กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – Sandeep Kapoor รองประธาน HPE เผยวิสัยทัศน์ “การปฏิวัติ AI ครั้งที่ 4” ชู HPE Private Cloud for AI โซลูชันที่พัฒนาร่วมกับ NVIDIA ตอบโจทย์องค์กรธุรกิจทุกขนาด พร้อมเผยความร่วมมือกับ Mercedes-AMG Petronas Formula One Team ใช้ AI พัฒนารถแข่ง ย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยีของ HPE และ GreenLake คือหัวใจสำคัญของกลยุทธ์ AI มุ่งสู่การสร้างระบบนิเวศ AI ที่ครบวงจร ผลักดันประเทศไทยสู่ผู้นำ AI ในภูมิภาค
- – จับตา แผน ปัญญาประดิษฐ์ แห่งชาติ 2 ปี แห่งการสร้างคน พัฒนานวัตกรรม
- – เดลต้า จัดงาน DELTA FUTURE INDUSTRY SUMMIT 2024 ชูศักยภาพ AI
Sandeep Kapoor รองประธานบริษัท Hewlett Packard Enterprise (HPE) ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสื่อมวลชน โดยเผยถึงมุมมองต่อเทคโนโลยี AI และกลยุทธ์ของ HPE ในการผลักดันองค์กรธุรกิจสู่ยุค ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน เปรียบเสมือนการปฏิวัติ AI ครั้งที่ 4 ซึ่งมีผลกระทบเทียบเท่าหรือมากกว่าการปฏิวัติอินเทอร์เน็ตในปี 1999 โดยโครงข่ายประสาทเทียม (Neural Networks) และแบบจำลองภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Models) เช่น ChatGPT เป็นตัวเร่งสำคัญที่ทำให้ AI ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทุกอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นภาคการผลิต ธนาคาร โทรคมนาคม สาธารณสุข รวมถึงทุกคนในสังคม
HPE Private Cloud for AI: โซลูชัน AI ที่พัฒนาร่วมกับ NVIDIA
Kapoor กล่าวว่า HPE มุ่งเน้นการพัฒนา AI สำหรับองค์กรธุรกิจ โดยให้ความสำคัญกับ 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ความปลอดภัยของข้อมูล (Data Security) ความคุ้มค่า (Cost Efficiency) และการปฏิบัติตามข้อกำหนด (Compliance)
ล่าสุด HPE ได้เปิดตัว Private Cloud for AI (PCAI) ซึ่งเป็นโซลูชันที่พัฒนาร่วมกับ NVIDIA ผู้นำด้านเทคโนโลยี GPU โดย PCA ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรธุรกิจโดยเฉพาะ ด้วยการนำเสนอระบบคลาวด์ส่วนตัวที่ติดตั้งในองค์กร ซึ่งช่วยลดความกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล และลดความซับซ้อนในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานฮาร์ดแวร์
PCAI มาพร้อมกับ GreenLake แพลตฟอร์มคลาวด์ไฮบริดของ HPE ที่ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถจัดการระบบได้ง่าย ผ่าน single pane of glass รวมถึง AI Essentials ชุดเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลแบบครบวงจร และ HPE Unified Analytics
นอกจากนี้ PCAI ยังผสานรวม GPU ซอฟต์แวร์ NVIDIA AI Enterprise และ NVIDIA NeMo framework เข้าด้วยกันอย่างลงตัว เพื่อมอบประสิทธิภาพสูงสุดในการประมวลผล AI
Kapoor เน้นย้ำว่า PCAI เป็นโซลูชันที่แตกต่าง เพราะเป็นการร่วมมือกันพัฒนาอย่างแท้จริงระหว่าง HPE และ NVIDIA โดยทีมวิศวกรของทั้งสองบริษัทได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อออกแบบ PCAI ให้ตอบโจทย์องค์กรธุรกิจ ด้วยจุดเด่นคือความง่ายในการใช้งาน สามารถติดตั้งและใช้งานได้รวดเร็ว และมีความยืดหยุ่นในการปรับขนาด (scalability) ตามความต้องการของลูกค้า โดยมีให้เลือก 4 ขนาด ได้แก่ Small, Medium, Large และ Extra Large
HPE ร่วมกับ Mercedes-AMG Petronas Formula One Team ใช้ AI พัฒนารถแข่ง
Kapoor ได้กล่าวถึงความร่วมมือกับทีม Mercedes-AMG Petronas Formula One ในการนำ AI มาใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพของรถแข่ง โดย Michael Taylor ผู้อำนวยการฝ่าย IT ของ Mercedes-AMG Petronas Formula One Team จะร่วมพูดคุยถึงรายละเอียดการใช้งาน AI ในสนามแข่ง
Kapoor อธิบายว่า เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการแข่งขัน Formula One โดยข้อมูลจากเซ็นเซอร์ต่างๆ บนรถ เช่น ความเร็ว อุณหภูมิ แรงดันลมยาง จะถูกส่งไปประมวลผลแบบเรียลไทม์ ทั้งบนรถ ที่ paddock และศูนย์ข้อมูล เพื่อช่วยในการตัดสินใจของทีมแข่ง และปรับแต่งรถให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
“การแข่งขัน Formula One มีความละเอียดอ่อนมาก บางครั้งการแพ้ชนะอาจตัดสินกันด้วยเวลาเพียงเสี้ยววินาที ดังนั้น AI จึงมีส่วนสำคัญในการวิเคราะห์ข้อมูล และช่วยให้ทีมแข่งตัดสินใจได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว” Kapoor กล่าว
Kapoor เสริมว่า ความร่วมมือกับ Mercedes-AMG Petronas Formula One Team เป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของ HPE และสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่า HPE มีเทคโนโลยีและบริการที่ทันสมัย สามารถตอบโจทย์ความต้องการในสภาพแวดล้อมที่มีความท้าทายสูง
ปัจจัยสำคัญในการลงทุน AI และ Use Case ที่น่าสนใจ
Kapoor กล่าวว่า องค์กรธุรกิจที่ต้องการลงทุนใน AI ควรพิจารณา 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่
- การเลือก Use Case ที่เหมาะสม: องค์กรควรเริ่มต้นจากปัญหาที่ AI สามารถช่วยแก้ไขได้จริง และมีผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ชัดเจน ตัวอย่างเช่น การใช้ AI เพื่อตรวจจับการทุจริต การสร้างแคมเปญการตลาดแบบเฉพาะบุคคล การพัฒนา chatbot เพื่อตอบคำถามลูกค้า การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต เป็นต้น
- การเลือกโครงสร้างพื้นฐานที่ถูกต้อง: องค์กรควรเลือกโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมกับ use case และขนาดขององค์กร โดย HPE มีโซลูชันที่หลากหลาย ตั้งแต่ on-premises ไปจนถึง hybrid cloud เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่าง
- การมีบุคลากรที่มีทักษะ: องค์กรควรลงทุนในการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถด้าน AI เพื่อให้สามารถใช้งาน AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กลยุทธ์สู่ความสำเร็จในยุค AI ของ HPE
Kapoor กล่าวถึงกลยุทธ์ของ HPE ในการชนะการแข่งขันในตลาด AI ว่าประกอบด้วย
- การนำเสนอโซลูชันที่ใช้งานง่าย: HPE มุ่งมั่นพัฒนาโซลูชันที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน เพื่อให้ลูกค้าสามารถเริ่มต้นใช้งาน AI ได้รวดเร็ว
- การให้คำปรึกษาและร่วมมือกับลูกค้า: HPE มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่จะคอยให้คำปรึกษา จัด workshop และแบ่งปันแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด เพื่อช่วยลูกค้าในการเลือก use case และโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม
- การสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่ง: HPE ให้ความสำคัญกับการสร้างพันธมิตร เช่น NVIDIA เพื่อนำเสนอโซลูชันที่ครบวงจร และตอบโจทย์ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
- การสร้างระบบนิเวศที่ครบวงจร: HPE มุ่งมั่นสร้างระบบนิเวศ AI ที่ครบวงจร โดยร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี AI ล่าสุด และบริการที่หลากหลาย
- การมุ่งเน้น ROI ให้กับลูกค้า: HPE ให้ความสำคัญกับการสร้าง ROI ให้กับลูกค้า โดยนำเสนอโซลูชันที่คุ้มค่า และช่วยลูกค้าในการเลือก use case ที่เหมาะสม
- การส่งมอบประสบการณ์คุณภาพสูง: HPE มุ่งมั่นส่งมอบประสบการณ์คุณภาพสูงให้กับลูกค้า ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การติดตั้ง การใช้งาน ไปจนถึงการสนับสนุนหลังการขาย
Kapoor ทิ้งท้ายว่า HPE มุ่งมั่นที่จะพัฒนา roadmap และนวัตกรรม AI อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในอนาคต และพร้อมที่จะเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ช่วยให้องค์กรธุรกิจประสบความสำเร็จในยุค AI
HPE GreenLake คือหัวใจสำคัญ
Kapoor กล่าวว่า HPE GreenLake แพลตฟอร์มคลาวด์ไฮบริด เป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์ AI ของ HPE โดย GreenLake ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึง AI ได้ง่ายขึ้น ด้วยโมเดลการใช้งานแบบ pay-as-you-go ที่ยืดหยุ่น และ scalable
“GreenLake ช่วยลดอุปสรรคในการเข้าถึง AI สำหรับองค์กรธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่อาจมีงบประมาณจำกัด” Kapoor กล่าว
PCAI พร้อมตอบโจทย์ SMEs
Kapoor กล่าวว่า PCAI ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ SMEs โดยเฉพาะ ด้วยการนำเสนอระบบคลาวด์ส่วนตัวที่ติดตั้งในองค์กร ซึ่งช่วยลดความกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล และลดความซับซ้อนในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานฮาร์ดแวร์
“PCAI ช่วยให้ SMEs สามารถเริ่มต้นใช้งาน AI ได้ง่ายขึ้น ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า และมีความยืดหยุ่นในการปรับขนาดตามความต้องการ” Kapoor กล่าว
ความร่วมมือคือกุญแจสู่ความสำเร็จ
Kapoor เน้นย้ำว่า ความร่วมมือ (Partnership) เป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในตลาด AI โดย HPE มีพันธมิตรที่แข็งแกร่ง เช่น NVIDIA, Intel, AMD รวมถึง System Integrators (SIs) และ Independent Software Vendors (ISVs)
“HPE มุ่งมั่นที่จะสร้างระบบนิเวศ AI ที่ครบวงจร โดยร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี AI ล่าสุด และบริการที่หลากหลาย” Kapoor กล่าว
มองอนาคต AI ในประเทศไทย
Kapoor มองว่า ประเทศไทยมีศักยภาพในการเติบโตด้าน AI สูง โดยมีปัจจัยสนับสนุน เช่น นโยบายภาครัฐ การลงทุนของภาคเอกชน และบุคลากรที่มีความสามารถ
“HPE พร้อมที่จะสนับสนุนการพัฒนา AI ในประเทศไทย โดยนำเสนอโซลูชัน AI ที่ทันสมัย และร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้าน AI ในภูมิภาค” Kapoor กล่าวทิ้งท้าย
#HPE #AI #PrivateCloud #NVIDIA #GreenLake #MercedesAMGPetronasFormulaOneTeam #DigitalTransformation #Thailand