ความท้าทายของ ผู้บริหาร ยุคนี้ ไม่ใช่แค่การนำพาองค์กรให้พร้ อมก้าวไปให้ทันความเปลี่ ยนแปลงของโลกใบเดิม ที่ไม่มี อะไรเหมือนเดิมอีกต่อไป แต่ในยุคที่แลนด์สเคปในโลกธุรกิ จเปลี่ยนแปลงแบบติดสปีด แถมยังต้องรับมือกับสถานการณ์ที่ ไม่แน่นอน ผู้นำที่แข็งแกร่งจึงต้องมองเห็ นโอกาส และความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้า เพื่อกำหนดทิศทางให้องค์กรเดิ นไปข้างหน้าได้โดยไม่หลงทาง และสามารถพิชิตเป้าหมายที่ตั้ งไว้ ต่อให้ระหว่างทางจะพบเจอกับอุ ปสรรคก็ตาม
คำถาม คือ เราจะเป็นผู้นำแบบนั้นได้อย่ างไร ?
เพื่อหาคำตอบดังกล่าว SEAC ผู้นำด้านการพัฒนาศักยภาพบุ คลากรและองค์กรเพื่อส่งเสริ มการเรียนรู้ตลอดชีวิต จึงได้จัดงาน “Breaking The Mold กล้าขบถ ขนบเดิม ” งานเสวนาแลกเปลี่ยนข้อคิดที่ ผู้ บริหาร ได้จากโครงการ Leading in a Disruptive World หรือ LDW รุ่นที่ 5 ซึ่ง SEAC ร่วมกับ The Stanford Center for Professional Development มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ออกแบบ หลักสูตรระดับเวิลด์คลาส เพื่อตอบโจทย์สถานการณ์การเปลี่ ยนแปลงของโลกธุรกิจหลั งสถานการณ์โควิด- 19
เพื่อช่วยให้ ผู้บริหารระดับสูง และเจ้าของธุรกิจนำองค์ความรู้ ไปปรับใช้ได้จริง และนำพาองค์ กรของตนสู่ความสำเร็จ โดยในงานนี้ได้รับเกียรติจากผู้ บริหารและเจ้าของธุรกิจ มาเป็นตัวแทนบรรยาย แลกเปลี่ ยนประสบการณ์ และเคล็ดวิชาที่ได้ เพื่อนำไปต่อยอดสู่การสร้างนวั ตกรรมในองค์กรของแต่ละท่าน ซึ่งมีทั้งธุรกิจครอบครัว องค์กรยักษ์ใหญ่ ตลอดจนมหาวิทยาลัยของไทย
คุณศันสนา สุขะนันท์ รองกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย ฝ่ายทรัพยากรบุคคล
‘อยากดีที่สุดในทุกเรื่อง ’ ต้องหวนกลับมาดูทรัพยากร และเป้าหมายใหญ่
การตั้งเป้าหมายที่จะเป็น No.1 คือหมุดหมายใหญ่ที่ทุกองค์กรฝั นจะไปให้ถึง หลายบริษัทพยายามทุกวิถีทาง ทำหล ายอย่างพร้อมกัน ทั้งเป้าหมายเก่า และคิดค้นกลยุทธ์ใหม่ ๆ เข้ามาเสริมทัพ เพื่อพาองค์กรทะยานไปข้างหน้าจน กลายเป็นว่าองค์กรกำลังลุยทุกจุ ด แต่ คุณศันสนา สุขะนันท์ รองกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิ กรไทย สายงานทรัพยากรบุคคล ก็ได้เปลี่ยนความคิดหลังจากเข้ าร่วม LDW Project ครั้งที่ 5
สิ่งที่คิดว่าจะนำมาต่อยอด คือ บางครั้งองค์กรลืมกลับมาดูว่ าทรัพยากร ( Resource) ซึ่งอาจจะหมายถึง เวลา คน และเงินทุน เพียงพอหรือตอบโจทย์เป้ าหมายใหญ่ขององค์กรหรือไม่ แน่นอนว่าเรามาพร้อมความตั้ งใจที่จะเป็นที่หนึ่งในทุกเรื่ อง ก่อนหน้านี้ ฝั่ง HR เองเราก็อยากพัฒนาบุคลากรให้ รองรับความต้องการดังกล่าว จึงผุดไอเดียใหม่ๆ กลยุทธ์งามๆ แตกแยกย่อยออกมาซ้อนทับกั นเยอะจนพนักงานรับไม่ไหว และยังเสียทรัพยากรโดยไม่จำเป็ นอีกด้วย
ในฐานะผู้บริหาร ต้องกลับมาใช้เวลามองภาพรวมใหญ่ ขึ้น ว่าจะจัดสรรอย่างไร ทำไปเพื่ออะไร เป้าหมายต้องชัด ขณะเดียวกันเราต้องคิดถึงผู้ นำองค์กรในอนาคต ที่พร้อมจะมานำองค์กร ไม่ว่าจะเจอการเปลี่ ยนแปลงอะไรก็ตามเราต้องสร้าง Future Leader ที่คิดเป็น คิดต่อ และเกิดการ Apply
ทุกบทเรียนที่ได้เรียนเหมื อนการต่อจุดที่สามารถเชื่ อมโยงกันเป็นภาพใหญ่ เพื่อนำไปปรับใช้ในโลก การทำงานจ ริง เพราะในบทเรียนของ LDW ค่อนข้างครอบคลุม หลักสูตรมีการปูพื้นฐาน ตั้งแต่แนวคิดไปจนถึงเทคนิค ในก ารนำแต่ละความรู้ไปปรับใช้ รวมไปถึงมายด์เซ็ท
นอกจากนี้ ทาง SEAC ยังช่วย unpack เพื่อ connect the dot ทำให้ผู้เรียนได้ตกผลึกว่า จะนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดอย่ างไร สามารถนำมาร้อยเรียงเข้ากับสิ่ งที่เป็นอยู่ได้ทันที ข้อคิดที่ได้คือ เราต้องหวนกลับมานึกถึงจุดที่ เราเป็น สิ่งที่เรามี ดูว่าสิ่งที่กำลังทำนั้ นทำไปทำไม จุดมุ่งหมาย อยู่ตรงไหน ซึ่งจะนำไปสู่การปรั บปรุงการทำงานที่เฉียบคมมากขึ้ นในท้ายที่สุด
คุณเรืองชาย สุพรรณพงศ์ ประธานบริหารสายงานปฎิบัติการองค์กร บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด
AI มาแน่ แต่ไม่ได้มาแทนในทุกเรื่อง
กระแสข่าว AI แย่งงานมนุษย์เป็นที่พูดถึงในช่ วงหลายปีมานี้ และทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อมี การเปิดตัว ChatGPT บริการแชทบอทออนไลน์ที่ตอบได้ (เกือบ) ทุกคำถาม ช่วยวางแผนได้ทุกเรื่อง ทำคนไม่น้อยแตกตื่นกับยุค Digital Disruption ที่จะพรากสิ่งที่มนุษย์ เคยทำไปเป็นของหุ่นยนต์ไร้ชีวิต ทว่า คุณเรืองชาย สุพรรณพงศ์ ประธานบริ หารสายงานปฎิบัติการองค์กร บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด ซึ่งมีโอกาสเข้าร่ วมโครงการมาแล้ว 2 รุ่น กลับบอกว่าอาจไม่ได้เป็ นอย่างนั้นเสมอไป หลังกลับจากคลาสของ LDW รุ่นที่ 5 นี้
“ในช่วงหลายปีก่อน Digital Disruption ทำให้บริษัทผมดำเนินงานไปพร้ อมกับความกลัว เราต้องไม่ช้า ต้องไม่ล้ำหน้าน้ อยกว่าคนอื่น ต้อง Scale Up และเข้าถึงคนได้มาก เราสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ใช้เทคโนโลยีพัฒนา สิ่งที่เหนื อกว่า ผ่านการใช้กำลังคนเพียงหยิบมื อที่ทำพร้อมกันหลายหน้าที่ จนถึงจุดหนึ่งที่พนักงาน Burn out ไปต่อไม่ไหว
ในคลาสเรียน LDW ที่สแตนฟอร์ดครั้งนี้ ผมประหลาดใจมากที่ไม่มีใครพูดถึ งแนวทางเก่าๆ แบบที่ผมเคยคิด นอกจากนั้น Professor ทุกคนพูดถึงเรื่อง AI กับ ChatGPT แต่ไม่มีใครพูดเรื่อง Blockchain เลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้เรามองว่ามั นเป็นเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก AI คือสิ่งที่เมื่อองค์กรใดก็ ตามนำมาใช้ควบคู่กับการพั ฒนากลยุทธ์ได้อย่างสอดคล้อง จะสา มารถสร้างความแตกต่างได้อย่างดี
แต่ AI มีจุดอ่อนตรงที่ไม่มีทักษะ 0-1 คือการนำ Data มาแยกย่อย จัดเรียง และคาดการณ์ด้วยอารมณ์ได้เหมื อนมนุษย์ ฉะนั้นเส้นทางที่องค์กรต้องเดิ นหน้าไปคือการสร้างคนให้มีทักษะ 0-1 รวมถึงเรียนรู้ว่า AI ที่เปิดให้ใช้ในปัจจุบัน มี Tools อะไรที่นำมาประยุกต์กั บการทำงานของเราได้บ้าง และส่งเสริมให้คนในองค์กรใช้ งานให้เป็น ซึ่งการทำแบบนี้นอกจากจะประหยั ดเวลา ยังเพิ่ม Capability ให้องค์กรได้อีกด้วย”
ผศ.นพ.บุญชัย หวังศุภดิลก รองคณบดีฝ่ายเวชสารสนเทศ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
กล้าคิดนอกกรอบ สู่การ Reframe องค์กรที่เหนือกว่า
หลักสูตร LDW คาดหวังให้ผู้เข้าร่วมนำองค์ ความรู้ที่ได้ไปปรับใช้เพื่อ Reframing หรือ ปรับโครงสร้างองค์กรให้ดีที่สุ ดสำหรับตนเอง ซึ่ง ผศ.นพ.บุญชัย หวังศุภดิลก รองคณบดีฝ่ายเวชสารสนเทศ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ก็ได้ ให้ข้อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ ว่า “อย่าติดกับดักในภาพเดิม คุณต้อง Reframe ตัวเองให้ได้ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ก็เป็ นโรงพยาบาลหนึ่งที่มีจุดมุ่ งหมายในการทำเพื่อสังคม เช่นเดียวกับสถาบันการแพทย์อื่ นๆ แต่ในโลกยุคใหม่เราอยากให้ คนมองโรงพยาบาลในมุมใหม่ที่ก็มี ความเป็นธุรกิจเช่นกัน
โรงพยาบาลสงขลานครินทร์มีแผนที่ จะทำธุรกิจเกี่ยวกับ Medical Tourism นั่นเป็นเหตุผลที่ผม และอาจารย์แพทย์อีกหลายๆ ท่านเข้าร่วมกับ LDWเพื่อเรียนรู้เรื่องธุรกิจ นำกลยุทธ์ที่ได้ไปปรับใช้ให้เท่ าทันความเปลี่ยนแปลง เรามองว่าผู้บริ หารโรงพยาบาลในอนาคตอาจไม่จำเป็ นต้องเป็นหมออย่างเดียว แต่จะดีกว่าไหม หากเป็นคนที่มีลักษณะของผู้ ประกอบการมากกว่า กล้าที่จะนำโมเดลธุรกิจขององค์ กรอื่นๆ มาปรับใช้ เหมือนอย่างคีย์เวิร์ดหนึ่งที่ Professor ได้บอกว่า “การรีเฟรมองค์กร ไม่มีกรอบตายตัว”
ในอนาคตโรงพยาบาลอาจจะเด่นทั้ งด้านการรักษา และมีบริการที่ดีเลิศระดับเดี ยวกับโรงแรมห้าดาวเพื่อเพิ่มมู ลค่าให้ตนเอง ก็เป็นไปได้ สำคัญคือ หากเราเป็น ทางลัดใดก็ตามที่มั นจะช่วยนำพาเราไปยังโอกาสการเติ บโตที่เหมาะสม ก็เป็นสิ่งที่น่ าลอง ”
คุณอริญญา เถลิงศรี กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้งซีแอค
นอกจากนั้น คุณอริญญา เถลิงศรี กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้ งซีแอค ก็ได้กล่าวถึงหัวใจสำคัญ ของการเ รียนรู้และการจัดงานเสวนาครั้ งนี้ในฐานะผู้นำไว้ด้วยว่า “ในขณะที่เรากำลังก้าวเข้าสู่ Knowledge Economy ความรู้สามารถหาได้จากหลายแหล่ง ทั้งอินเทอร์เน็ต หนังสือ ทั้งฟรี และไม่ฟรี แต่ซีแอคเชื่อว่า ไม่มีแหล่งความรู้ใด ที่จะให้คุ ณค่าไปได้ดีกว่า “มนุษย์” ด้วยกันเอง เพราะการได้ฟังประสบการณ์ รวมถึงรั บอาหารสมองจากปากของคนที่ผ่ านการลงสนามมาด้วยตนเอง เรียนรู้เรื่องราวต่างๆ และนำมาย่อยให้เราฟัง จะได้มุมมองที่ลึกซึ้งถึงแก่น
ในฐานะผู้บริหารและเจ้าของธุรกิ จ เรามีหน้าที่ในการนำเรื่องยากๆ มาย่อยเป็นเรื่องง่ายๆ เพื่อส่งต่อไปยังพนักงาน เรียนรู้ที่จะ Improvise รับมือทุกตัวแปรที่ผ่านเข้ ามาเป็นตัวอย่างให้กับบุคลากร หรือก็คือการปรับเปลี่ยนที่เริ่ มจาก Top to Downเป็นหนทางสู่การเปลี่ยนแปลงองค์ กรที่ยั่งยืน และซีแอคเชื่อว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรั บการทำธุรกิจ หรือการเรียนรู้ในยุคใหม่นี้ คือ การเรียนรู้ที่นำไปสู่การปรั บใช้ได้จริง เพื่อสร้างความสำเร็จและผลลัพธ์ ที่แตกต่าง พร้อมรับมือกับทุ กความเปลี่ยนแปลงในโลกยุคหลั งโควิด-19”
สำหรับผู้บริหารที่สนใจเตรี ยมความพร้อมรับมือและต่ อยอดโอกาสทางธุรกิจไปกับโปรแกรม Leading in a Disruptive World รุ่นที่ 6 สามารถติดต่อและสอบถามรายละเอี ยดได้ที่เพจ https://www.facebook.com/ seasiacenter และ เว็บไซต์ https://seasiacenter.com