บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เรื่องการยกเลิกการขายหุ้นที่ซื้อคืนจำนวน 95 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่ากว่า 95 ล้านบาท และลดทุนจดทะเบียนลงตามจำนวนดังกล่าว
- – EA ถูก SET สั่งพักซื้อขายหุ้นชั่วคราว เซ่นพิษกล่าวโทษอดีตผู้บริหาร
- – SCG เผชิญมรสุม อินโดนีเซีย หลังศาลปกครองยกฟ้องคดีภาษีบริษัทลูก
การลดทุนจดทะเบียนโดยการตัดหุ้นซื้อคืนนี้ มีผลให้ทุนจดทะเบียนของSABUY ลดลงจาก 1,766,768,238 หุ้น เหลือ 1,671,768,238 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
SABUYได้ดำเนินโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน แต่เมื่อสิ้นสุดโครงการในวันที่ 11 กรกฎาคม 2567 บริษัทยังไม่สามารถขายหุ้นที่ซื้อคืนได้ทั้งหมด ตามกฎหมายบริษัทจึงต้องลดทุนจดทะเบียนลงตามจำนวนหุ้นที่ยังไม่ได้ขาย
ผลกระทบต่อผู้ถือหุ้น
- สัดส่วนการถือหุ้น: การลดทุนจะไม่ส่งผลกระทบต่อสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นแต่ละราย เนื่องจากเป็นการลดทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นเดิม
- ราคาหุ้น: ในระยะสั้น ราคาหุ้นSABUY อาจได้รับแรงกดดันจากความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับการลดทุน อย่างไรก็ตาม ในระยะยาว ราคาหุ้นจะขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานของบริษัท เช่น ผลประกอบการ และแนวโน้มธุรกิจ
- มูลค่าหุ้นทางบัญชี: มูลค่าหุ้นทางบัญชีต่อหุ้น (Book Value per share) ของ SABUY จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการลดจำนวนหุ้น
- เงินปันผล: หากบริษัทมีกำไรและจ่ายเงินปันผลในอัตราเดิม ผู้ถือหุ้นจะได้รับเงินปันผลต่อหุ้นเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีจำนวนหุ้นลดลง
SABUY: ภาพรวมธุรกิจและอนาคต
SABUYเป็นผู้นำในการให้บริการด้านเทคโนโลยีทางการเงินและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง บริษัทมีธุรกิจหลากหลาย เช่น การให้บริการชำระเงินผ่านตู้เติมเงิน การให้บริการสินเชื่อ และการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพ
SABUYมีแผนที่จะขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการของลูกค้า บริษัทยังมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำในตลาดอาเซียน
นักวิเคราะห์มองว่าการลดทุนของSABUY เป็นไปตามกฎหมายและไม่น่าส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัทในระยะยาว อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและประเมินความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
**** การลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนการลงทุน ****
#SABUY #ลดทุน #หุ้นซื้อคืน #ตลาดหลักทรัพย์ #ผลกระทบผู้ถือหุ้น #TheReporterAsia