ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ระดับโลก ประกาศความสำเร็จในการดำเนินงานด้านความยั่งยืน โดยโรงงานเกตเวย์ ซึ่งเป็นโรงงานผลิตสินค้าอาหารของบริษัทฯ ได้รับการรับรองว่าใช้พลังงานหมุนเวียน 100% เป็นแห่งแรกในประเทศไทย
- – ซีพีแรม ทุ่ม 2 พันล้าน ผุดโรงงานเบเกอรี่แห่งใหม่ ส่งขนมปังเลอแปงแผ่นใหญ่เจาะตลาด
- – Startup ม.ขอนแก่น Lily Pharma ผลิตปุ๋ยน้ำนาโน ลดปัญหา Climate Change มาเลเซียขอร่วมทุนตั้งโรงงานทันที
คุณพนิตนาถ จำรัสพันธุ์ ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ความสำเร็จครั้งนี้เกิดจากความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2039
โรงงานเกตเวย์ ได้ดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อลดการใช้พลังงานและเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างเต็มรูปแบบ โดยมี 4 ปัจจัยหลักที่นำไปสู่ความสำเร็จ ได้แก่
- การจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ: โรงงานเกตเวย์ได้รับการรับรอง Zero Waste to Landfill ตั้งแต่ปี 2014 หมายความว่าของเสียทั้งหมดถูกนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ทั้งหมด โดยไม่มีการฝังกลบหรือเผาทำลาย
- ของเสียประเภทอาหาร นำไปเป็นอาหารสัตว์ให้กับเกษตรกรในชุมชน
- ของเสียประเภทอื่นๆ เช่น กระดาษ พลาสติก นำไปรีไซเคิล
- น้ำเสีย ร่วมมือกับนิคมอุตสาหกรรมนำไปใช้ประโยชน์ในชุมชน
- การใช้พลังงานไอน้ำจากหม้อต้มชีวมวล: โรงงานเปลี่ยนจากการใช้น้ำมันเตามาเป็นพลังงานชีวมวล 100% ซึ่งมาจากแหล่งที่ยั่งยืนและไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาหม้อต้มไอน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดการใช้พลังงาน
- การใช้พลังงานไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน: โรงงานใช้พลังงานไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา (โซลาร์รูฟ) เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เอง ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมาก
- การใช้สารทำความเย็นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: โรงงานเลิกใช้สารทำความเย็นที่ทำลายชั้นโอโซนตั้งแต่ปี 2020 และเปลี่ยนมาใช้สารทำความเย็นที่ไม่ทำลายชั้นโอโซนและมีค่า GWP (Global Warming Potential) ต่ำ
ความสำเร็จของโรงงานเกตเวย์ ไม่เพียงแต่เป็นไปตามเป้าหมายของยูนิลีเวอร์ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่ยังเป็นไปตามเป้าหมายของประเทศไทยในการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนอีกด้วย
ปัจจัยสู่ความสำเร็จ
คุณพนิตนาถ กล่าวถึงปัจจัยสำคัญที่ทำให้โรงงานเกตเวย์ประสบความสำเร็จในการใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ดังนี้
- การสนับสนุนจากผู้บริหาร: ผู้บริหารระดับสูงให้ความสำคัญและสนับสนุนการดำเนินงานด้านความยั่งยืนอย่างเต็มที่
- แผนงานที่ชัดเจน: มีการวางแผนระยะยาวและระยะสั้นที่ชัดเจน มีการติดตามและประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ
- ทีมเวิร์ค: ทุกฝ่ายในโรงงานทำงานร่วมกันเป็นทีม มีการสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอย่างเปิดเผย
- การมีส่วนร่วมของพนักงาน: พนักงานทุกคนได้รับการส่งเสริมให้มีส่วนร่วมในการลดการใช้พลังงานและของเสีย
ความท้าทายและแนวทางแก้ไข
แม้ว่าโรงงานเกตเวย์จะประสบความสำเร็จในการใช้พลังงานหมุนเวียน 100% แต่ก็ยังมีความท้าทายบางประการ เช่น การจัดหาเชื้อเพลิงชีวมวลให้เพียงพอต่อความต้องการ และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในส่วนของ Scope 3 ซึ่งเกี่ยวข้องกับซัพพลายเชนทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและปรับปรุงการดำเนินงานด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายที่จะขยายผลสำเร็จของโรงงานเกตเวย์ไปยังโรงงานอื่นๆ ของบริษัทฯ ทั่วประเทศ
บทเรียนสำหรับธุรกิจอื่นๆ
ความสำเร็จของโรงงานเกตเวย์ เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับธุรกิจอื่นๆ ที่ต้องการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยสามารถนำบทเรียนและแนวทางปฏิบัติของโรงงานเกตเวย์ไปปรับใช้ได้
คุณพนิตนาถ แนะนำว่า ธุรกิจที่ต้องการเริ่มต้นในการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ควรเริ่มจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ก่อน แล้วค่อยๆ ขยายผลไปเรื่อยๆ และที่สำคัญคือ ต้องมีการสื่อสารที่ชัดเจนกับพนักงานทุกระดับ เพื่อให้ทุกคนเข้าใจและมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความยั่งยืน
ทั้งนี้ยูนิลีเวอร์เป็นบริษัทผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำระดับโลก มีผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท และเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจที่ถูกต้องและยั่งยืน เราส่งมอบผลิตภัณฑ์ไปยังกว่า 190 ประเทศทั่วโลก และมีโรงงานกว่า 280แห่งทั่วโลก ยอดขายทั่วโลกปีที่ผ่านมาประมาณ 6 หมื่นล้านยูโร โดยสัดส่วนของยอดขายกว่า 75% มาจากแบรนด์ที่แข็งแกร่งของเราเอง โดยประชากรโลกกว่า 3,400 ล้านคน ใช้ผลิตภัณฑ์จากยูนิลีเวอร์ในทุกวัน
#ยูนิลีเวอร์ #โรงงานเกตเวย์ #พลังงานหมุนเวียน #ความยั่งยืน #ZeroWaste #โรงงานสีเขียว #พลังงานชีวมวล #โซลาร์รูฟ #NetZero #ลดคาร์บอน #ESG #ความรับผิดชอบต่อสังคม #SustainableBusiness #CircularEconomy #พลังงานสะอาด #GoGreen #ลดโลกร้อน