การเติบโตของ รถยนต์ไฟฟ้า ค่ายรถยนต์น้องใหม่ภายใต้แบรนด์ BYD รถยนต์สัญชาติจีนที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยได้อย่างคึกคัก ด้วยยอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าเพียงไม่กี่เดือนแต่ทะลุ 12,000 คันเป็นที่เรียบร้อย ด้วยภาพลักษณ์ของ รถยนต์ไฟฟ้า ในฝันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยแนวคิด Bring Your Dreams ด้วยคุณภาพ เทคโนโลยี และราคาที่เข้าถึงได้ และวันนี้ TheReporterAsia ก็ได้มีโอกาสเดินทางเข้ามาที่สำนักงานใหญ่ BYD ที่ตั้งอยู่ในเซินเจิ้น ประเทศจีน เพื่อมาทำความเข้าใจกับความตั้งใจที่มุ่งมั่นของ BYD ที่จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยว่ามีความพร้อมและความจริงจังมากเพียงใด
- – จับตา VSTECS เดินหน้าขยายธุรกิจใหม่ คาดโตต่อเนื่องกว่า 2 หลัก
- – เรเว่ ลงนามสรรพสามิต ลุยรถพาณิชย์ไฟฟ้าในไทย
หลิว เสวียเลี่ยง ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสทรี จำกัด เปิดเผยกับเราว่า ความสำเร็จของการเข้ามาทำตลาด รถยนต์ไฟฟ้า ในประเทศไทยนั้น หากนับระยะเวลาเพียงแค่ 1 ปี BYD สามารถขยายตลาดในประเทศไทยได้อย่างรวดเร็ว เกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งประเทศถูกจัดให้อยู่ในเทียร์แรกของการทำตลาดต่างประเทศทั่วโลก ซึ่งนับว่าเป็นตลาดที่ BYD ให้ความสำคัญมากที่สุด

แต่กระนั้น หลิว เสวียเลี่ยง ยังให้ฟังอีกว่า ก่อนหน้านี้หากย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว BYD ก็ได้เริ่มเข้าสู่ตลาดประเทศไทยแล้ว แต่เป็นเพียงการทำธุรกิจเกี่ยวกับการจัดทำแผงพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิตไฟฟ้าเท่านั้น โดยจุดเริ่มต้นหากนับจากเมื่อ 10 ที่ผ่านมา ที่เราเริ่มมีการเจรจาธุรกิจเกี่ยวกับการไฟฟ้า ไปจนถึงปั๊มน้ำมัน และท้ายที่สุดมีการถามถึงรถไฟฟ้าของ BYD ว่าจะเข้าประเทศไทยหรือไม่
และหลังจากนั้นเราก็มีแนวคิดของการเข้าไปทดลองตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยใช้ช่องทางผ่านตัวแทนจำหน่าย ซึ่งก็มีรถรุ่นแรกที่เข้าไปคือรถบัสไฟฟ้า และรถแท็กซี่ไฟฟ้า โดยในช่วงแรกนั้นเรามีการนำเข้าไป 101 คัน ทั้งในพื้นที่สนามบิน และวิ่งทั่วไป ด้วยการบริหารจัดการโดย BYD เอง เพื่อเป็นการทดลองความพร้อมของตัวรถและคุณภาพเมื่อของรถยนต์ไฟฟ้าเมื่อต้องถูกใช้ในสภาวะอากาศและท้องถนนของประเทศไทย ทั้งการวิ่งในช่วงที่มีอากาศร้อนมาก และรูปแบบถนนที่แตกต่างกัน ด้วยการให้บริการ 24 ชั่วโมง ซึ่งก็มีทั้งฝนตกและน้ำท่วมด้วย
วันนี้เรามีความมั่นใจในสินค้าของแบรนด์ BYD ที่จะขายในประเทศไทยแล้ว และไม่นานมานี้ก็ได้นำรถโฟล์คลิฟไฟฟ้าเข้าไปจำหน่ายในไทย ผ่านความร่วมมือกับ บริษัท สยาม แอดวานซ์ เทคโนโลยี่ รีเลชั่นชิป จำกัด หรือ Siam ATR อีกด้วย
นอกจากนี้เรายังมีการติดตามและตอบรับนโยบายของรัฐบาลไทยในการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าให้เกิดการใช้งานในประเทศไทยมากขึ้น อีกทั้งประเทศไทยยังมีการส่งเสริมและโครงสร้างพื้นฐานในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี

โดยตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่าน ทำให้เรารับรู้ว่า ถึงเวลาแล้วที่เราจะเข้าไปทำตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจัง และบริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ ก็สามารถช่วยให้เรา เดินหน้าเข้าสู่ตลาดผู้บริโภคของประเทศไทยได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกของการแชร์ประสบการณ์ เมื่อปีที่แล้วที่เราตั้งใจเข้าสู่ตลาดประเทศไทย
ความตั้งใจในการทำตลาดและให้ความสำคัญกับประเทศไทยของเรา สะท้อนได้จากการตั้งโรงงานแห่งแรกนอกประเทศจีน โดยจะตั้งอยู่ในเขต อีอีซี ของประเทศไทย แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีเรื่องราวของการตั้งโรงงานแห่งแรกในต่างประเทศอยู่มากมาย แต่ความร่วมมือกับท้องถิ่นอย่างใกล้ชิดก็เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่ทำให้เราประสบความสำเร็จได้
ซึ่งการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าครั้งแรกของแบรนด์ BYD ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา และมีคนรอต่อคิวเพื่อรอซื้อรถยนต์ไฟฟ้า BYD จนกลายเป็นปรากฏการณ์ที่ส่งต่อและเผยแพร่เรื่องราวนี้ออกไปทั่วโลก นับเป็นปรากฏการณ์ที่สื่อได้ถึงอุดมการณ์ สินค้า และสิ่งแวดล้อม เพื่อทำให้ผู้บริโภคชาวไทยรับรู้ได้ถึงความตั้งใจในการสรรค์สร้างผลิตภัณฑ์ของ BYDได้อย่างแท้จริง
หลิว เสวียเลี่ยง ยังได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า การทำให้สังคมโลกกลายเป็นสีเขียวจากเพียงบริษัทเดียวคงไม่สำเร็จ หากแต่ทุกคน ทุกบริษัท ทั่วโลก ควรมีส่วนร่วม และเราหวังว่าทุกคนจะมีส่วนร่วมในการลงมือทำให้โลกใบนี้มีสังคมสีเขียวเพิ่มมากขึ้น และการนำผลิตภัณฑ์เข้าไปตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวไทยได้อย่างสวยงามในครั้งนี้ ก็นับเป็นต้นแบบความสำเร็จที่จะขยายไปสู่ตลาดอื่น ๆ ต่อไป