล หรือ Digital Park Thailand สนับสนุนข้อมูลและแนวทางในการจัดหาและพัฒนาแหล่งน้ำดิบ การให้คำแนะนำในการวางระบบน้ำอุตสาหกรรม ระบบบำบัดน้ำเสียและน้ำรีไซเคิลที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งการรุกธุรกิจใหม่นี้จะเป็นปัจจัยทำให้การเติบโตรายได้เพิ่มขึ้นจากที่ผ่านมาประมาณ 6%

“ลูกค้าส่วนใหญ่ของอีสท์วอเตอร์จะเป็นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลด้านบวกต่อการเติบโตของธุรกิจหลัก จะมีแนวโน้มตามภาวะเศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการใช้น้ำดิบในอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มปิโตรเคมี โรงไฟฟ้า โรงเหล็ก นอกจากนี้ยังมีอุตสาหกรรมเกิดขึ้นใหม่และการขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรมจะช่วยให้ธุรกิจน้ำดิบเติบโตไปด้วย ส่วนโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) น่าจะเข้ามามีบทบาทต่อทั้งธุรกิจน้ำดิบและน้ำประปาของบริษัทฯ ในอีก 1-2 ปี ข้างหน้าตามนโยบายรัฐบาล”

Related Posts