ซิสโก้ เผยปรับโฉม Webex ใหม่ รับการทำงานแบบ ไฮบริด

ไฮบริด

ขณะที่ทั่วโลกกำลังปรับเปลี่ยนสู่รูปแบบการทำงานในแบบ ไฮบริด องค์กรต่างๆ ต้องการโซลูชั่นที่รองรับการใช้งานอย่างยืดหยุ่น และเสริมประสิทธิภาพการทำงานให้กับ ‘ทุกคนอย่างทั่วถึง’ ด้วยเหตุนี้ ซิสโก้ (NASDAQ: CSCO) จึงได้เปิดตัวชุดโซลูชั่น All-New Webex Suite ใหม่ล่าสุด ซึ่งประกอบด้วยนวัตกรรมมากมายทีรองรับการทำงานแบบไฮบริด และกิจกรรมต่างๆ โดยครอบคลุมผู้ใช้ทุกกลุ่ม พร้อมทั้งมอบความยืดหยุ่นที่เหนือกว่า และสามารถปรับแต่งตามความต้องการของผู้ใช้แต่ละคนได้อย่างเหมาะสม

“การทำงานแบบไฮบริดจำเป็นต้องมีเป็นภาวะผู้นำ วัฒนธรรม ความคิดที่คำนึงถึง ‘ผู้คน’ เป็นหลัก รวมถึงเทคโนโลยีที่เหมาะสมซึ่งมอบประสบการณ์อย่างเท่าเทียมกันสำหรับทุกคน ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ใดก็ตาม ภารกิจของซิสโก้คือการขับเคลื่อนอนาคตสำหรับ ‘ทุกคน’ (Inclusive Future for All) และกลายเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าครั้งใดเมื่อเราเข้าสู่ยุคการทำงานแบบไฮบริด” ทวีวัฒน์ จันทรเสโน, กรรมการผู้จัดการของซิสโก้ในประเทศไทยและอินโดจีน กล่าว “เราใช้ประโยชน์จากความสามารถของ Webex Suite เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่ไม่ใช่แค่การประชุม แต่เป็นประสบการณ์ที่สร้างขึ้นสำหรับทุกคนด้วยเครื่องมือที่ชาญฉลาดเพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนอยู่ในโลกแห่งไฮบริดอย่างเท่าเทียม”

จากรายงานผลการศึกษา Cisco Global Workforce Survey พนักงาน 95% รู้สึกไม่มั่นใจที่จะต้องกลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดในปัจจุบัน และ 96% ต้องการเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงาน โดย 86% ระบุว่าการเสริมสร้างขีดความสามารถให้กับพนักงานที่ทำงานนอกสถานที่เพื่อให้สามารถเข้าถึงแอพพลิเคชั่นได้อย่างไร้รอยต่อและทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก โดยตัวเลขนี้สูงถึง 95% สำหรับบริษัทที่มีพนักงาน 1000 คนขึ้นไป

ไฮบริด

98 เปอร์เซ็นต์ ของการประชุมในอนาคตจะมีผู้เข้าร่วมประชุมอย่างน้อยหนึ่งคนที่เชื่อมต่อจากบ้าน การทำงานแบบ ไฮบริด (ซึ่งผสานการโต้ตอบแบบรีโมทและแบบตัวต่อตัว) เป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบระยะยาวต่อวัฒนธรรมการทำงาน รวมถึงการมีส่วนร่วมในอีเวนท์และกิจกรรมต่างๆ และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจำเป็นที่จะต้องลงทุนมากขึ้นในส่วนอื่นๆ นอกเหนือจากห้องประชุม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการใหม่ๆ ของการทำงานและการจัดกิจกรรมแบบไฮบริด  รูปแบบการทำงานในอนาคตขององค์กรต่างๆ จะแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เมื่อเทียบกับรูปแบบการทำงานในช่วงก่อนการแพร่ระบาดและในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาด โดยวิธีการและเทคโนโลยีที่เราเคยคิดว่าดีพอจะไม่เพียงพออีกต่อไป

“ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เราได้เพิ่มฟีเจอร์และอุปกรณ์ใหม่ 800 รายการให้กับ Webex เพื่อสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่ยืดหยุ่นมากที่สุดสำหรับธุรกิจที่ต้องการการทำงานแบบ ไฮบริด และสำหรับพนักงานที่ต้องการทำงานได้จากทุกที่” ฮาริฮาราน เอส, กรรมการผู้จัดการของซิสโก้ ด้าน ซอฟต์แวร์ คลาวด์ และการทำงานร่วมกัน, ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ญี่ปุ่น และจีน กล่าว “All-New Webex Suite ทำให้ทุกคนมั่นใจได้ว่าจะมีโอกาส และเสียงที่เท่าเทียมกันในโลกการทำงานแบบไฮบริด”

ไฮบริด

ฟีเจอร์ไฮไลท์ที่สำคัญของ All-New Webex มีดังนี้:

  1. เพิ่มมูลค่า: ชุดโซลูชั่นใหม่ Webex Suite นับเป็นชุด ‘โซลูชั่นแรกของอุตสาหกรรม’ ที่รองรับการทำงานแบบไฮบริดอย่างแท้จริง โดยครอบคลุมทั้งในส่วนของการประชุม การโทรติดต่อ การรับ-ส่งข้อความ การสำรวจความเห็น และกิจกรรมต่างๆ รวมอยู่ในโซลูชั่นเดียว ซึ่งมีราคาถูกกว่าโซลูชั่นแบบ a-la-carte ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ โลโก้ใหม่ของ Webex ที่เผยโฉมในวันนี้ได้รับการออกแบบเพื่อสะท้อนเป้าหมายหลักและคุณค่าที่ Webex นำเสนอเพื่อตอบสนองต่อตลาด ลูกค้า และการใช้ชีวิตของผู้คน
  2. กิจกรรมแบบครบวงจร: แพลตฟอร์มการจัดการและการดำเนินกิจกรรมอย่างครบวงจรนับเป็นองค์ประกอบที่จำเป็นสำหรับการจัดกิจกรรมรูปแบบไฮบริดในปัจจุบันและอนาคต โดยหลังจากที่ซิสโก้ดำเนินการเข้าซื้อกิจการของ Socio เสร็จสมบูรณ์ จะมีการนำเสนอความสามารถที่พร้อมสรรพสำหรับการจัดกิจกรรมขนาดใหญ่อย่างครบวงจร ครั้งแรกในวงการอุตสาหกรรม
  3. เครื่องมือสำหรับการโต้ตอบกับผู้ชม: การสำรวจความเห็น แบบทดสอบ ถาม-ตอบ และอื่นๆ ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีของ Slido นับเป็นโซลูชั่นแรกของอุตสาหกรรมที่มีส่วนร่วมของผู้ชม (Audience Engagement) โดยจะถูกบูรณาการไว้ในทุกประสบการณ์ของการทำงานร่วมกัน ตอนนี้การสำรวจความเห็น (polling) พร้อมใช้งานแล้วในส่วนของการประชุม และจะพร้อมใช้งานในไม่ช้าในส่วนของอีเว้นท์
  4. ระบบเสียงอัจฉริยะตัดเสียงรบกวน: ด้วยการพัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยีชั้นนำสำหรับการปรับปรุงเสียงพูดและการตัดเสียงรบกวนใน Webex ผู้ใช้จะสามารถใช้ฟีเจอร์ใหม่เพื่อปรับปรุงเสียงพูดสำหรับการทำงานจากที่บ้าน หรือในพื้นที่ทำงานที่ใช้งานร่วมกับผู้อื่น โดยฟีเจอร์ My Voice Only จะขจัดเสียงรบกวนรอบข้าง รวมถึงเสียงพูดของคนอื่นๆ และจะโฟกัสเฉพาะเสียงพูดของผู้ใช้เป็นหลัก  My Voice Only จะพร้อมใช้งานทั่วโลกในเดือนสิงหาคม 2564
  5. ระบบกล้องอัจฉริยะPeople Focus ซึ่งเปิดตัวเมื่อต้นปีนี้ จะถูกรวมอยู่ใน Webex ในปี 2564  ทั้งนี้ People Focus ใช้เทคโนโลยี Machine Learning และ AI เพื่อจับภาพผู้เข้าร่วมการประชุมแต่ละคนที่นั่งอยู่ตามจุดต่างๆ ในห้องประชุม ทำให้ผู้เข้าร่วมที่อยู่นอกสถานที่รู้สึกใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น และทุกคนในที่ประชุมจะสามารถมองเห็นภาษากาย การแสดงสีหน้า และอื่นๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการสื่อความหมาย
  6. อุปกรณ์ที่เหนือชั้น: Webex Desk คืออุปกรณ์แบบครบวงจรสำหรับการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับติดตั้งบนโต๊ะในที่ทำงานหรือที่บ้าน นอกจากนี้ ยังมี RoomOS ที่รองรับการโต้ตอบแบบสัมผัสที่ทันสมัย มอบประสบการณ์การทำงานร่วมกันที่ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น โดยทำหน้าที่เชื่อมต่อเวิร์กโฟลว์ต่างๆ เพื่อลดการสับเปลี่ยนไปมาระหว่างบริบทต่างๆ และยังมีแพลตฟอร์ม Webex Assistant Skills ซึ่งรองรับการสั่งงานด้วยเสียง โดยผนวกรวมเข้ากับส่วนควบคุม คอนเทนต์ และแอพพลิเคชั่นต่างๆ อย่างไร้รอยต่อสำหรับ Webex devices
  7. ประสบการณ์ที่ปลอดภัย: การป้องกันข้อมูลสูญหายแบบเรียลไทม์ครั้งแรกของอุตสาหกรรมสำหรับ Webex ซึ่งจะบล็อกและลบข้อมูลที่เป็นความลับโดยอัตโนมัติ เช่น การส่งข้อความ ด้วยการป้องกันข้อมูลสูญหายแบบเรียลไทม์นี้ ผู้ใช้สามารถห้ามไม่ให้เนื้อหาที่เป็นความลับถูกจัดเก็บไว้ในคลาวด์ แทนที่จะแก้ไขหรือลบเนื้อหาหลังจากโพสต์ นอกจากนี้ New Webex ยังนำเสนอข้อมูลresidency ของ EU อย่างเต็มรูปแบบทั่วทั้งภูมิภาค EMEAR (ยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา รัสเซีย) ที่อนุญาตให้ผู้ใช้โฮสต์ข้อมูล Webex ของตนได้ 100 เปอร์เซ็นต์ในยุโรป ทำให้ใช้งานได้แบบ end-to-end ตลอดเวลา ด้วยการเข้ารหัสด้วยข้อมูลประจำตัวที่ยืนยันแล้วเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ให้บริการคลาวด์ หรือใครก็ตามสามารถฟังการประชุมของคุณได้

Related Posts