“ดอลฟินวอลเล็ท” น้องใหม่อีวอลเล็ตเข้าง่ายแต่อาจจะอยู่ยาก

“ดอลฟินวอลเล็ท” น้องใหม่อีวอลเล็ตเข้าง่ายแต่อาจจะอยู่ยาก
ตลาดกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์หรืออีวอลเล็ทเริ่มคึกคักอีกครั้ง หลังผู้ให้บริการหน้าใหม่อย่างเซ็นทรัล เจดี ฟินเทค โฮลดิ้งได้เตรียมเปิดตัว “ดอลฟิน วอลเล็ท” เพื่อเป็นตัวเลือกใหม่ในตลาด
เน้นสะดวกและปลอดภัย เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับการชำระเงินทั้งสำหรับผู้ค้าและผู้บริโภค ตอบโจทย์สมาชิกของเซ็นทรัลเดอะวันการ์ดกว่า 15 ล้านราย
การเปิดตัวครั้งนี้ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับธนาคารกรุงเทพและธนาคารกสิกรไทย เพื่อให้เป็นไปตามกฏระเบียบของธนาคารแห่งประเทศไทย
การเข้าตลาดด้วยความมั่นใจเพราะแรงสนับสนุนของ JD Digital ผู้นำด้านเทคโนโลยีดิจิทัลจากประเทศจีน และความเชี่ยวชาญของกลุ่มเซ็นทรัล บริษัทค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย
ในครั้งนี้ อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าใดนัก แม้ผู้บริโภคคนหนึ่งจะสามารถมีอีวอลเล็ทได้หลายกระเป๋า แต่ท้ายที่สุดแล้วลูกค้าก็จะเลือกใช้เพียงกระเป๋าใดกระเป๋าหนึ่งเป็นหลักเท่านั้น
และที่ผ่านมากระเป๋าเงินที่ให้บริการมาก่อนหน้านี้อย่างทรูมันนี่วอลเล็ท ที่มีผู้สนับสนุนรายใหญ่อย่างซีพี ซึ่งมีฐานใหญ่เป็นเซเว่นอีเลฟเว่นกระจายอยู่ทั่วประเทศ ก็มีลูกค้าใช้งานมากในระดับหนึ่งแล้ว
หรือแม้แต่ Rabbit LINE Pay ที่มีผู้ถือหุ้นอย่าง mPay (AIS) Rabbit และ LINE ซึ่งปัจจุบันก็มีลูกค้านิยมใช้งานแล้วเช่นกัน และทั้ง 2 รายก็สามารถเข้าถึงการใช้ชีวิตประจำวันของผู้บริโภคในเมืองไทยได้เป็นอย่างดี
ไม่ว่าจะเป็นการจับจ่ายซื้อสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ตอบโจทย์ทางด้านการเดินทาง รวมไปถึงยังมีร้านพันธมิตรที่จับมือกันมาอย่างยาวนานและเรียนรู้พฤติกรรมผู้บริโภคร่วมกันมาแล้วระยะหนึ่ง ยังไม่นับรวมการจัดโปรโมชันที่ค่อนข้างจะโดนใจและถูกใจผู้บริโภคในยุคคลั่งการลดแลกแจกแถมที่ทำได้ค่อนข้างดี
ประกอบกับทั้ง 2 รายยังได้เปรียบอย่างมากตรงที่มีค่ายมือถือหนุนหลัง ดังนั้นการเลือกที่จะดึงดูดให้ลูกค้ามาใช้ย่อมง่ายกว่า
นายวีรวัฒน์ ปัณฑวังกูร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า การทำวอลเล็ทความท้าทายอยู่ตรงที่ต้องทำให้ลูกค้าติดใจและใช้งานประจำ เพราะปัจจุบันการทำธุรกิจนี้ไม่ได้เป็นเรื่องยาก
เพียงแค่มีฐานลูกค้าที่มากพอก็จะสามารถทำได้ ประกอบกับปัจจุบันเงื่อนไขการต่างๆ ในวอลเล็ทไม่ได้มีมากมายเหมือนในอดีต สามารถโอนเงินเข้าบัญชีได้โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม ทำให้ธุรกิจอีวอลเล็ทค่อนข้างได้รับความสนใจ
สำหรับความร่วมมือกับ เซ็นทรัล เจดี มันนี่ ในครั้งนี้ธนาคารกสิกรไทยจะดูแลเรื่องเกตเวย์ โดยจะใช้ความเชี่ยวชาญในด้านดิจิทัลแบงกิ้งมาร่วมมือในการแลกเปลี่ยนนวัตกรรมเทคโนโลยีและข้อมูลซึ่งกันและกัน นำเสนอสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการ และสร้างประสบการณ์ดิจิทัล แบงกิ้ง และอี-เพย์เมนท์ที่ดีให้กับผู้บริโภค
“สิ่งที่ได้จากความร่วมมือในครั้งนี้คือการเข้าถึงใจผู้บริโภคได้มากขึ้น ตอบโจทย์และเพิ่มทางเลือกสร้างความสะดวกสบายให้กับลูกค้าของเราได้ดีขึ้น
ซึ่งนอกจากให้การสนับสนุนด้านธุรกรรมทางการเงินกับผู้ใช้บริการดอลฟิน วอลเล็ท แล้ว กสิกรไทยยังช่วยผลักดันด้านการขยายร้านค้าและจุดรับชำระเงินด้วยอี-เพย์เมนท์
โดยอาศัยจุดแข็งของธนาคารด้านความเป็นผู้นำธุรกิจร้านค้ารับบัตร ซึ่งในปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยมีจำนวนร้านค้าที่รับชำระเงินผ่านเครื่อง EDC กว่า 300,000 จุด และร้านค้า K PLUS Shop อีกกว่า 1.7 ล้านราย
การสนับสนุนนี้ยังเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มร้านค้าที่จะมีทางเลือกในการรับชำระเงินมากขึ้น และกลุ่มลูกค้าก็จะมีทางเลือกในการชำระเงิน และสามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ได้หลากหลายขึ้นด้วย”
ด้านนายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ ธนาคารกรุงเทพจะให้บริการสนับสนุนดอลฟินวอลเล็ท เป็นกระเป๋าเงิน ในการทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ
เช่น การเติมเงินเข้าวอลเล็ท รวมทั้งระบบการยืนยันตัวตนผู้ใช้ โดยผู้ใช้บริการสามารถใช้ดอลฟิน วอลเล็ท สแกนคิวอาร์โค้ดชำระค่าสินค้ากับร้านค้าที่รับพร้อมเพย์คิวอาร์โค้ดซึ่งมีจำนวนกว่า 3 ล้านร้านค้าทั่วประเทศทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด
นอกจากนี้ความร่วมมือดังกล่าวยังถือเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินการของธนาคารกรุงเทพตาม National ePayment Plan ที่ธนาคารกรุงเทพได้มีส่วนร่วมสนับสนุนมาโดยตลอด ทางธนาคารมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นธนาคารพันธมิตรในอีกหนึ่งก้าวสำคัญ ที่จะยกระดับประเทศไทยสู่สังคมไร้เงินสดอย่างเต็มรูปแบบ
นายรุ่งเรือง สุขเกิดกิจพิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซ็นทรัล เจดี ฟินเทค กล่าวว่า ดอลฟิน วอลเล็ท เป็นบริการอี-วอลเล็ทที่จะนำเสนอนวัตกรรมทางการเงินที่เข้าถึงได้ง่าย ตอบสนองทุกความต้องการด้านการเงินที่แตกต่างไปในแต่ละบุคคลผ่านเทคโนโลยี AI และ Big Data Analytics
ซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญหลักของเซ็นทรัล เจดี มันนี่ ที่พร้อมช่วยคิดและแนะนำโปรโมชันที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และคุ้มค่าที่สุด พร้อมมอบสิทธิประโยชน์อีกมากมายผ่าน The1 Loyalty Platform
ทั้งนี้การจับมือกับธนาคารกรุงเทพและธนาคารกสิกรไทยและแรงสนับสนุนจากกลุ่มเซ็นทรัล จะช่วยให้ดอลฟิน วอลเล็ท สร้างความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี พร้อมรองรับการซื้อสินค้าและทำธุรกรรมต่างๆ ได้อย่างครอบคลุม
ทั้งที่ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าทั่วประเทศ ทั้งในเครือเซ็นทรัลและเครือข่ายร้านค้าพันธมิตรอีกมากมาย นอกจากนี้ยังจะรองรับการชำระและโอนเงินแบบครบครันทุกช่องทาง นับตั้งแต่การเชื่อมโยงกับบัญชีธนาคาร บัตรเดบิต และบัตรเครดิต การเติมเงินสดผ่านเคาน์เตอร์ CenPay ทุกสาขาทั่วประเทศ
โดยตั้งเป้าในปีแรกของการเข้ามาใช้งานไว้ที่ 4-5 ล้านราย และจะเพิ่มเป็น 10 ล้านรายในอีก 3 ปีข้างหน้า
นอกจากคุณสมบัติและบริการทั้งหมดนี้แล้ว ดอลฟิน วอลเล็ท ยังเป็นอี-วอลเล็ทเจ้าแรกที่นำระบบ E-KYC (electronic know-your-customer) มาใช้ในการยืนยันตัวตนเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและช่วยลดขั้นตอนในการลงทะเบียนเปิดบริการ
โดยผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย ทั้งการจดจำใบหน้า (face recognition) และการอ่านตัวอักษรจากภาพถ่าย (OCR – optical character recognition) เพื่อยืนยันตัวตนของผู้ใช้งานจากภาพเซลฟี่และภาพถ่ายบัตรประชาชน โดยไม่ต้องมีการยื่นเอกสารในช่องทางอื่นนอกแอป
รวมไปถึงมีแผนที่จะเปิดตัวระบบการชำระเงินด้วยใบหน้าเพื่อความสะดวกและปลอดภัยสูงสุดในการชำระเงิน รวมถึงมีแผนการเปิดบริการด้าน E-Consumer Finance ในเครือของเซ็นทรัล เจดี ฟินเทค โฮลดิ้งอีกด้วย
ขณะนี้ แอปพลิเคชัน ดอลฟิน วอลเล็ท อยู่ในช่วงเตรียมความพร้อมขั้นสุดท้าย โดยจะเปิดให้ใช้งานอย่างเป็นทางการหลังจากที่ได้รับอนุญาตจากทางธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนหลังจากเปิดใช้งานแล้วจะเป็นอย่างไร ยังต้องติดตาม และจับตาดูว่าจะมีกลยุทธ์อะไรมาทำให้ผู้ประกอบการรายอื่นได้ตื่นเต้นกันมากน้อยแค่ไหน

Related Posts