เร้ดแฮท เปิด Open Innovation Labs ในเอเชียแปซิฟิก ณ สิงคโปร์ หลังเห็นแนวโน้มการรับนวัตกรรมใหม่ๆ ขององค์กรในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้ นอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงยังมีกลุ่มสตาร์ทอัพเกิ ดขึ้นมากมาย เผยเป็นห้องแล็บส์เสมือนที่ลู กค้าสามารถเข้ามาสร้างสรรค์นวั ตกรรมได้จากทุกหนทุกแห่ง บนพื้นฐานของโอเพนซอร์สคอมมิวนิ ตี้
นอกจากแล็บส์ที่สิงคโปร์แล้ว เร้ดแฮทยังมี Red Hat Open Innovation Labs ตั้งอยู่ที่บอสตันและลอนดอน โดย Red Hat Innovation Labs เปิดตัวครั้งแรกในปี พ.ศ. 2559 เป็นการตอบสนองความต้องการของลู กค้าที่มี ความสนใจในการนำความเชี่ยวชาญด้ านโอเพนซอร์สของเร้ดแฮท ไปปรับใช้จัดการกับการดำเนินธุ รกิจ สามารถพัฒนาแอปพลิเคชันต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว คล่องตัว ยืดหยุ่น และมีความปลอดภัยมากขึ้น
เดเมียน วอง รองประธานและผู้จัดการทั่ วไปประจำภูมิภาคอาเซียน เร้ดแฮท กล่าวว่า สำหรับในส่วนของ Open Innovation Labs นั้น ลูกค้าสามารถทำงานจากที่ใดก็ได้ ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญของเร้ดแฮท ในสภาพแวดล้อมที่เหมือนทำงานอยู่ ในห้องแล็บส์จริงๆ หรือป๊อป-อัพ แล็บส์ ที่เรียกใช้งานได้ทันที ณ สำนักงานของลูกค้า
การเปิดแล็บส์แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่สิงคโปร์นั้ น เนื่องจากมองว่าองค์กรในภูมิ ภาคนี้มีการตอบรับนวัตกรรมได้ อยางรวดเร็ว รวมไปถึงการเกิดขึ้นของสตาร์ทอั พเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการเปิดแล็บส์ที่นี่ จะเป็นเสมือนการรวบผู้คน วิธีการ และเทคโนโลยี สำหรับลูกค้า เพื่อกระตุ้นการพัฒนานวั ตกรรมใหม่และแลกเปลี่ยนความรู้ และการแก้ไขปัญหาร่วมกัน
“ภายในแล็บส์จะประกอบไปด้ วยคอมมูนิตี ที่จะมีโปรเจ็กต์จากทั่วโลกในส่ วนของโอเพ่นส์ซอร์สรวบรวมอยู่ที่ นี่ ซึ่งสมาชิกจะสามารถเข้ามาเป็นนั กพัฒนา รวมไปถึงแก้ปัญหาร่วมกัน คุยเรื่องโอเพ่นสแตนดาร์ด การเปิดนวัตกรรมใหม่ๆ แชร์ความคิดสร้างสรรค์ เพราะทุกสิ่งที่นำมาอยู่ในนี้ต้ องเป็นการโอเพ่นส์
ซึ่งลูกค้าจะสามารถใช้ ไมโครเซอร์วิส ทำงานกับคอนเทนเนอร์ต่างๆ ได้ และพัฒนาผ่าน DevOps ทั้งสภาพแวดล้อมแบบกายภาพทั่วไป บนระบบคลาวด์ และโมบาย เพื่อให้สามารถปรับขนาดได้ ตามความต้องการได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังรองรับความต้องการใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น”
เดเมียน กล่าวว่า สำหรับธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกำลังเร่งสร้างสรรค์นวั ตกรรม และบริษัทหลายแห่งใช้เทคโนโลยี ดิจิทัลเพื่อเพิ่มมูลค่าทางธุ รกิจและสร้างประสบการณ์ที่ดี มากขึ้นให้แก่ลูกค้า เร้ดแฮทจึงได้เปิด Red Hat Open Innovation Labs ในภูมิภาคนี้ เพื่อให้ธุรกิจเหล่านี้สามารถขั บเคลื่อนได้อย่างรวดเร็ว ภายใต้การกระตุ้นจากบรรดาสมาชิ กที่ทำให้สมาชิกเกิดแรงหลักดั นที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ด้วยการยอมรับนวัตกรรมใหม่ๆ
“การสร้างขี ดความสามารถในการทำธุรกิจด้ วยนวัตกรรมใหม่ๆ นั้น ก็จะมีส่วนหนึ่งที่ ประสบความสำเร็จ แต่อีกส่วนหนึ่งก็ไม่สำเร็จ เพราะกลัวว่าจะเกิดความเสี่ยง ทำให้ตอบรับนวัตกรรมใหม่ๆ ช้า และสุดท้ายธุรกิจก็จะหายไป โดยผลสำรวจของการ์ทเนอร์พบว่า 91% รู้ว่าจะเกิดการเปลี่ ยนแปลงทางธุรกิจภายใน 2 ปี ส่วนอีก 59% บอกว่าคนในองค์กรรู้ว่าธุรกิ จจะเปลี่ยนแปลง แต่องค์กรยังไม่พร้อม”
ดังนั้นการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลกำลังเปลี่ยนโฉมภาคอุ ตสาหกรรม องค์กรทุกขนาดในทุกภาคอุ ตสาหกรรมต้องหั นมาทบทวนแนวทางการสร้างนวั ตกรรมของตนเองใหม่ และทบทวนว่าเทคโนโลยีจะเพิ่ มความสามารถในการแข่งขันให้กั บองค์กรได้อย่างไร
Red Hat Open Innovation Labs การทำงานที่สามารถเปิดใช้งานได้ ทุกที่
พร้อมผู้เชี่ยวชาญด้านไอที เทคโนโลยี วิธีการใช้งาน และมีทักษะต่างๆ เพื่อผลักดันการสร้างสรรค์ทางธุ รกิจให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว ใช้วิธีการเรียนรู้ด้วยการปฏิบั ติจริง ผ่านพื้นฐานของโอเพนซอร์สคอมมิ วนิตี้ ดังนั้นลูกค้าสามารถนำคำปรึ กษาและเทคโนโลยีมาใช้ ออกแบบและพัฒนาโซลูชันต่างๆ เพื่อปรับปรุงแอปพลิเคชันแบบดั้ งเดิมให้ทันสมัย
สามารถพัฒนาแอปพลิเคชันสถาปั ตยกรรม รวมถึงฟีเจอร์สำหรับโมบาย ระบบคลาวด์ ไมโครเซอร์วิส และอื่นๆ ได้มากมาย ด้วยการจัดการกับปัญหาที่แท้จริ งทางธุรกิจตั้งแต่เริ่มต้น ผ่านการใช้ push button infrastructure ของเร้ดแฮท และสภาพแวดล้อมการพัฒนาที่เป็ นแบบอัตโนมัติต่างๆ
“ธุรกิจยุคนี้ต้องกล้าที่จะเปลี่ยน ธุรกิจที่ไม่กล้าลงทุนนวั ตกรรมใหม่ๆจะ ล่าช้าและเสียโอกาส และบริษัทที่ประสบความสำเร็ จจะนำนวัตกรรมมาใช้ในองค์ กรมากว่าที่จะใช้เอาท์ซอร์ส เป้าหมายของแลปคือ ลูกค้าสามารถเข้าถึงนวั ตกรรมของเรดแฮทได้จากข้างนอก ช่วยสร้างความตื่นตัวภายในคอมมู นิตี้ของเรดแฮท ในการพัฒนานวัตกรรม สามารถเข้ามาคิดค้นได้และนำไปพั ฒนาต่อที่องค์กรได้”