กรุงเทพฯ – ธนาคาร กรุงไทย ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567 มีกำไรสุทธิ 11,195 ล้านบาท ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า แม้รายได้รวมจะลดลงเล็กน้อย แต่ธนาคารสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ Cost to Income ratio ลดลงเหลือ 41.7% นอกจากนี้ ธนาคารยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลคุณภาพสินทรัพย์ โดยรักษา Coverage Ratio ในระดับสูงที่ 181% และตั้งสำรองอย่างเหมาะสมเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
- – เซ็นทรัล รีเทล ยกระดับนวัตกรรมค้าปลีก รับเทรนด์นักท่องเที่ยวใช้ Alipay+ จับจ่ายมากขึ้น 2 เท่า
- – สแกนจ่ายที่ฮ่องกงด้วยทรูมันนี่ ผ่าน Alipay+ ได้แล้ววันนี้
ธนาคารกรุงไทยยังคงเดินหน้าตามยุทธศาสตร์การเติบโตอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้าทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ธนาคารได้พัฒนาแนวทางการช่วยเหลือลูกหนี้ให้ครอบคลุมและตรงจุดมากขึ้น พร้อมทั้งยึดมั่นในแนวทางการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 22,274 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้รวมจากการดำเนินงานขยายตัว 12.9% ทั้งจากการบริหารจัดการ Portfolio และอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวขึ้น รวมถึงรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิและรายได้จากการดำเนินงานอื่นๆ
ธนาคารกรุงไทยยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาองค์กรด้วยนวัตกรรม เพื่อก้าวทันการเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจยุคใหม่ โดยขับเคลื่อน “นวัตกรรมสร้างคุณค่า ตอบโจทย์ลูกค้า สู่ความยั่งยืน” ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ทันสมัยบนดิจิทัลแพลตฟอร์ม พร้อมตอบโจทย์การดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับ ESG โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม
ล่าสุด บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Fitch Ratings ได้คงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคารที่ BBB+ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ AAA(tha) สะท้อนถึงคุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง
#กรุงไทย #KTB #ผลประกอบการ #ไตรมาส2 #กำไรสุทธิ #ช่วยเหลือลูกหนี้ #นวัตกรรม #ESG #FitchRatings