กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – วันนี้ถือเป็นวันแรกของการประชุม AsiaXchange 2024 ณ กรุงเทพมหานคร ซึ่งจัดขึ้นโดยมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ ท่ามกลางการอภิปรายทั่วไปของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ ครั้งที่ 79 (UNGA79) ที่กำลังดำเนินอยู่ ภายใต้ธีม “เร่งการเปลี่ยนแปลงสู่เอเชียสีเขียวอย่างเท่าเทียม: การใช้แนวทางระบบเพื่อการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ“
- – ตลาดสมาร์ทโฟน เกาหลีเหนือ เติบโตอย่างก้าวกระโดดหลังเปิดพรมแดน
- – ส่องการพัฒนาจีน: มหากาพย์แห่งการพัฒนา สุขภาพ จีนที่แข็งแกร่ง
โดยงานนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสำรวจว่าประเทศ ธุรกิจ และชุมชนจะร่วมมือกันสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและปล่อยคาร์บอนต่ำสำหรับภูมิภาคได้อย่างไร AsiaXchange 2024จะมีการอภิปรายเชิงปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้แนวทางระบบที่ขับเคลื่อนโดยความร่วมมือระหว่างบุคคล ชุมชน รัฐบาล ภาคเอกชน และนักการเงิน เพื่อส่งเสริมเอเชียที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความยืดหยุ่น
ดีพาลี คันนา รองประธานสำนักงานภูมิภาคเอเชียของมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ กล่าวเปิดงานAsiaXchange 2024ด้วยการเน้นย้ำถึงบทบาทที่สำคัญของเอเชียในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก ระบุว่า “เอเชียไม่ได้เป็นเพียงผู้เล่นในเวทีแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศโลก แต่เรากำลังเป็นผู้นำ!“
คันนา ยังกล่าวถึงความสำเร็จของ AsiaXchange ปีที่แล้วที่กรุงนิวเดลี ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือที่นำไปสู่โครงการต่างๆ มากมายในปีนี้ “AsiaXchange 2024 ไม่ได้เป็นเพียงการเฉลิมฉลองความสำเร็จที่ผ่านมา” เธอกล่าวต่อ “มันคือจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งใหม่ ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ท้าทายกว่าเดิม และเต็มไปด้วยโอกาสที่รอให้เราไขว่คว้า”
ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ผู้นำจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม จะร่วมกัน “เดิมพันครั้งใหญ่” เพื่ออนาคตของเอเชีย การประชุมจะเน้นไปที่ 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ นวัตกรรม การระดมทุน และการเสริมพลังให้ชุมชน
- นวัตกรรม: เอเชียเป็นแหล่งรวมของความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีล้ำสมัย การประชุมครั้งนี้จะเป็นเวทีในการนำเสนอและพัฒนาโซลูชันใหม่ๆ ที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสร้างความยั่งยืนให้กับภูมิภาค
- การระดมทุน: มูลนิธิ Rockefeller Foundation ประกาศความมุ่งมั่นที่จะลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในอีก 5 ปีข้างหน้า เพื่อสนับสนุนโครงการด้านสภาพภูมิอากาศในเอเชีย การประชุมนี้จะเป็นโอกาสในการเชื่อมโยงนักลงทุนกับโครงการที่มีศักยภาพ และสร้างความร่วมมือเพื่อการลงทุนที่ยั่งยืน
- การเสริมพลังให้ชุมชน: ชุมชนต่างๆ ในเอเชียกำลังเผชิญกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างหนักหน่วง การประชุมครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้เสียงของพวกเขาได้รับการรับฟัง และให้พวกเขามีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายและโครงการที่จะส่งผลกระทบต่อชีวิตของพวกเขา
คันนา ทิ้งท้ายด้วยการย้ำเตือนถึงความเร่งด่วนของสถานการณ์ “วิกฤตสภาพภูมิอากาศไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป” เธอกล่าว “มันคือความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเราในปัจจุบัน แต่ในวิกฤตนั้นก็มีโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเช่นกัน โอกาสในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน เป็นธรรม และเต็มไปด้วยศักยภาพสำหรับทุกคน”
AsiaXchange 2024 ไม่ได้เป็นเพียงการประชุม แต่เป็นสัญญาณแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่เอเชียจะลุกขึ้นสู้วิกฤตสภาพภูมิอากาศ และเป็นผู้นำในการสร้างโลกที่ยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไป
เอเชียเป็นศูนย์กลาง
“เอเชียเป็นศูนย์กลางของการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศทั่วโลก” ดีพาลี คันนา รองประธานสำนักงานภูมิภาคเอเชียของมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ กล่าวในการเปิดงาน “ด้วย AsiaXchange 2024 เรากำลังรวบรวมนักการเงิน นักกำหนดนโยบาย ผู้ให้บริการโซลูชั่น และผู้นำชุมชนแนวหน้าของเอเชีย มาร่วมแบ่งปันแนวคิด สร้างความร่วมมือ และค้นหาโซลูชั่นที่เราต้องการ เพื่อสร้างอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความยืดหยุ่นสำหรับทุกคน”
AsiaXchange 2024 เกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญ เนื่องจากภูมิภาคนี้กำลังเตรียมพร้อมสำหรับ COP29 ซึ่งวาระด้านสภาพอากาศของเอเชียจะเป็นจุดสนใจหลัก งาน AsiaXchange ปีนี้จะสำรวจว่าเอเชียสามารถเป็นผู้นำด้วยโซลูชั่นและความร่วมมือที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อให้เป็นไปตามพันธสัญญาด้านสภาพภูมิอากาศได้อย่างไร วิทยากรและผู้เข้าร่วมประชุมจากทั่วเอเชียและทั่วโลกจะกล่าวถึงประเด็นสำคัญต่างๆ
เช่น เราจะร่วมมือกันสร้างแรงผลักดันเพื่อการเปลี่ยนแปลงสู่เอเชียสีเขียวอย่างเท่าเทียมได้อย่างไร? เราจะขับเคลื่อนความพยายามด้านสภาพภูมิอากาศโดยยึดแนวทางที่เน้นประชาชนเป็นศูนย์กลางและการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบได้อย่างไร? เราจะระดมทุนในประเทศ ภูมิภาค และระหว่างประเทศที่เหมาะสมกับเอเชียได้อย่างไร?
“เอเชียสามารถแสดงให้ส่วนอื่นๆ ของโลกเห็นว่าจะบรรลุการพัฒนาควบคู่ไปกับความยั่งยืนได้อย่างไร” เอลิซาเบธ ยี รองประธานบริหารฝ่ายโครงการของมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ กล่าวเสริม “AsiaXchange 2024จะช่วยให้เราเสริมสร้างความร่วมมือที่มีศักยภาพในการขยายโซลูชั่นด้านสภาพภูมิอากาศที่ใช้ได้จริงและเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลางทั่วทั้งภูมิภาค”
ไฮไลท์ของ AsiaXchange 2024
ตลอด 3 วันของการประชุม ผู้เข้าร่วมจะได้สัมผัสกับเซสชั่นที่น่าสนใจหลากหลาย ได้แก่:
- ความปรารถนา กับ ความเป็นจริง: ถอดรหัสการเติบโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความยืดหยุ่นในเอเชีย
- การแก้ปัญหา Trilemma ของโซลูชัน: ความครอบคลุม ความสามารถในการจ่าย และความสามารถในการปรับขนาด
- เสียงเยาวชนเพื่อการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ
- การขยายการลงทุนในท้องถิ่นเพื่อการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ
- พันล้านและล้านล้าน: การปิดช่องว่างทางการเงินด้านสภาพภูมิอากาศ
- การเพิ่มจำนวนโมเดลธุรกิจที่ครอบคลุมและยั่งยืน
- ความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อความทะเยอทะยานด้านสภาพภูมิอากาศ
- AI และการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ: อนาคตของเทคโนโลยีในเอเชีย
AsiaXchange 2023 ที่จัดขึ้นในนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อปีที่แล้ว ได้ประสบความสำเร็จอย่างมากในการระดมผู้นำระดับโลกกว่า 150 คน เพื่อหารือเกี่ยวกับกลยุทธ์ด้านสภาพอากาศใหม่ของมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ และมุ่งเน้นไปที่การระบุโอกาสสำคัญสำหรับการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศทั่วเอเชีย ความสำเร็จของงานดังกล่าวได้ปูทางไปสู่ AsiaXchange 2024ในกรุงเทพฯ ซึ่งการสนทนาจะขยายวงกว้างออกไปอีก
ไทยย้ำจุดยืนบนเวทีโลก หนุนสันติภาพ มุ่ง SDGs พร้อมเป็น ‘สะพานเชื่อม’ แก้ปัญหาโลก
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ประเทศไทย ได้กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ ครั้งที่ 79 (UNGA79) เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2567 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก โดยเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของไทยในการดำเนินนโยบายที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง และมุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมแสดงความพร้อมที่จะเป็น ‘สะพานเชื่อม’ ในการแก้ไขปัญหาความท้าทายระดับโลก
รัฐมนตรีฯ กล่าวถึงความสำคัญของการปฏิรูปสหประชาชาติ เพื่อรับมือกับความท้าทายต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะการสร้างเสริมสันติภาพและความมั่นคง ยกตัวอย่างสถานการณ์ในเมียนมา ที่ไทยในฐานะประเทศเพื่อนบ้านใกล้ชิด พร้อมสนับสนุนกระบวนการสันติภาพที่เกิดขึ้นจากภายใน และให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ผู้ได้รับผลกระทบ
การพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
ไทยพร้อมสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศที่พัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนา โดยมุ่งหวังที่จะเข้าเป็นสมาชิก OECD และ BRICS เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาสำคัญๆ ของโลก โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกประเทศ
รัฐมนตรีฯ ย้ำถึงความมุ่งมั่นของไทยในการปกป้องและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ผ่านการสร้างความยุติธรรมและความเท่าเทียมในสังคม พร้อมกล่าวถึงการสมัครเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (HRC) วาระปี ค.ศ. 2025-2027
ไทยพร้อมที่จะเป็น ‘สะพานเชื่อม‘ ในการสร้างความร่วมมือ และส่งเสริมการเจรจาและความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างประเทศ เพื่อสร้างอนาคตที่ทุกคนได้รับการปกป้องและมีความเจริญรุ่งเรือง
#AsiaXchange2024 #เอเชียสีเขียว #การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ #ความร่วมมือ #UNGA79 #ไทย #สันติภาพ #SDGs #สิทธิมนุษยชน #สะพานเชื่อม