อินสตาแกรม ทดลองเปิดตัว Instagram Academy Thailand ครั้งแรกในประเทศไทยและเป็นประเทศที่ 2 ของโลก เตรียมดันผู้ประกอบการกลุ่มมิลเลนเนียลและนิสิตนักศึกษารุ่นแรก 250 คน เพิ่มพูนทักษะดิจิทัลสู่การเป็นผู้ประกอบการออนไลน์รุ่นใหม่ที่ใช้เครื่องมือ IG ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประสบความสำเร็จกับธุรกิจที่ตั้งใจต่อไปในอนาคต
ชวดี วงศ์พยัต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจระดับประเทศ แผนกธุรกิจนานาชาติ ประจำ Facebook ประเทศไทย กล่าวว่า กลุ่มมิลเลนเนียล มีส่วนสำคัญในการผลักดันอินสตาแกรมและเฟซบุ๊กในประเทศไทยและทั่วโลกเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นยังมีความต้องการเป็นผุ้ประกอบการในตัวเองอยู่มาก
การนำเสนอ Instagram Academy Thailand จะเป็นโปรแกรมเสริมทักษะทางด้านดิจิทัล โดยเน้นที่การใข้อินสตาแกรมเพื่อธุรกิจโดยเฉพาะ เริ่มจากการเรียนรู้เครื่องมือต่างๆและใช้งานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เรียนรู้การครีเอทีฟคอนเทนต์บนอินสตาแกรมที่เหมาะสม เพื่อเรียกยอดผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเรียนรู้การลงโฆษณาขั้นสูง เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุดในการเผยแพร่ตัวตนของแบรนด์สู่สาธารณะ
ซึ่งนอกจากจะเป็นการเพิ่มพูนทักษะความรู้ในเรื่องของเครื่องมือแล้ว ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนรุ่นใหม่ได้มองเห็นความท้าทายในการเข้าสู่ธุรกิจผ่านเครื่องมือออนไลน์ที่มีอยู่ จากการประสบความสำเร็จของเยาวชนที่ได้มาบอกเล่าประสบการณ์และกรณีตัวอย่างของความสำเร็จจากการสร้างธุรกิจในขณะที่ยังมีอายุน้อยอีกด้วย
ชนิสรา วงศ์ดีประสิทธิ์ ผู้ร่วมก่อตั้ง แบรนด์ Diamond Grains กล่าวว่า จากจุดเริ่มต้นของความชอบบวกกับการท่องเที่ยว ทำให้เริ่มค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก็พบว่าความต้องการของตลาด เรื่องอาหารสุขภาพกำลังมาแรง ทำให้เราเข้ามาสู่ธุรกิจอาหารในช่วงวัย 19 ปี และเริ่มลงมือทำออกมาเป็นกราโนร่า ซึ่งเป็นธัญพืชไม่ขัดสีอบรวมกันจนกรุบกรอบในรสชาดที่จัดจ้าน เนื่องจากในตอนนั้นคือการมองเห็นปัญหาของคนรักสุขภาพที่ขาดรสชาด ทำให้เจาะช่องอาหารสุขภาพที่มีรสชาดอันโดดเด่นออกมา
สิ่งที่ยากในตอนเริ่มต้นคือการมีตัวตนของแบรนด์บนโลกออนไลน์ เนื่องจากเราเป็นแบรนด์เล็กทำให้งบประมาณในการโฆษณามีจำกัด ซึ่งอินสตาแกรมกลายเป็นช่องทางที่ทำให้ Diamond Grains เติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก จากกลุ่มคนที่ต้องการดูแลสุขภาพเป็นหลัก
อินสตาแกรมยังเป็นช่องทางสำคัญในการเชื่อมต่อให้ผู้บริโภค สามารถเสพความเป็น Diamond Grains และไลฟ์สไตล์ของเรา ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ซึ่งกว่า 80%ของภาพที่โพสต์อยู่ในอินสตาแกรม Diamond Grains เป็นภาพของลูกค้าที่ตั้งใจถ่าย และกลายมาเป็นคอมมูนิตี้ที่แข็งแกร่ง ทำให้เกิดคอนเทนต์อย่างต่อเนื่อง
จิตพล ศิริวัฒนเมธางกูล ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ CAMP วัย 30 ปี กล่าวว่า เราเริ่มต้นจากเห็นเทรนด์ในปี 2015 ที่มีธุรกิจร้านเสื้อผ้าบนอินสตาแกรมเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น ซึ่งในอดีตมีแบรนด์เสื้อผ้าใหญ่ๆเท่านั้นที่ออกสื่อได้ ในวันนั้นเราเห็นว่าอินสตาแกรมเริ่มมีการโปรโมทแบรนด์เสื้อผ้าขนาดเล็กมากขึ้น
ทำให้เราคิดที่จะรวบรวมแบรนด์เสื้อผ้าขนาดเล็กในโลกออนไลน์ ให้มาขายจริงบนโลกการค้าแบบออฟไลน์อย่างคึกคัก ซึ่งก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และเห็นว่ามีความชัดเจนของกระแสที่มั่นคงมากขึ้น จนสามารถขยับเข้าสู่การมีแหล่งที่ตั้งที่ชัดเจน และกลายเป็นแคมป์ที่รวบรวมแบรนด์เสื้อผ้าจากอินสตาแกรมอย่างทุกวันนี้
โดยฟีเจอร์ที่ใช้มากที่สุด คือการใช้กรุ้ป เพื่อให้อินสตาแกรม ค้นหากลุ่มคนที่เหมือนกันเพื่อดึงดูดกลุ่มคนเหมือนกันเข้ามาหากัน อีกทั้งยังมีเครื่องมือในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายและตัวจัดการโฆษณา เพื่อให้เราเข้าใจและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น
ลลิตา คุณาดิเรกวงศ์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Copper.bkk วัย 21 ปี ระบุว่า มองเห็นการโด่งดังของร้านเสื้อผ้าในโลกออนไลน์ที่น่าตื่นเต้นมาก ซึ่งวันแรกที่เราเริ่มทำร้านในอินสตาแกรม เราตั้งเป้าเพียงแค่ให้แคมป์ติดต่อเราเข้า เราก็ดีใจแล้ว ซึ่งเราก็คาดหวังว่าจะสามารถโด่งดังในโลกอิสตาแกรมให้ได้ แล้วก็เริ่มออกแบบและสร้างแบรนด์เสื้อผ้าของตนเองทันที จนกลายเป็นแบรนด์ Copper.BKK
ส่วนใหญ่แล้ว ฟีเจอร์ที่เราใช้มากที่สุดในอินสตาแกรม คือการตอบคำถาม (Q&A Stickers) เนื่องจากเราเป็นแบรนด์สินค้าเสื้อผ้า ฟีเจอร์การตอบคำถามจึงช่วยทำให้ลูกค้ามั่นใจในขนาดและรายละเอียดในการซื้อมากขึ้น ช่วยให้เกิดยอดขายที่ดี
ชวดี วงศ์พยัต กล่าวเสริมว่า จะเห็นได้ว่าตัวอย่างของเยาวชนที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจนับตั้งแต่อายุยังน้อยนั้น เริ่มต้นจากหาความชอบของเราให้เจอ แล้วเริ่มลงมือทำทันที แตกต่างจากคนรุ่นเก่าที่ต้องคิดและพิจารณาจนแน่ใจแล้วจึงค่อยลงมือทำ และหากลงมือทำแล้ววันนี้เราควรมาเรียนรู้เครื่องมือในการสร้างตัวตนของตนเองหรือของแบรนด์บนโลกออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จ และเรียนรู้เครื่องมือในการโปรโมทเพื่อกระตุ้นให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจมิลเลนเนี่ยมประสบความสำเร็จได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ Instagram Academy Thailand เป็นโปรแกรมฝึกอบรมที่ต่อยอดและดัดแปลงจากโครงการฝึกอบรมซึ่งจัดขึ้นในเมืองต่างๆ ในประเทศอินโดนีเซีย โดยมุ่งเน้นสำหรับกลุ่มนักธุรกิจรุ่นเยาว์ที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปี โปรแกรมดังกล่าวนี้เป็นผลต่อเนื่องมาจากความสำเร็จของ Instagram ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มที่ช่วยให้ผู้คนและธุรกิจต่างๆ สามารถแสดงออกถึงเอกลักษณ์ของตนสู่ชุมชนที่มีผู้ใช้งานกว่าหนึ่งพันล้านคนทั่วโลก ทั้งนี้ ร้อยละ 90 ของคนกลุ่มนี้กดติดตามธุรกิจที่ตนสนใจและสำหรับในประเทศไทย ตัวเลขดังกล่าวยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
Instagram Academy Thailand ได้จัดทำโปรแกรมและบทเรียนต่างๆ เป็นภาษาไทย โดยเน้นที่การสร้างสรรค์ คอนเทนต์และการอบรมด้านการใช้งานโฆษณาขั้นสูง โดยครอบคลุมถึงหัวข้อต่างๆ เช่น ทำความเข้าใจเครื่องมือต่างๆ จาก Instagram ที่ช่วยผลักดันธุรกิจ, การสร้างสรรค์คอนเทนต์คุณภาพ, โฆษณาบน Instagram และ Facebook, การตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายขั้นสูง และอื่นๆ
ผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จการเติบโตของ Instagram คือกลุ่มคนยุคมิลเลนเนียล ซึ่งมีจำนวน 20 ล้านคนในประเทศไทย พวกเขาไม่เพียงรับหน้าที่ในฐานะผู้บริโภค แต่มีจำนวนมากที่ใฝ่ฝันในการเป็นเจ้าของธุรกิจเล็กๆ ของตนเอง ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าชาวไทยในยุคมิลเลนเนียลนั้นเริ่มธุรกิจของตนเองด้วยวัยเพียงแค่ 19 ปี หรือในขณะที่พวกเขายังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัย ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ได้ช่วยสร้างตัวเลขมูลค่าตลาดราว 7 ล้านล้านบาทในวงการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย โดยถือเป็นร้อยละ 43 ของค่าจีดีพีและมูลค่าการผลิตของประเทศโดยรวม
กระแสความนิยมของ Instagram ในฐานะแพลทฟอร์มที่ช่วยให้นักธุรกิจรุ่นเยาว์สร้างสรรค์อาชีพและดำเนินตามความฝันนั้นยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง อ้างอิงจากการสำรวจจากอิปซอสส์ (IPSOS) ต่ออิทธิพลของ Instagram ที่มีต่อกลุ่มผู้ประกอบการขนาดย่อมในอินโดนีเซีย พบว่า ผู้ใช้งานหลายคนที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปีได้ใช้ Instagram ในการริเริ่มธุรกิจ และหลายคนมีธุรกิจเป็นของตนเองก่อนสำเร็จก่อนศึกษาอีกด้วย ร้อยละ 82 ของผู้ที่ร่วมตอบแบบสอบถามเห็นด้วยอย่างยิ่งว่า Instagram มีส่วนช่วยให้นักประกอบการรุ่นเยาว์บรรลุถึงเป้าหมายทางธุรกิจ ในขณะที่ร้อยละ 74 เห็นด้วยอย่างยิ่งว่าธุรกิจของพวกเขาเติบโตได้จากบัญชี Instagram
“ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram และแอปพลิเคชั่นอื่นๆ ในเครือของเรา พันธกิจของเรายังคงไม่เปลียนแปลง นั่นคือเรามุ่งมั่นช่วยผลักดันการพัฒนาด้านดิจิทัลในประเทศไทย โดยช่วยให้ธุรกิจทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ก้าวสู่เส้นทางบนโลกดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับชุมชนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศไทยโดยเฉพาะแล้ว”
“เราพบว่าการซื้อขายผ่านการสนทนา (conversational commerce) ถือเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง และประเทศไทยเองซึ่งเป็นผู้นำในด้านดังกล่าว ยังพัฒนาอย่างต่อเนื่องสู่การเป็นประเทศยุคโมบายเฟิร์ส โดยเปิดรับเครื่องมือทางดิจิทัลเพื่อการเติบโตทางธุรกิจ ตลอดถึงการใช้นวัตกรรมสินค้าใหม่ๆ”
เพื่อตอบสนองการเติบโตเชิงดิจิทัลดังกล่าวและสร้างแรงบันดาลใจให้กับเหล่านักธุรกิจหน้าใหม่ในอนาคต งาน Instagram Academy Thailand ในวันนี้จึงได้ร่วมมือกับตัวแทนนักประกอบการรุ่นเยาว์จากธุรกิจด้านความงามและแฟชั่น ซึ่งถือเป็นหมวดหมู่ที่คนนิยมค้นหามากที่สุดบน Instagram ในประเทศไทย โปรแกรมการอบรมในวันนี้ยังได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อจุดประกายความฝันให้กับผู้ประกอบการธุรกิจรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น นักศึกษาจากภาควิชาบริหารธุรกิจบัณฑิต คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นิสิตจากภาควิชาสาขาวิชาการออกแบบนิเทศศิลป์ (นานาชาติ) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และยังรวมไปถึงกลุ่มนักเรียนในสาขาแฟชั่นและการออกแบบ