เจาะลึกพันธกิจ ดิวโอลิงโก (Duolingo) แพลตฟอร์มผู้ให้บริการด้านการเรียนภาษาออนไลน์ชั้นนำระดับโลก ในการพัฒนาระบบการเรียนรู้ที่หวังจะให้ทุกคนเข้าถึงได้อย่างไม่มีข้อจำกัดทั้งเรื่องของเวลา สถานที่ และค่าเรียน ภายใต้คุณภาพการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ชูการพัฒนาแอปพลิเคชั่น ควบคู่การพัฒนา AI นับตั้งแต่วันแรกของการได้รับเงินทุน จนมีผู้เรียนรายเดือนมากกว่า 74 ล้านคนทั่วโลก และมีการทำแบบฝึกหัดกว่า 9 พันล้านชุดต่อสัปดาห์
- – LINE MAN จับมือ Globish เปิดคอร์สอัปสกิลภาษาอังกฤษไรเดอร์
- – 51Talk ประกาศเปิดสำนักงานในกรุงเทพฯ เดินหน้าพัฒนาการเรียนรู้ภาษาอังกฤษในประเทศไทย
Haina Xiang ผู้อำนวยการด้านการตลาด ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ดิวโอลิงโก กล่าวว่า AI เป็นหัวข้อที่ได้รับความนิยมและมาแรงมากนับตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งพยายามเจาะลึกหัวข้อนี้และพยายามทำงานร่วมกับ AI แต่สำหรับ ดิวโอลิงโก เราไม่เพียงแค่เริ่มต้นใช้ AI นับตั้งแต่วันแรกที่เราได้รับเงินทุนมากว่า 10 ปีเท่านั้น แต่เรายังใช้ AI เพื่อสร้างการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก และเปิดให้คนทั่วโลกได้เข้าถึงไม่ว่าจะยากดีมีจนอย่างไรก็ตาม ซึ่ง AI ก็ทำให้เราผลิตเนื้อหาได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก และทำให้เนื้อหามีความเป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้น และขยายไปยังผู้ใช้ได้ง่ายมากขึ้น

ด้าน Klinton Bicknell หัวหน้าฝ่ายวิจัย AI ของ Duolingo กล่าวว่า เหตุผลที่เราใช้ AI มาเป็นเวลากว่า 10 ปี นั่นเพราะภารกิจของเราคือการพัฒนาการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก และทำให้เข้าถึงได้ในระดับสากล Duolingo เชื่อว่าเทคโนโลยีและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง AI เป็นวิธีที่ดีที่สุด ในการขยายการศึกษาคุณภาพสูงให้ผู้คนใช้ได้ตลอดทั้งเดือน
ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณเริ่มหลักสูตรใหม่สำหรับภาษาที่คุณรู้จักมาบ้างแล้ว ระบบ AI จะทดสอบคุณเพื่อดูว่าคุณควรเริ่มหลักสูตรใดก่อน เพื่อให้การเรียนหลักสูตรนั้นมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ระบบ AI ยังช่วยแจ้งเตือนให้คุณกลับมาทำบทเรียนให้มีความต่อเนื่องของการเรียนได้ดีเยี่ยม ซึ่งบางครั้งอาจจะเป็นการเตือนเชิงรุก โดยสิ่งเหล่านี้จะได้รับการปรับให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลด้วย AI
นอกจากนี้ยังขยายไปถึงความท้าทายในการทำแบบทดสอบภาษาอังกฤษ ซึ่งเราใช้การเรียนรู้ของเครื่องเพื่อช่วยสร้างและให้คะแนนคำถามในการทำแบบทดสอบ โดยการทดสอบจะถูกปรับเปลี่ยนตามความสามารถของแต่ละผู้เรียน และยังช่วยเรารักษาความปลอดภัยอีกด้วย วันนี้เรากำลังพัฒนา AI ออกเป็น 2 แนวทางที่สำคัญ 1. การใช้เทคโนโลยี AI เพื่อมอบประสบการณ์เชิงโต้ตอบใหม่ๆ ที่สมบูรณ์แก่ผู้เรียนของเรา โดยการรวบรวมข้อมูลเหตุการณ์การตอบโต้ของการสนทนาที่เกิดขึ้น เพื่อปรับแต่งและเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ให้กับทุกคน โดยจะเป็นการพัฒนาร่วมกับความสามารถของ ChantGPT4 ที่ทรงพลังที่สุด ในการพัฒนาฟีเจอร์การเรียนรู้รูปแบบใหม่ หลังจากที่เราประกาศความร่วมมือกับ Open AI เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
โดยแนวทางของการพัฒนาของ Duolingo จะเลือกใช้เทคโนโลยี AI ที่ล้ำสมัยที่สุด ซึ่งฟีเจอร์ใหม่ทั้งสองนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของการสมัครสมาชิก Duolingo Max ใหม่ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในรุ่นเบต้า โดยฟีเจอร์แรกจะเป็นการพัฒนาแบบ AR เพื่อให้ผู้เรียนได้สวมบทบาทสมมติบนโลกเสมือนจริง ในการฝึกการสนทนาที่มีรูปแบบอิสระโดยมุ่งเป้าไปที่สถานะการณ์เฉพาะ อาทิเช่น การสั่งเครื่องดื่มที่ร้านกาแฟในปารีส หรือบทบาทของการท่องเที่ยวในสถานการร์ต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนการสนทนาจริง โดยมีการตอบโต้การสนทนาอย่างเป็นธรรมชาติ เช่นเดียวกับในชีวิตจริง นับเป็นวิธีที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในการยกระดับทักษะภาษาของแต่ละคน ภายใต้ Duolingo World ของเรา ซึ่งแต่ละตัวละครก็จะมีบุคลิกและเรื่องราวความเป็นมาของตัวเอง ดังนั้นบาริสต้าของคุณในร้านกาแฟแห่งการสร้างสรรค์นั้น อาจจะเป็นลิลลี่ก็ได้ แล้วนักท่องเที่ยวที่หลงทางที่คุณช่วยล่ะ? นั่นไม่ใช่เอ็ดดี้ก็เป็นได้

บทสนทนาเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีโครงเรื่องที่น่าประหลาดใจเพื่อให้คุณได้ตื่นตัว และในตอนท้ายของการสนทนาทุกครั้ง เราจะให้คำแนะนำว่าคุณควรจะสนทนาให้ดียิ่งขึ้นในครั้งต่อไปได้อย่างไร
คุณสมบัติที่ขับเคลื่อนด้วย ChatGPT4 ในฟีเจอร์ที่ 2 คือ ระบบครูผู้ช่วย AI ซึ่งจะเข้ามาช่วยเป็นครูที่คอยให้คำอธิบายการเรียน โดยเมื่อเกิดความสงสัยในคำตอบที่ถูกหรือผิด โดยสามารถขอให้ไปอธิบายและตอบได้จริง ๆ ซึ่งจะช่วยแก้ไขสถานการณ์ความคิดเห็นที่คุณตอบผิด แต่คุณไม่แน่ใจว่าทำไมหรือบางทีคุณอาจจอบได้ถูกต้อง แต่ไม่แน่ใจว่าทำไมคำตอบของคุณถึงถูกต้อง เพื่อมอบประสบการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน และฉันตื่นเต้นมากที่ได้เห็นว่าพวกเขาจะปรับปรุงการเรียนรู้ของคุณอย่างไร
นอกเหนือจากครูผู้ทรงพลังของ ChatGPT4 ใหม่ของเราแล้ว เรายังทำงานต่อไปในการสร้างโมเดล AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและปรับแต่งทุกบทเรียนให้เหมาะสม โดยข้อมูลผู้เรียน Duolingo ที่มีการทำแบบฝึกหัดมากกว่า 9 พันล้านแบบทุกสัปดาห์ จะถูกป้อนข้อมูลทั้งหมดลงในโมเดล AI ที่เปรียบเหมือนสมองของ Duolingo เพื่อทำให้การปรับแต่งบทเรียนให้ดียิ่งขึ้นสำหรับทุกคน โดยแนวคิดนี้ได้ถูกนำเสนอบนเวที DuoCon 2021 เมื่อสองปีที่แล้ว และเรียกกันติดปากว่าเป็นสมองของ ดิวโอลิงโก อย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม ได้มีการพัฒนา “AI Model” หรือสมอง ของ ดิวโอลิงโก เวอร์ชันใหม่ โดยมีการเพิ่มเทคโนโลยี AI ที่ใช้สำหรับเรียนรู้ด้วยภาพ เพื่อเสริมให้การพัฒนาแบบฝึกหัดสามารถตอบโจทย์การเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ โมเดลใหม่นี้ยังอัปเดตการคาดการณ์เกี่ยวกับผู้เรียนแต่ละคนแบบเรียลไทม์ ซึ่งหมายความว่าสิ่งที่ผู้เรียนทำในแต่ละบทเรียน อาจจะส่งผลต่อบทเรียนถัดไปของผู้เรียนเอง วิธีหลักในการใช้สมองของ Duolingo คือ การคาดการณ์ว่าการทำแบบฝึกหัดแต่ละครั้งจะยากแค่ไหนสำหรับผู้เรียนคนใดคนหนึ่ง
โดยระบบจะสามารถทำนายได้ว่า ผู้เรียนจะมีโอกาสทำแบบฝึกหัดนั้นได้ถูกต้องเพียงใด ตัวอย่างเช่น หากทำนายว่าผู้เรียนมีโอกาสทำคะแนนได้ 98% ระบบก็จะออกแบบแบบฝึกหัดให้มีความยากเพิ่มมากขึ้น เพื่อช่วยให้การพัฒนาทักษะของผู้เรียนมีการไต่ระดับให้สูงขึ้นและท้าทายมากขึ้นโดยที่ไม่ยากจนเกินไป จากเดิมที่ผู้เรียนอาจจะไม่ได้เรียนรู้อะไรมากมายจากแบบฝึกหัดที่ง่ายเกินไป และอาจรู้สึกเบื่อเล็กน้อยด้วยซ้ำ หากสมองของ ดิวโอลิงโก ทำนายว่าผู้เรียนมีโอกาส 45% ที่จะทำแบบฝึกหัดนี้ให้ถูกต้องแต่ไม่ได้ปรับให้ง่ายลง ทำให้แบบฝึกหัดนั้นยากเกินไปสำหรับผู้เรียนคนนั้น ๆ และทำให้ผู้เรียนท้อใจ และมีโอกาสที่ทำให้ผู้เรียนอาจจะไม่ได้เรียนรู้อะไรมากมายจากมัน ซึ่ง ดิวโอลิงโก เชื่อว่าระดับการคาดการณ์โอกาส 79% นั่นจะเป็นระดับความท้าทายที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมและเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สมองของ ดิวโอลิงโก เวอร์ชันใหม่นี้ จะสามารถค้นหาแบบฝึกหัดที่ดีที่สุดสำหรับผู้เรียน นอกจากนี้ยังค้นหาลำดับที่ดีที่สุดของแบบฝึกหัดเหล่านั้น เพื่อจัดกลุ่มเป็นบทเรียนและเพิ่มจำนวนการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมและเรียนรู้ได้มากขึ้น แต่ความมหัศจรรย์ที่แท้จริงของสมอง ดิวโอลิงโก ก็คือ ความสามารถในการนำข้อมูลทั้งหมดที่มีเกี่ยวกับผู้เรียนและสิ่งที่ผู้เรียนได้ทำ และรวมเข้ากับข้อมูลของผู้เรียนคนอื่น ๆ ที่มีทั้งหมดของ ดิวโอลิงโก เพื่อปรับแต่งและเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์การเรียนรู้ให้กับผู้เรียน
โดย ดิวโอลิงโก ได้ใช้ AI มาตั้งแต่เริ่มต้นและมีพันธกิจในการมอบการศึกษาคุณภาพสูงให้กับทุกคน และเมื่อเร็วๆ นี้ การใช้งาน AI นั้นได้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากความก้าวหน้าล่าสุดของ AI ทำให้ ดิวโอลิงโก สามารถทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนได้ เช่น การเปิดโอกาสให้มีการโต้ตอบที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น หรือการสนทนาในรูปแบบอิสระ หรือการตอบคำถามของคุณว่าทำไมคำตอบถึงผิด ตลอดจนการปรับเปลี่ยนรูปแบบการฝึกให้เข้ากับผู้เรียนแบบเฉพาะบุคคลได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น
ซึ่งทั้งหมดนี้คือความพยายามของ Duolingo เพื่อให้กลายเป็นครูสอนพิเศษส่วนตัวที่ดียิ่งขึ้น ที่อยู่ในกระเป๋าของคุณเสมอ และฉันแทบรอไม่ไหวให้คุณลองใช้
Jessie Becker ผู้อำนวยการด้านการออกแบบการเรียนรู้ ดิวโอลิงโก กล่าวว่า เราทำงานกันอย่างหนักเพื่อพัฒนาหลักสูตรที่สอนภาษาอังกฤษในแต่ละระดับความสามารถของผู้เรียนให้มีพัฒนาการทางภาษาในระดับขั้นที่สูงเพิ่มขึ้น ซึ่งในช่วงเริ่มต้น หลักสูตรของ ดิวโอลิงโก จะอาศัยภาษาแม่ของผู้เรียนเป็นอย่างมาก แม้ว่าเราจะมีบางอย่างเพิ่มเติมเพื่อให้แบบฝึกหัดมีความเหมาะสมกับผู้เรียนมากขึ้น แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่ยากที่จะสามารถทำแพลตฟอร์มเดียวให้ตอบโจทย์ผู้เรียนที่มีอยู่กว่า 131 ประเทศทั่วโลก และเรารู้ว่าผู้เรียนภาษาอังกฤษมีความต้องการเฉพาะตัว หลายคนมีความสามารถมาก่อน ซึ่งหมายความว่าพวกเขาได้เรียนภาษาอังกฤษมาไม่น้อยแล้ว และพวกเขาก็พร้อมสำหรับเนื้อหาในระดับขั้นที่สูงแตกต่างกัน

โดยผู้เรียนเหล่านี้มักจะต้องการผลลัพธ์เป็นความสามารถทางการสื่อสารที่อิสระมากขึ้น และหลายคนมักจะมีเป้าหมายทางวิชาชีพหรือทางวิชาการ แน่นอนว่าสำหรับผู้เรียนเหล่านี้ การเรียนภาษาอังกฤษจะมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงชีวิตได้จริงๆ ความสามารถทางภาษาอังกฤษ มีปัจจัยมากต่อโอกาสในการทำงานและการศึกษาต่อในอนาคต ซึ่ง ดิวโอลิงโก ต้องการมีส่วนร่วมในการช่วยเปิดประตูการเรียนรู้เหล่านั้น
นั่นทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนรู้ของ Duolingo ใช้มาตรฐานสากลของ CFR หรือ Common European Framework of Reference for Languages เพื่อเป็นกรอบมาตรฐานในการทำงานพัฒนาหลักสูตรการเรียนภายในแอปพลิเคชั่น ซึ่งจะทำให้รู้ว่า ควรทำอย่างไรกับภาษาในแต่ละระดับความสามารถของผู้เรียน และปัจจุบัน ดิวโอลิงโก กำลังพัฒนาระดับ B1 และ B2 หรือระดับกลางในระดับมาตรฐานของ CFR
ระดับเหล่านี้ล้วนเกี่ยวกับความสามารถของการเป็นผู้ใช้ภาษาได้อย่างคล่องแคล่ว ดังนั้นประสบการณ์ของการเรียนรู้ภายในแอป จึงได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ผู้เรียนพูดได้อย่างคล่องแคล่วและเป็นธรรมชาติมากขึ้น เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับหัวข้อต่างๆ ที่กว้างขึ้น รวมถึงประเด็นที่เป็นนามธรรม เช่น ประเด็นทางวัฒนธรรมหรือการเมือง และสุดท้ายเพื่อให้สามารถพูดในหัวข้อเฉพาะทางได้ดียิ่งขึ้น
ในเนื้อหาระดับ B2 เราเริ่มต้นด้วยการสร้างสิ่งที่ผู้เรียนรู้อยู่แล้ว เพื่อแนะนำคำศัพท์และแนวคิดทางไวยกรณ์ใหม่ๆ อย่างรอบคอบ โดยแบบฝึกหัดเชิงลึกหลายแบบของเราอาจคุ้นเคยกับผู้เรียนแล้วจากหลักสูตรบางหลักสูตรที่มีอยู่ และบางหลักสูตรก็เป็นหลักสูตรใหม่ สำหรับแบบฝึกหัดด้านไวยากรณ์ จะได้รับการออกแบบมาเพื่อดึงดูดความสนใจไปยังสิ่งที่ผู้เรียนจำเป็นต้องรู้ เพื่อฝึกฝนแนวคิดทางไวยากรณ์ที่ซับซ้อน นอกจากนี้ยังสอนคำศัพท์ใหม่ ๆ สอดแทรกด้วย โดยใช้การอธิบายเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น ซึ่งจะมีการใช้ภาษาที่ผู้เรียนคุ้นเคยอยู่แล้ว เพื่อทำให้เข้าใจความหมายได้โดยง่าย
ตามมาด้วยโอกาสมากขึ้นในการใช้คำและวลีใหม่ๆ ในทางปฏิบัติ เช่น การมีส่วนร่วมในการโต้ตอบหรือทำความเข้าใจข้อความที่เขียน และตลอดบทเรียนเหล่านี้ยังกำหนดเป้าหมายทักษะที่สำคัญของการอ่าน การฟัง การพูด และการเขียนอย่างละเอียดอีกด้วย ผู้เรียนจะได้ฝึกฝนการอ่านและการฟัง เช่น การระบุความแตกต่างเล็กน้อยระหว่างเสียงที่คล้ายกัน การเข้าใจประโยคแบบเต็ม และการทำความเข้าใจประเด็นหลักของข้อความที่เขียน เรากำลังสนับสนุนทักษะการเขียนและการพูดด้วยแบบฝึกหัดประเภทใหม่ที่ช่วยให้ผู้เรียนได้พัฒนาภาษาได้ดียิ่งขึ้น ตั้งแต่การเน้นที่รายละเอียดปลีกย่อยของการออกเสียงภาษาอังกฤษ ไปจนถึงการเติมประโยคที่เป็นลายลักษณ์อักษรและการตอบคำถามที่ซับซ้อนมากขึ้น
และสุดท้าย เพื่อการฝึกอ่านที่ยาวนานขึ้น ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ไปพร้อมกับตัวละครที่น่ายินดีในเรื่องราวของ ดิวโอลิงโก ด้วยรูปแบบที่คุ้นเคยและข้อความประเภทใหม่ๆ เช่น บล็อกโพสต์ โฆษณา บทวิจารณ์ และอื่นๆ โดยผู้เรียนสามารถเลือกฝึกเขียนในตอนท้ายของเรื่องได้ โดยตอบคำถามปลายเปิดเกี่ยวกับสิ่งที่เพิ่งอ่าน
เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่จะแบ่งปันประสบการณ์ภาษาอังกฤษนี้กับพวกคุณทุกคน ซึ่งหากคุณกำลังเรียนภาษาอังกฤษ ในฐานะเจ้าของภาษาที่เป็นภาษารัสเซีย ญี่ปุ่น หรือจีน คุณอาจเคยเห็นเนื้อหานี้บางส่วนในหลักสูตรของคุณแล้ว
ขณะนี้เรากำลังปรับแต่งประสบการณ์ภาษาอังกฤษอันสนุกสนานนี้ให้ครอบคลุมระดับ B1 และ B2 ทั้งหมด และหวังว่าจะนำเสนอให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จากกว่า 20 หลักสูตรของเราที่จะถูกนำมาใช้สอนภาษาอังกฤษเร็วๆ นี้ และสำหรับผู้เรียนที่ไม่ได้เรียนภาษาอังกฤษ รูปแบบการเรียนนี้จะเป็นวิธีที่จะใช้สอนในระดับที่สูงขึ้นไปในทุกภาษา ดังนั้นเมื่อผู้เรียนสามารถยกระดับทักษะทางภาษาให้สูงขึ้นได้แล้ว ให้กลับมาตรวจสอบการปรับปรุงเพิ่มเติมในหลักสูตรที่เรียนผ่านไปแล้ว เพื่ออัปเดตทักษะที่เพิ่มมากขึ้น เราหวังว่าจะได้พัฒนาประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดื่มด่ำในระดับสูงขึ้นไปมาให้คุณได้สำเร็จในเร็วๆ นี้