สตูล, ประเทศไทย – กระทรวงพาณิชย์เดินหน้าผลักดัน “กระท้อนนาปริกสตูล” ขึ้นทะเบียน GI สินค้าลำดับที่ 209 ของประเทศไทย ชูจุดเด่นรสชาติหวานอร่อย เนื้อหนานุ่ม เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากแหล่งปลูกใกล้ทะเล หวังเพิ่มมูลค่าสินค้า สร้างรายได้ให้เกษตรกร พร้อมผลักดันสู่ตลาดโลก
- – พาณิชย์จังหวัดเลย ลุยส่งเสริม ตลาดหน้าด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็ง
- – ดีอี สกัดภัยออนไลน์! ปิดเพจ-URL เถื่อน พุ่ง 150,000 รายการ
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก โดยใช้ประโยชน์จากการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI เพื่อคุ้มครองสินค้าท้องถิ่นชุมชนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในพื้นที่แหล่งผลิตสินค้าในแต่ละท้องถิ่น สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ตลอดจนส่งเสริมการจัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้าเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค และขยายช่องทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง
ทำให้สินค้า GI เป็นสินค้าสำคัญที่ขับเคลื่อนนโยบาย Soft Power ตามนโยบายของรัฐบาล ล่าสุดกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ประกาศขึ้นทะเบียน “กระท้อนนาปริกสตูล” เป็นสินค้า GI ลำดับที่ 2 ของจังหวัดสตูลต่อจากสินค้าจำปาดะสตูล และเป็นสินค้าที่ขึ้นทะเบียน GI ลำดับที่ 209 สร้างมูลค่าทางการตลาดกว่า 73,000 ล้านบาทต่อปี
กระท้อนนาปริกสตูล ถูกปลูกในพื้นที่บ้านนาปริก จังหวัดสตูล ซึ่งนับว่าเป็นแหล่งปลูกกระท้อนที่มีมานานกว่า 30 ปี พื้นที่ใกล้ทะเล มีฝนตกชุกในช่วงฤดูฝน ทำให้มีแหล่งน้ำใต้ดินจำนวนมาก ปริมาณน้ำเพียงพอและมีความชื้นที่เหมาะกับการปลูกกระท้อน ด้วยแหล่งภูมิศาสตร์นี้ประกอบกับกระบวนการปลูกที่พิถีพิถันของเกษตรกร ส่งผลให้กระท้อนนาปริกสตูลมีรสชาติที่หวานอร่อย เนื้อหนานุ่ม ปุยหุ้มเมล็ดหนาฟู ไม่เหนียว สามารถรับประทานเนื้อได้จนเกือบถึงเปลือกผล มีความโดดเด่น อัตลักษณ์ชัดเจน ซึ่งแตกต่างจากกระท้อนในพื้นที่อื่นๆ
โดยพันธุ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือพันธุ์อีล่า ด้วยผลใหญ่ยักษ์ เปลือกบาง ใช้ซ้อนตักกินแบบสบายๆ เนื้อปุยนิ่ม อร่อยกำลังดี อร่อยจนโด่งดัง และมีชื่อเสียงแพร่หลาย นอกจากนี้ ยังมีพันธุ์ปุยฝ้าย พันธุ์นิ่มนวล พันธุ์เขียวหวาน และพันธุ์ทับทิม ทั้งนี้ กระท้อนนาปริกสตูลนับว่าเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัดสตูล ซึ่งถูกผลักดันให้สินค้าสามารถนำเข้าแข่งขันในตลาดโลกได้
อีกทั้งยังเป็นสินค้าภูมิปัญญาที่มีการถ่ายทอดเทคนิคและวิธีการปลูกจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อคงคุณภาพที่ดีและความเป็นเอกลักษณ์จนถึงปัจจุบัน ซึ่งสร้างรายได้เข้าจังหวัดสตูลและเกษตรกรในพื้นที่ และมีการขยายผลไปสู่การเชื่อมโยงท่องเที่ยวชุมชนตามคำขวัญ “แหล่งกระท้อน นุ่มหวาน ดินแดนประวัติศาสตร์โบราณ ประตูอุทยานธรณี”
กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาจะเดินหน้าผลักดันการขึ้นทะเบียน GI ไทยอย่างต่อเนื่อง โดยจัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้า เพื่อรักษาคุณภาพและมาตรฐานของสินค้า ทั้งนี้ สำหรับเกษตรกรหรือชุมชนท้องถิ่นในจังหวัดที่สนใจนำสินค้าชุมชนที่มีอัตลักษณ์และเชื่อมโยงกับแหล่งภูมิศาสตร์สามารถนำมาปรึกษาเพื่อขอรับการขึ้นทะเบียน GI ได้ที่ ศูนย์บริการประชาชน กรมทรัพย์สินทางปัญญา หรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมทรัพย์สินทางปัญญา โทร. 1368
#GI #สินค้าGI #กระท้อนนาปริก #สตูล #SoftPower #เศรษฐกิจฐานราก #ภูมิปัญญา #กระทรวงพาณิชย์ #กรมทรัพย์สินทางปัญญา