EGA เผย ผลสำรวจภาครัฐใช้จี-คลาวด์ ปีงบประมาณ 2560 แล้ว 772 ระบบ 386 หน่วยงาน พบสธ.บริการมากที่สุด คาด 5 ปี นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ดันภาครัฐใช้งานเพิ่มเป็น 2,000 ระบบ ช่วยลดงบประมาณ 30 % ส่วนความคืบหน้าจดทะเบียนธุรกิจบนเว็บเดียวอยู่ระหว่างการรองบ 4,000 ล้านบาท จาก กสทช.
นายศักดิ์ เสกขุนทด ผู้อำนวยการ สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์กรมหาชน) หรือ EGA กล่าวว่า ปัจจุบันมีหน่วยงานของรัฐเชื่อมโยงกับระบบคลาวด์ภาครัฐ หรือ จี-คลาวด์ (Government Cloud Service ) แล้ว 772 ระบบ 386 หน่วยงาน โดยกระทรวงสาธารณสุข( สธ.) ใช้เชื่อมโยงใช้บริการมากที่สุด 72 หน่วยงาน รองลงมาคือกระทรวงศึกษาธิการ
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม , กระทรวงมหาดไทย ด้านการใช้บริการระบบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ใช้งานมากที่สุด 494 ระบบ คาดว่าจี-คลาวด์จะติดตั้งและเชื่อมโยงเครือข่ายทั่วประเทศครอบคลุมทุกหน่วยงานของรัฐภายในสิ้นปีนี้
EGA G-Cloud
ทั้งนี้ ในฐานะหน่วยงานไอทีภาครัฐ G-Cloud สามารถให้บริการโครงการสำคัญๆ ของหน่วยงานต่างๆ มากมาย อาทิ ระบบโครงการระบบภาษีและเอกสารธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ โครงการ National e-Payment โดย สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) ระบบการยื่นแจ้งผลิตภัณฑ์สุขภาพก่อนการนำเข้า
โดย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ระบบโครงการดูแลสุขภาพตลอดช่วงชีวิต โดย ความร่วมมือระหว่างกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน และกระทรวงศึกษาธิการ ระบบบูรณาการฐานข้อมูลประชาชนและการบริการภาครัฐ โดย กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และระบบสารสนเทศเพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ โดย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เป็นต้น
นายศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากแผนพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ 5 ปี เพื่อมุ่งยกระดับบริการของรัฐด้านแรงงาน การศึกษา สาธารณสุข และบริการประชาชน ทำให้หน่วยงานราชการมีโครงการใหญ่ด้านเทคโนโลยี 80 โครงการ ใน 26 เรื่อง ดังกล่าว เช่น โครงการติดตั้งเซ็นเซอร์ในระบบขนส่งมวลชน ของกระทรวงคมนาคม เป็นต้น
ทำให้คาดว่าตัวเลขการใช้ จี- คลาวด์ จะเพิ่มสูงขึ้นจาก 772 ระบบ เป็น 2,000 ระบบ นอกจากนี้ยังคาดว่าจะช่วยลดงบประมาณในการลงทุนด้าต้า เซ็นเตอร์ 10,000 ล้านบาทต่อปีได้ถึง 30 %
“ถ้าหน่วยงานทำระบบเก็บข้อมูลเองต้องใช้งบประมาณจัดซื้อเครื่องแม่ข่าย งบประมาณจ้างบุคคลากรมากมายมหาศาล ปี 59 ภาครัฐประหยัดจากการใช้ จี-คลาวด์ ถึง 900 ล้านบาท ยืนยันว่าเรามาถูกทางในการใช้คลาวด์บริหารจัดการข้อมูลภาครัฐ ” นายศักดิ์ กล่าว
นายศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าในการทำดาต้า เซ็นเตอร์ แห่งชาตินั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างให้หน่วยงานรัฐกว่า 300 หน่วยงานสำรวจความต้องการของหน่วยงานตนเองก่อนว่าภายใน 5 ปี ต้องการนำระบบไหน ฝากไว้ที่ดาต้า เซ็นเตอร์ แห่งชาติที่จะสร้างขึ้น ส่วนใหนจะให้เอกชนดูแล และ ส่วนไหนจะเก็บไว้ภายใต้การดูแลของตนเอง
จึงจะทราบว่าควรจะสร้างดาต้าเซ็นเตอร์แห่งชาติ และ งบประมาณ จำนวนเท่าไหร่ ขณะเดียวกันอีจีเอก็ได้เตรียมลิสต์รายชื่อใบรับรองมาตรฐานด้านดาต้า เซ็นเตอร์ ให้เอกชนที่ต้องการให้บริการดาต้า เซ็นเตอร์ กับภาครัฐ หากเอกชนที่มีใบรับรองครบถ้วนตามที่ อีจีเอกำหนดก็จะสามารถให้บริการภาครัฐได้
” มาตรฐานดาต้า เซ็นเตอร์ ที่อีจีเอทำการลิสต์นั้น ล้วนเป็นมาตรฐานสากลที่เอกชนส่วนใหญ่มีอยู่แล้ว เพียงแต่อีจีเอจะมีแนวทางให้ชัดเจนมากขึ้น และระบบต้องเชื่อมต่อกับภาครัฐโดยง่าย โดยอีจีเอจะนำเรื่องนี้เสนอต่อคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ก่อน จากนั้นจะนำเข้าบอร์ดดีอี ซึ่งจะมีประชุมในเดือน ก.ค.ที่จะถึงนี้ ”
ส่วนความคืบหน้าเรื่องการทำ ระบบจดทะเบียนธุรกิจผ่านเว็บเดียวตามที่ ครม.มีมติไปนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการรองบประมาณ ซึ่ง ครม.มีมติให้ของบจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จำนวน 4,000 ล้านบาท เพื่อทำงานภายในกรอบระยะเวลา 3 ปี
ซึ่งกระบวนการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลแห่งชาติ จะต้องเป็นผู้ดำเนินการเพราะตามกฎหมายระบุว่า กสทช.ต้องนำรายได้ส่วนหนึ่งส่งให้ สำนักงานดังกล่าวด้วย
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน อีจีเอ มีบริการ Biz Portal เพื่อเชื่อมต่อกับหน่วยงานกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าภูมิภาค การประปานครหลวง อยู่แล้ว แต่ยังไม่เพียงพอ เพราะจริงๆแล้วยังมีหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องอีก เกือบ 10 หน่วยงาน ซึ่งเป็นหน้าที่ของอีจีเอที่จะบูรณาการเอาไว้ในเว็บเดียว คาดว่าอีก 3 เดือนจะมีแนวทางต้นแบบออกมาอย่างแน่นอน