กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – บริษัทอสังหาริมทรัพย์ KC เผชิญผลประกอบการไตรมาสแรกที่น่าผิดหวัง รายได้ลดลงกว่าครึ่ง ขาดทุนสุทธิเกือบ 50 ล้านบาท ชี้แจงสาเหตุหลักมาจากยอดขายบ้านที่ลดลง ประกอบกับค่าใช้จ่ายด้านคดีความที่เพิ่มสูงขึ้น
- – SCGD ลุยขยายธุรกิจในอาเซียน ตั้งเป้ารายได้โตสองเท่าภายในปี 2030
- – MBK ทุ่มทุนตั้ง “บางกอก กอล์ฟ พูล วิลล่า” เตรียมผุดโครงการบ้านหรู
บริษัท เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ KC เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2567 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม ด้วยตัวเลขที่น่ากังวล โดยบริษัทมีรายได้รวม 22.54 ล้านบาท ลดลงอย่างมากถึง 52.72% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และประสบภาวะขาดทุนสุทธิ 49.64 ล้านบาท
ยอดขายบ้านโครงการแนวราบทรุด ฉุดรายได้ร่วง
ผลประกอบการที่ตกต่ำนี้ มีสาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยลดลงถึง 55.60% เหลือเพียง 20.30 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายบ้านในโครงการแนวราบของบริษัทที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงภาวะซบเซาของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน และความ challenges ในการแข่งขันของบริษัท
นอกจากรายได้ที่ลดลงแล้ว KC ยังเผชิญกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายจากคดีความฟ้องร้องที่สูงถึง 30 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากคดีที่ลูกบ้านในโครงการอสังหาริมทรัพย์โครงการหนึ่งของบริษัท ได้ยื่นฟ้องร้องเรียกเงินชดเชย จากกรณีที่บริษัทไม่สามารถจัดให้มีสาธารณูปโภคต่างๆ ให้ครบถ้วนตามที่ระบุไว้ในสัญญาจะซื้อจะขาย เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบทางลบต่อภาพลักษณ์ของบริษัท และสร้างภาระทางการเงินที่หนักหน่วง
ปัญหาทางการเงินของKC ยังซ้ำเติมด้วยต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งดอกเบี้ยจากหนี้สินที่ผิดนัดชำระ ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงฐานะทางการเงินที่เปราะบางของบริษัท และอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการดำเนินธุรกิจในอนาคต
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 1,035.36 ล้านบาท ลดลง 1.37% จากสิ้นปี 2566 ในขณะที่หนี้สินรวมกลับเพิ่มขึ้น 5.13% เป็น 723.45 ล้านบาท ส่งผลให้ส่วนของผู้ถือหุ้นรวมลดลง 13.73% เหลือ 311.91 ล้านบาท ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงสถานะทางการเงินที่อ่อนแอลงของKC
ความคืบหน้าคดีความกับสถาบันการเงินและอดีตผู้บริหาร
นอกจากคดีความกับลูกบ้านแล้ว KCยังคงมีคดีความฟ้องร้องกับสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง และอดีตผู้บริหารของบริษัท ในข้อหาทุจริต ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ความคืบหน้าของคดีความต่างๆ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่ออนาคตของบริษัท
KCกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก ผลประกอบการไตรมาสแรกที่ขาดทุนสุทธิ บวกกับปัญหาหนี้สิน และคดีความต่างๆ ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามอง บริษัทจำเป็นต้องเร่งแก้ไขปัญหา และปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่น และสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในระยะยาว
#KC #ผลประกอบการ #ขาดทุน #อสังหาริมทรัพย์ #คดีความ #หนี้สิน #ตลาดอสังหาฯ