แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด (มหาชน) หรือ “ADVICE” ผู้นำธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าไอทีรายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2567 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม ด้วยรายได้รวม 3,568.38 ล้านบาท เติบโต 3.23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 56.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.69%
- – เอสซีจี แถลงผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 2567 เดินหน้านวัตกรรมกรีนต่อเนื่อง รุกธุรกิจในตลาดเติบโต
- – บีเจซี เผยผลประกอบการไตรมาสสุดท้ายปี 2566 ดันรายได้ทะลุ 40,000 ล้านบาท กำไรเติบโตร่วม 10%
รายได้จากการขายและบริการ
การเติบโตของรายได้ในไตรมาสนี้ได้รับแรงหนุนหลักจากธุรกิจค้าปลีก ซึ่งมีรายได้เพิ่มขึ้น 10.63% โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากช่องทางออนไลน์ที่เติบโตโดดเด่นถึง 17.06% สินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟน และผลิตภัณฑ์ Apple เป็นดาวเด่นในการขับเคลื่อนยอดขาย โดยเฉพาะแบรนด์ Apple และ Samsung ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค
นอกจากนี้ การขยายสาขาใหม่ 6 สาขา การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่าง Advice IT Expo ทั้งในช่องทางออนไลน์และหน้าร้าน รวมถึงนโยบายภาครัฐอย่างโครงการ Easy E-Receipt ที่ช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย ล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของรายได้ในไตรมาสนี้
โดยไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ จำนวน 3,567.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 112.36
ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.25 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2566 รายได้ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เกิดจากธุรกิจค้าปลีก มีรายได้เพิ่มขึ้น จำนวน 231.22 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10.63 แบ่งออกเป็นรายได้จากการขายปลีกออนไลน์ เพิ่มขึ้นจำนวน 130.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.06 รายได้จากการขายปลีกผ่านสาขาเพิ่มขึ้นจำนวน 92.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.52 รายได้จากการขายปลีกลูกค้าองค์กร (Commercial) เพิ่มขึ้นจำนวน 7.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.42 และรายได้ค่าบริการเพิ่มขึ้นจำนวน0.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.29
ธุรกิจค้าส่งชะลอตัว แต่ไม่กระทบภาพรวม
ในขณะที่ธุรกิจค้าปลีกเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ธุรกิจค้าส่งกลับมีรายได้ลดลง 9.53% เนื่องจากกำลังซื้อของลูกค้าที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ด้วยสัดส่วนรายได้ที่น้อยกว่าธุรกิจค้าปลีกมาก จึงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมผลประกอบการของบริษัทฯ
ในส่วนของช่องทางที่มีรายได้ลดลง ได้แก่ ธุรกิจค้าส่ง มีรายได้ลดลงจำนวน 119.23 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 9.53 ประกอบด้วยรายได้จากการขายส่งดีลเลอร์ลดลงจำนวน 96.02 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 11.80 และรายได้จากขายส่งแฟรนไชส์ลดลงจำนวน 23.21 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 5.31
โดยในไตรมาส 1 ปี 2567 ภาพรวมของรายได้ที่เพิ่มขึ้นเกิดจากกลุ่มสินค้าสมาร์ทโฟน และกลุ่มสินค้าผลิตภัณฑ์ Apple โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบรนด์ Apple และ Samsung จากการที่บริษัทฯ เป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Apple อย่างเป็นทางการตั้งแต่ปีก่อนที่ทยอยวางขายสินค้าในร้านสาขาซึ่งทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้น ในส่วนของแบรนด์ Samsung ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากการเข้ามาของเทคโนโลยี AI
อีกทั้งบริษัทฯ ได้เข้าร่วมกับ Samsung จัดทำแคมเปญ Samsung Finance Plus โดยผู้บริโภคสามารถทำการซื้อสินค้าผ่านการผ่อนชำระกับ Samsung Finance Plus ได้โดยตรง ทำให้กระตุ้นยอดขายในส่วนของผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนได้มากขึ้น รวมถึงการเติบโตของยอดขายในรูปแบบการขายผ่านช่องทางออนไลน์ Marketplace เพิ่มขึ้นอย่างมาก จากการที่บริษัทฯ เน้นคัดเลือกสินค้าในกลุ่มที่เป็นที่ต้องการของผู้บริโภค
รวมถึง Marketplace ได้มีการจัดทำโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้า เช่น ส่วนลดร้านค้า และส่วนลด Marketplace เพิ่มเติม ทำให้ยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ Marketplace เพิ่มขึ้น อีกทั้งบริษัทฯ ได้จัดกิจกรรม Advice IT Expo ที่หน้าเว็บออนไลน์ และสาขาทั่วประเทศ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสินค้าในราคางาน Commart โดยตลอดช่วงเดือนมีนาคม 2567 บริษัทฯ ได้จัดกิจกรรม Advice IT Expo ผ่านหน้าร้านสาขาเช่นเดียวกับช่องทางออนไลน์ เพื่อเพิ่มช่องทางขายสินค้าในราคาโปรโมชั่นและกระตุ้นให้ผู้บริโภคกลับมาซื้อสินค้าไอทีมากขึ้น
และบริษัทฯ ได้ขยายสาขาเพิ่มเติมโดยการเปิดสาขาใหม่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 2 สาขา และต่างจังหวัด 4 สาขา เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าได้เพิ่มขึ้น ประกอบกับนโยบายของรัฐบาลโครงการ Easy E-Receipt ผู้บริโภคสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีกับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่สามารถออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (E-tax) ซึ่งกระตุ้นให้ยอดขายกลับมาเพิ่มขึ้น
ช่องทางที่มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ได้แก่ ช่องทางจากการขายปลีกออนไลน์ เพิ่มขึ้นจำนวน 130.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่องทางการขายออนไลน์ผ่าน Marketplace โดยเฉพาะการขายผ่านShopee และ Lazada รวมถึงช่องทาง Marketplace อื่นๆ เป็นผลจากการที่บริษัทฯ เน้นการคัดเลือกสินค้าและเพิ่มสินค้ามากขึ้นและมีการจัดกิจกรรมร่วมกับMarketplace ต่างๆ เช่น แคมเปญ Double Day เป็นต้น รวมถึงการจัดทำส่วนลดร้านค้า และส่วนลด Marketplace เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น
อีกทั้งบริษัทฯ มีการเพิ่มช่องทางการจ่ายชำระค่าสินค้า การจ่ายชำระผ่าน True Money การจัดโปรโมชั่นบัตรเครดิต รวมถึงการติดตามการจัดส่งสินค้า ทำสินค้า Exclusive ร่วมกับ Brand เฉพาะช่องทาง การทำการตลาดในรูปแบบการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ และเพิ่มการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสินค้าไอทีมากยิ่งขึ้น และในช่วงเดือนมีนาคม 2567 บริษัทฯ ได้จัดกิจกรรม Advice IT Expo ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ของบริษัทฯ เพื่อจำหน่ายสินค้าในราคาโปรโมชั่น เพื่อทดแทนในกิจกรรมงาน Commart ที่บริษัทฯ ไม่ได้เข้าร่วมงานในช่วงไตรมาส 1 ปี 2567
ยอดขายปลีกผ่านสาขา เพิ่มขึ้นจำนวน 92.75 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ได้มีการปรับปรุงและพัฒนาหน้าร้าน เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทฯ ได้มีการเพิ่มสาขาให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าได้ทั่วถึง และในปีนี้บริษัทฯ มีแผนการเปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้น เพื่อขยายช่องทางการขายปลีก เน้นเป็นห้างสรรพสินค้าตามหัวเมืองในแต่ละภาค และมีการปรับโฉมสาขาทั่วประเทศเป็นการ Renovate สาขาให้มีความทันสมัย การทำโปรโมชั่นบัตรเครดิตต่างๆ การเพิ่มช่องทางรับชำระ เช่น การรับชำระผ่าน True Money และการส่งเสริมการขายหลากหลายรูปแบบ ทั้งทางโทรทัศน์ วิทยุ และสื่อต่างๆ อีกทั้งในช่วงเดือนมีนาคม 2567 บริษัทฯ ได้จัดกิจกรรม Advice IT Expo ผ่านหน้าร้านสาขาเช่นเดียวกันกับช่องทางออนไลน์ จึงทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น
ยอดขายปลีกลูกค้า Commercial ที่มีการเติบโตขึ้น จำนวน 7.79 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ จัดตั้งทีม Commercial Sale เพื่อดูแลกลุ่มลูกค้าองค์กรโดยเฉพาะ โดยเน้นไปที่สินค้าประเภท Computer Notebook และอุปกรณ์เครือข่าย และจะขยายประเภทสินค้าไปที่กลุ่ม Hardware และ Software เพื่อให้กลุ่มลูกค้าองค์กร เข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่ต้องการได้ทุกประเภท
ช่องทางที่มีรายได้ลดลงอย่างมากคือ รายได้จากการขายส่งดีลเลอร์ ลดลงจำนวน 96.02 ล้านบาท และรายได้จากการขายส่งแฟรนไชส์ ลดลงจำนวน 23.21 ล้านบาท เนื่องจากกำลังการซื้อของลูกค้าลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ด้านกลุ่มสินค้ามียอดขายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้า Mobile ยอดขายเพิ่มขึ้นจำนวน 106.27 ล้านบาท คิดเป็น
ร้อยละ 238.54 กลุ่มสินค้า IPhone/IPad ยอดขายเพิ่มขึ้น 73.33 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 146.28 กลุ่มสินค้า Notebook ยอดขายเพิ่มขึ้นจำนวน 20.30 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.48 และกลุ่มสินค้าอื่นๆ ยอดขายเพิ่มขึ้นจำนวน 38.29 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 7.99 ซึ่งส่วนใหญ่ยอดขายที่เพิ่มขึ้นจัดอยู่ในส่วนของสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์เสริม เป็นผลมาจากการเพิ่มผลิตภัณฑ์ของ Apple และ Samsung เพื่อขยับ Position ของแบรนด์ ทำให้สินค้าในกลุ่มนี้ขายดี โดยบริษัทฯ ยังคงเน้นกลยุทธ์การขายสินค้าและอุปกรณ์เสริมพร้อมกับสินค้าหลัก
ส่วนกลุ่มสินค้าที่มียอดขายลดลง ได้แก่ กลุ่มสินค้า Desktop & AIO & Service ยอดขายลดลงจำนวน 55.68 ล้านบาท
คิดเป็นร้อยละ 14.33 กลุ่มสินค้า DIY ยอดขายลดลงจำนวน 48.76 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 4.00 กลุ่มสินค้าอื่นๆ ลดลงจำนวน 21.77 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 5.09 ยอดขายของผลิตภัณฑ์หลักลดลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากสินค้ากลุ่มนี้ ส่วนใหญ่ขายในกลุ่มลูกค้า Commercial ซึ่งเป็นกลุ่มงานราชการเป็นหลัก โดยลูกค้ากลุ่มนี้ต้องรองบประมาณของทางราชการตามปีงบประมาณซึ่งออกล่าช้ากว่ากำหนด
ต้นทุนขายและบริการ
ไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัทฯ มีต้นทุนขายและบริการจำนวน 3,233.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 69.67 ล้านบาท
หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.20 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2566 ซึ่งเพิ่มขึ้นไปในทิศทางเดียวกับยอดขายที่เพิ่มขึ้น
กำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ADVICE สามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กำไรขั้นต้นในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น 14.64% โดยมีสัดส่วนกำไรขั้นต้นต่อรายได้รวมอยู่ที่ 9.37% ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ การลดลงของต้นทุนทางการเงินจากการนำเงินระดมทุน IPO ไปชำระคืนหนี้ ยังส่งผลให้กำไรสุทธิเติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 19.69%
โดยไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้น จำนวน 334.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 42.68 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.64 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2566 สัดส่วนกำไรขั้นต้นต่อรายได้รวมเท่ากับ 9.37% โดยเพิ่มขึ้นจากสัดส่วนการขายออนไลน์และการขายปลีกที่เพิ่มขึ้น และประกอบกับบริษัทฯ ซื้อสินค้าตรงจาก Supplier โดยลดการซื้อสินค้าจาก Sub-Distributors จึงทำให้ GP สูงขึ้น
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
ไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัทฯ มียอดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจำนวน 265.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 36.88 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.12 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 7.44 ของรายได้รวม เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2566
ค่าใช้จ่ายในการขาย จำนวน 159.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 19.42 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 13.86 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 4.47 ของรายได้รวม โดยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เกิดจาก ค่าธรรมเนียม Marketplace เพิ่มขึ้นจำนวน 15.53 ล้านบาท ซึ่งสัมพันธ์กับยอดขายปลีกออนไลน์ผ่านช่องทาง Marketplace ที่เพิ่มขึ้น และการเพิ่มขึ้นของอัตราค่าธรรมเนียม Marketplace ต่างๆ ค่าเช่าและค่าบริการส่วนกลาง เพิ่มขึ้นจำนวน 3.97 ล้านบาท เกิดจากการเพิ่มขึ้นของร้านสาขาจำนวน 6 สาขา
ส่วนค่าใช้จ่ายที่ลดลงอย่างมีสาระสำคัญ ได้แก่ ค่าการตลาด ลดลงจำนวน 9.14 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัทฯ ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมงาน Commart จึงทำให้ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับงาน Commart ลดลงไปทั้งจำนวน โดยบริษัทฯ จัดกิจกรรมงาน Advice IT Expo ทดแทนผ่านหน้าเว็บไซต์ของบริษัทฯ และหน้าร้านสาขาทั่วประเทศ และเพิ่มการทำสื่อโฆษณาของผลิตภัณฑ์ลำโพง เพิ่มเติม
ค่าใช้จ่ายในการบริหาร จำนวน 105.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 17.45 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 19.72 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 2.97 ของรายได้รวม โดยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เกิดจาก ค่าใช้จ่ายพนักงาน เพิ่มขึ้นจำนวน 11.35 ล้านบาท จากการประมาณการโบนัส และการเพิ่มขึ้นของบุคลากรในฝ่ายบริหารเพื่อพัฒนาบริษัทฯ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งค่าสวัสดิการพนักงานเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ ได้ทำประกันกลุ่มให้พนักงาน และค่าใช้จ่ายในการขายหลักทรัพย์ เพิ่มขึ้นจำนวน 3.53 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ จำหน่ายหุ้น IPO ในช่วงเดือน มกราคม 2567 จึงเกิดค่าใช้จ่าย อาทิ ค่าสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์งาน IPO ค่าบริการ Talk Show งาน IPO เป็นต้น
ต้นทุนทางการเงิน
ไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัทฯ มีต้นทุนทางการเงินจำนวน 3.59 ล้านบาท ลดลงจำนวน 4.07 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 53.16 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2566 เนื่องจากบริษัทฯ มีการรับชำระเงินเพิ่มทุนจากการระดมทุน IPO จึงนำไปจ่ายชำระคืนตั๋วสัญญาใช้เงิน และลดใช้ตั๋วสัญญาใช้เงินลงส่งผลให้เกิดดอกเบี้ยจ่ายลดลงอย่างมีสาระสำคัญ
กำไรสุทธิ
ไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 56.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 9.29 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.69
เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2566 เนื่องจากเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น
อนาคตสดใส มุ่งขยายสาขาและช่องทางออนไลน์
ADVICE ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนเปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้นในปีนี้ โดยเฉพาะในรูปแบบห้างสรรพสินค้าตามหัวเมืองใหญ่ และตั้งเป้าจะเปิดช้อปแอปเปิ้ลแบบโมโน 10 แห่ง ซึ่งจะเป็นช้อปที่มีความแตกต่างจากช้อปแอปเปิ้ลทั่วไป โดยแบ่งเป็นจังหวัดละแห่ง แต่ยังอยู่ในระหว่างเลือกทำเล และส่งแบบการก่อสร้างให้ทางแอปเปิ้ล คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 3 ราว 5 สาขา และอีก 5 สาขาในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาช่องทางออนไลน์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคดิจิทัล
ความท้าทายและโอกาสในอนาคต
แม้ภาพรวมผลประกอบการไตรมาสแรกจะออกมาดี แต่ ADVICE ยังคงต้องเผชิญความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงมีความไม่แน่นอน รวมถึงการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดสินค้าไอที อย่างไรก็ตาม ด้วยกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ การพัฒนาประสบการณ์ลูกค้า และการสร้างความแตกต่างของสินค้าและบริการ เชื่อว่า ADVICE จะสามารถรักษาการเติบโตและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง
ด้านนายณัฎฐ์ ณัฐนิธิการัชต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เรามีความพึงพอใจกับผลประกอบการในไตรมาสแรกที่เติบโตได้ดี แม้จะมีความท้าทายจากปัจจัยภายนอกหลายประการ เรามั่นใจว่าด้วยกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งและทีมงานที่มีความสามารถ เราจะสามารถนำพาบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป”