GWM ประกาศความสำเร็จ พร้อมเผย 3 กลยุทธ์สำคัญสู่ Top 3 แบรนด์รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (xEV) ในประเทศไทย ภายใน 3 ปี (2569) พร้อมทั้งเดินหน้าส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้เป็นศูนย์กลางของยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียนอย่างยั่งยืน คาดการณ์ปี 2567 ตลาดรถยนต์ไทยจะมีการเติบโตขึ้น 6% จากปีก่อนหน้า ด้วยยอดขายรวม 820,000 คัน และกลุ่ม xEV จะเห็นการเติบโตถึง 40% ทำให้มียอดขายประมาณ 270,000 คัน หรือคิดเป็น 33% ของตลาดทั้งหมด ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) คาดว่าจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีการสนับสนุนจากนโยบายของภาครัฐและการเข้ามาของแบรนด์ใหม่ ๆ คาดว่าในปีนี้ประเทศไทยจะมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 130,000 คัน หรือคิดเป็น 16% ของตลาดรวม ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 70% จากปีก่อน
- – บีเอ็มดับเบิลยู เผยรุ่นรถใช้ฝึกอบรม BMW Driving Experience 2024
- – มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เปิดตัวรถยนต์ขับเคลื่อนฟูลไฮบริด ครั้งแรกในไทย ‘เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี’ และ ‘เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี’
นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “การดำเนินธุรกิจในประเทศไทยของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญของเราที่ได้เข้ามาจุดกระแสและผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยให้เติบโตอย่างเป็นรูปธรรม เราได้เข้ามาสร้างปรากฏการณ์และเรื่องราวน่าประทับใจมากมาย เราได้นำผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเข้ามาตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของคนไทย พร้อมนำรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบใหม่ หรือ New Retail Business ด้วยนโยบายราคาเดียว หรือ One Price Policy มาปฏิวัติแนวทางปฏิบัติของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย และเป็นมาตรฐานใหม่ของระบบการขายของผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ
ยิ่งไปกว่านั้น เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังเป็นแบรนด์แรกที่เข้ามาดำเนินธุรกิจอย่างจริงจังด้านรถยนต์พลังงานใหม่ และเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์แรก ๆ ที่ได้ลงนามกับกรมสรรพสามิตเพื่อเข้าร่วมนโยบายการส่งเสริมการผลิตและการใช้รถยนต์ไฟฟ้าทั้ง EV 3.0 และ EV 3.5 จน ORA Good Cat ได้ขึ้นแท่นเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดจดทะเบียนสูงที่สุดในประเทศไทยในปี 2565 นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยในปีที่ 3 ด้วยการบรรลุ Mission 9 in 3 หรือการเปิดตัวรถยนต์ครบ 9 รุ่น ภายในระยะเวลา 3 ปี อย่างงดงาม ในการก้าวเข้าสู่การดำเนินงานปีที่ 4 เราจะยังคงมุ่งมั่นส่งมอบรถยนต์ที่มีคุณภาพและเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและคุ้มค่าคุ้มราคาสำหรับลูกค้าชาวไทย รวมถึงผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการผลิตและจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคและในระดับโลกต่อไป”
นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังเผยถึงเป้าหมายสำคัญของบริษัทฯ ในการก้าวขึ้นสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำ 3 อันดับแรกของแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ภายใน 3 ปี โดยตั้งเป้ายอดขายในปี 2567 อยู่ที่ 25,000 คัน และวาง 3 กลยุทธ์หลักเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ได้แก่
- ด้านผลิตภัณฑ์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ถือเป็นแบรนด์ที่มีจุดแข็งด้านผลิตภัณฑ์รถยนต์พลังงงานใหม่ที่ครอบคลุม ทั้งไฮบริด
ปลั๊กอิน-ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า 100% ในหลายเซ็กเมนต์ โดยในปีนี้ บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายใหม่ด้วยการเพิ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือxEV ในประเทศไทยให้ครบทั้งสิ้น 15 รุ่น ภายในปี 2568 และในปี 2567 บริษัทฯ วางแผนที่จะเปิดตัวยานยนต์พลังงานใหม่อย่างน้อย 3 รุ่นในไทย รวมถึงวางแผนที่จะทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่เป็นเอสยูวี และศึกษาการนำเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับสูง เช่น Hi-4 และ Coffee Intelligence System มาพัฒนาร่วมกับรถยนต์ไฟฟ้าที่จะแนะนำสู่ตลาดไทยในอนาคตอีกด้วย - ด้านการขาย มุ่งเน้นการยกระดับประสบการณ์ให้ลูกค้าโดยยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง (User-centric) และนโยบายราคาเดียว (One Price Policy) โดย เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะเดินหน้าต่อยอดธุรกิจฟลีทในกลุ่มหน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานที่สนับสนุนการใช้รถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น รวมถึงการต่อยอดธุรกิจรถยนต์ใช้แล้ว (GWM Certified Pre-Owned) เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการขายรถ หรือต้องการประเมินราคาขายรถใช้แล้ว และลูกค้าที่ต้องการเป็นเจ้าของรถ GWM คุณภาพดี ด้านการจัดจำหน่าย ในปี 2567 เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีแผนที่จะขยายเครือข่าย GWM Partner Store ให้ครบ 101 แห่งทั่วประเทศ และการขยาย Partner Store ขนาด S ในจังหวัดขนาดเล็ก และ XS รูปแบบใหม่ในอำเภอรองของจังหวัดใหญ่ เพื่อสร้างเครือข่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ควบคู่กับการขยายสถานีชาร์จ (DC Fast Charge) ให้ครบ 55 แห่ง ภายในปี 2567
- ด้านการบริการหลังการขาย เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญของบริษัทฯ ในการสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภครอบด้าน ด้วย GWM Smart Service ระบบการบริการอัจฉริยะที่ใช้เทคโนโลยีอันล้ำสมัยในการยกระดับการบริการแก่ลูกค้า การบริหารจัดการอะไหล่ที่มีประสิทธิภาพ ด้วยการขยายพื้นที่คลังอะไหล่และเพิ่มขีดความสามารถในการจัดส่งอะไหล่ให้ดีและรวดเร็วยิ่งขึ้น และการพัฒนาศักยภาพช่างเทคนิค โดยบริษัทฯ มีแผนเปิดศูนย์ฝึกอบรมแห่งใหม่ เพื่อรองรับการฝึกอบรมให้กับช่าง GWM ทั่วประเทศ เพื่อให้มั่นใจได้ในความรู้และทักษะในการซ่อมบำรุงรักษารถ GWM ได้อย่างถูกต้องตามมาตรฐานสากล รวมถึงการสร้างความอุ่นใจในการเป็นเจ้าของรถยนต์ GWM โดยรถยนต์ของ GWM ทุกคันมาพร้อมแพ็คเกจการบำรุงรักษาตามระยะทาง ฟรี ทั้งค่าแรงและค่าอะไหล่ ตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และ 5 ปี 75,000 กิโลเมตร ควบคู่กับบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง (Roadside Assistance) ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทฯ ยังจัดตั้ง EV Battery Rapid Team หรือหน่วยงานวิศวกรผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อให้คำแนะนำและตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่หลังเกิดอุบัติเหตุ และ GWM BATTERY HOTLINE สายด่วนเพื่อรับแจ้งปัญหาเกี่ยวกับแบตเตอรี่และการเคลมโดยให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองประธานฝ่ายการตลาด เกรท วอลล์ มอเตอร์ ภูมิภาคอาเซียน กล่าวว่า “เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในฐานะหนึ่งในผู้นำด้านยานยนต์พลังงานใหม่ (xEV Leader) เรามุ่งมั่นที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ การบริการ ที่เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้แก่ผู้บริโภค โดยการพัฒนาขีดความสามารถให้ครอบคลุมรอบด้าน ทั้งด้านการวิจัยและพัฒนา การผลิต และการจำหน่าย สู่มาตรฐานในระดับสากล ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Driving) ควบคู่กับการขยายเครือข่ายการลงทุนในภูมิภาคต่าง ๆ รอบโลกอย่างต่อเนื่อง เช่น ทวีปยุโรป ทวีปอเมริกาเหนือ และทวีปเอเชีย
โดยปัจจุบันเรามีโรงงานผลิตรวมแล้วกว่า 13 แห่ง สาขาอีกกว่า 700 สาขา ครอบคลุมกว่า 170 ประเทศทั่วโลก ซึ่งในปี 2566 มียอดขายรถยนต์ทั่วโลกทั้งหมด 1.23 ล้านคัน ซึ่งถือเป็นปีที่ 8 ที่เรามียอดขายทั่วโลกมากกว่า 1 ล้านคันอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความเชื่อมั่นและความไว้วางใจของผู้บริโภคทั่วโลกที่มีต่อบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ภายในระยะเวลาเพียง 3 ปี บริษัทฯ ยังได้ขยายการดำเนินธุรกิจสู่ตลาดภูมิภาคอาเซียน 9 ประเทศ คือ ไทย มาเลเซีย ลาว สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ บรูไน เวียดนาม และกัมพูชา ถือเป็นแบรนด์รถยนต์จีนรายแรกที่มีการขยายธุรกิจครอบคลุมตลาดหลักในภูมิภาคอาเซียนได้สำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ในปี 2567 และปีถัด ๆ ไป เราจะไม่หยุดยั้งในการพัฒนานวัตกรรมที่เต็มเปี่ยมด้วยเทคโนโลยีทันสมัย และการดำเนินธุรกิจตามวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ เพื่อขอบคุณการสนับสนุนจากแฟน ๆ อันดีเสมอมา”
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในฐานะหนึ่งในผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า (xEV Leader) และบริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีระดับโลก (Global Intelligent Technology Company)มุ่งมั่นที่จะส่งมอบประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยการเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยในปี 2567 รวมถึงปีถัด ๆ ไป ให้ตอบโจทย์ความต้องการอันหลากหลายของผู้บริโภคชาวไทย ควบคู่กับการเติมเต็มระบบนิเวศและอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยให้ทัดเทียมระดับสากล