___noise___ 1000

Apple ปฏิวัติกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPad และเพิ่มชิป M4 ลงในรุ่น Pro

iPad Pro

Apple ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPad ในงาน “Let Loose” ด้วยการเปิดตัว iPad Air ขนาด 13 นิ้วใหม่เอี่ยม และติดตั้งชิป M4 อันทรงพลังลงใน iPad Pro รุ่นล่าสุด ถือเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ที่ผู้ใช้งานรอคอยมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ที่มีการอัปเดตล่าสุดเมื่อ 18 เดือนก่อน

ทิม คุก ซีอีโอของ Apple ได้สร้างความคึกคักให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPad รุ่นใหม่นี้ ด้วยการประกาศในงานเปิดตัวออนไลน์ว่า นับเป็นการพลิกโฉมที่สำคัญที่สุดสำหรับ iPad นับตั้งแต่วันแรกที่อุปกรณ์นี้ได้ถือกำเนิดขึ้น

ผู้บริหารของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีรายนี้เน้นย้ำว่า ชิป M4 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI Tasks) ภายในระบบปฏิบัติการ iPadOS ได้อย่างมาก อันเนื่องมาจาก Neural Engine (NPU) รุ่นใหม่ล่าสุดที่สามารถประมวลผลได้ถึง 38 ล้านล้านครั้งต่อวินาที โดยเร็วกว่าชิป NPU รุ่นแรกของ Apple ถึง 60 เท่า

ชิป M4 สร้างขึ้นบนกระบวนการผลิตระดับ 3 นาโนเมตร รุ่นที่สอง มาพร้อมกับ CPU แบบ 10-Core ที่ประกอบด้วย Performance Cores 4 ตัว และ Efficiency Cores 6 ตัว ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของ CPU เร็วกว่าชิป M2 ที่ใช้ใน iPad Pro รุ่นก่อนหน้าถึง 50%

นอกจากนี้ GPU แบบ 10-Core ยังมี Dynamic Caching, การทำ Hardware Accelerated Mesh Shading และการรองรับ Ray Tracing เป็นครั้งแรกใน iPad ขณะเดียวกัน Display Engine รุ่นใหม่ก็มีความเร็วในการเรนเดอร์เพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าเมื่อเทียบกับชิป M2

iPad Pro

โดย CPU แบบ 10-Core จะติดตั้งมาเฉพาะใน iPad Pro รุ่นความจุ 1TB และ 2TB เท่านั้น

iPad Pro

John Ternus รองประธานอาวุโสฝ่าย Hardware Engineering ของ Apple ระบุว่า iPad Pro รุ่นใหม่มีการใช้แผง OLED สองชั้น และผสานแสงจากทั้งสองชั้นเพื่อ “ให้ความสว่างแบบเต็มหน้าจอที่โดดเด่น” แผง OLED รูปแบบนี้ทำให้หน้าจอมีความสว่างสูงสุดที่ 1,000 นิต และสูงถึง 1,600 นิตสำหรับเนื้อหา HDR

รุ่น 13 นิ้วมีความหนาเพียง 5.1 มิลลิเมตร ซึ่ง Ternus เน้นว่าเป็นอุปกรณ์ที่บางที่สุดของ Apple ขณะที่รุ่น 11 นิ้วมีความหนา 5.3 มิลลิเมตร โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ 0.98 และ 1.28 ปอนด์ สำหรับ 11 นิ้วและ 13 นิ้วตามลำดับ

Apple ได้ย้ายกล้องหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซลไปอยู่ที่ขอบแนวนอนของอุปกรณ์เพื่อประสบการณ์การใช้งาน FaceTime ที่ดียิ่งขึ้น ส่วนกล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/1.8 ก็มีการปรับปรุงประสิทธิภาพในการสแกนเอกสาร ผ่านการเชื่อมต่อภาพและแฟลชปรับแสงได้รุ่นใหม่

iPad Pro

โดยรุ่นเล็กเริ่มต้นที่ราคา $999 สำหรับรุ่นที่รองรับ Wi-Fi ขณะที่รุ่น 13 นิ้ว ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $1,199 สำหรับรุ่นที่รองรับทั้ง Wi-Fi และ Cellular ทั้งคู่เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าแล้ว โดยจะเริ่มจัดส่งในสัปดาห์หน้า

iPad Air

เป็นครั้งแรกที่ Apple ได้เพิ่มรุ่น 13 นิ้วเข้าสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์ iPad Air โดยทั้งรุ่น 11 นิ้วและ 13 นิ้วจะมาพร้อมกับชิป M2 ของ Apple และมีให้เลือกในสีต่างๆ อันได้แก่ ฟ้า ม่วง สตาร์ไลท์ และเทาสเปซเกรย์

“iPad Air รุ่นนี้มี CPU เร็วขึ้น, GPU เร็วขึ้น และ Neural Engine ที่เร็วขึ้นมาก” Melody Kuna ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการออกแบบผลิตภัณฑ์ iPad ของ Apple กล่าว “และเมื่อผสานกับแบนด์วิดท์หน่วยความจำที่เร็วยิ่งขึ้น ก็ทำให้อุปกรณ์ Air รุ่นใหม่นี้เร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อนเกือบ 50%”

กล้องหน้าของ iPad Air ก็ถูกวางไว้ที่ขอบยาวของตัวเครื่องเช่นกัน โดยกล้องหลังแบบ Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K ที่ความเร็วสูงสุดถึง 240 เฟรมต่อวินาที

รุ่น iPad Air 11 นิ้ว ยังคงเริ่มต้นที่ราคาเดิม $599 และรุ่น 13 นิ้วมีราคาเริ่มต้นที่ $799 ทั้งคู่เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป มีรุ่นที่รองรับ Cellular ให้เลือกด้วย โดยเพิ่มเงินอีก $250

“กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่นี้นำเสนอการปรับปรุงที่สำคัญซึ่งดึงดูดใจผู้ใช้ที่หลากหลาย ทั้งผู้บริโภคทั่วไปและธุรกิจต่างๆ” Pescatore แสดงความเห็นเกี่ยวกับ iPad ทั้งในรุ่น Pro และ Air “ที่สำคัญคือ การมาถึงของผลิตภัณฑ์ใหม่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผู้ใช้ iPad รุ่นปัจจุบันกำลังมองหาโอกาสในการอัปเกรด”

อุปกรณ์เสริมใหม่ Apple Pencil Pro รุ่นใหม่ของ Apple มาพร้อมกับคุณสมบัติการตรวจจับการหมุนผ่านไจโรสโคปตัวใหม่ที่ฝังอยู่ในอุปกรณ์ ซึ่งจะเปิดโอกาสในการผสมผสานการทำงานมากขึ้นในแอปต่างๆ ของ iPad อีกทั้งยังมีเซ็นเซอร์ในตัวด้ามเพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชันใหม่ เช่น การบีบอุปกรณ์เพื่อเรียกชุดเครื่องมือใหม่ หรือกลิ้งเพื่อเปลี่ยนทิศทางของปากกาหรือแปรง

Apple Pencil มีราคา $129 โดยใช้งานร่วมกับ iPad Air และ iPad Pro รุ่นใหม่ได้

นอกจากนี้ยังมี Magic Keyboard รุ่นใหม่ที่มีความบางและเบากว่ารุ่นก่อน โดยแผงพิมพ์จะมีแถวฟังก์ชันชันพร้อมปุ่มต่างๆสำหรับควบคุมความสว่างของหน้าจอ ปุ่ม Media และระดับเสียง รวมทั้งแทร็คแพดรุ่นใหม่ที่ใหญ่ขึ้นและรองรับการตอบสนองแบบ Haptic Feedback

Magic Keyboard ตัวใหม่มีราคา $299 สำหรับ iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว และ $349 สำหรับรุ่น 13 นิ้ว

#Apple #iPad #iPadAir #iPadPro #M4chip #OLED #NeuralEngine #ApplePencilPro #MagicKeyboard #เปิดตัว #ข่าวไอที #เทคโนโลยี

banner Sample

Related Posts