กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี สั่งการ สคส. ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำกับดูแลบริษัทผู้จำหน่ายและให้บริการมือถือ แท็บเล็ต ป้องกันการติดตั้งแอปพลิเคชันที่ผิดกฎหมาย หรือละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของผู้บริโภค
- – รัฐบาลจ่อตั้ง คกก. เฉพาะกิจ แก้ปัญหาแอปฯกู้เงินเถื่อนใน OPPO-realme
- – OPPO-realme เขย่าสมรภูมิข่าวสะท้อน “ผลประโยชน์” และ “จริยธรรม”
นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รักษาการแทน เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) ในฐานะโฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้สั่งการให้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งตรวจสอบและป้องกันไม่ให้โทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ท มีการลงแอปพลิเคชันที่ผิดกฎหมาย หรือ มีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ซื้อมือถือ
ทั้งนี้ กระทรวงดีอี และ สคส. จึงได้เชิญบริษัทผู้จำหน่าย และให้บริการเกี่ยวกับมือถือทุกยี่ห้อ รวม 28 บริษัท พร้อมด้วยตัวแทนหน่วยงานกำกับดูแล อาทิ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) สภาองค์กรของผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต) สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (สคป.)
เข้าร่วมประชุมเพื่อร่วมปกป้องและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนผู้ใช้มือถืออย่างเคร่งครัด และชี้แจงกฎหมายและแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสรุปแนวทางป้องกันไม่ให้มือถือ และแท็บเล็ตที่วางจำหน่าย มีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล หรือมีแอปฯที่ผิดกฎหมายติดมาพร้อมกับตัวเครื่อง
ในที่ประชุม หน่วยงานกำกับดูแล ได้ให้ข้อมูล เรื่องกฎหมายและโทษที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการ รวมทั้งสิทธิของผู้ซื้อ โดยสรุปกฎหมายและบทลงโทษ
สำหรับผู้ขายมือถือและแท็บเล็ต หรือ การลง แอปฯ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
-
กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- ไม่แจ้ง Privacy notice มีโทษปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท
- เก็บรวบรวมข้อมูลโดยไม่ได้รับความยินยอม มีโทษปรับไม่เกิน 3 ล้านบาท
- ไม่ลบข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อเกินความจำเป็น มีโทษปรับไม่เกิน 3 ล้านบาท
- เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเกินความจำเป็น มีโทษปรับไม่เกิน 3 ล้านบาท
- ส่งโฆษณาโดยไม่ได้รับความยินยอม มีโทษปรับไม่เกิน 3 ล้านบาท
- ผู้ควบคุมข้อมูลอยู่นอกราชอาณาจักรต้องแต่งตั้งตัวแทนในราชอาณาจักร มีโทษปรับไม่เกิน 3 ล้านบาท
-
กฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
- ติดตั้งแอปฯ เพื่อยิงโฆษณา มีโทษปรับไม่เกิน 2 แสนบาท
- ติดตั้งแอปฯ ที่มี virus, malware มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท
- หลอกลวง บิดเบือน หรือนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ ผ่านแอปฯ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท
-
กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค
- ไม่ได้ให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและเพียงพอ
- ไม่ได้ทำสัญญาการกู้ยืม หรือให้สิทธิผู้บริโภคในการทำสัญญาอย่างเป็นธรรม
- มีการกู้ยืมโดยไม่ทำสัญญา
-
กฎหมายเกี่ยวกับบริการทางการเงิน การคิดดอกเบี้ย
- ประกอบธุรกิจให้กู้ยืมเงินโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท
- คิดดอกเบี้ยเกินอัตรา 15% มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท
- ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท
สำหรับสิทธิของเจ้าของข้อมูล หรือผู้ซื้อมือถือและแท็บเล็ต สรุปได้ดังนี้
-
กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- มีสิทธิ์ให้ผู้จำหน่ายโทรศัพท์ลบแอปฯ ที่ไม่ต้องการออกไปจากเครื่องได้
- มีสิทธิ์ถอนคำยินยอมในแอปฯ ที่เคยให้ไว้ได้
- สามารถฟ้องทางแพ่งเรียกค่าเสียหายเป็น 2 เท่าของค่าเสียหายที่แท้จริง กรณีถูกละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
- มีสิทธิ์ร้องเรียนต่อ สคส. เพื่อขอรับการเยียวยาและพิจารณาโทษทางปกครอง
-
กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค
- มีสิทธิ์ได้รับมาตรการเยียวยาความเสียหายทางแพ่ง
-
กฎหมายเกี่ยวกับบริการทางการเงิน การคิดดอกเบี้ย
- มีสิทธิ์ได้รับการพิจารณาค่าชดเชยหากได้รับความเสียหาย
- มีสิทธิ์ได้รับการปฏิบัติที่เหมาะสมในการทวงหนี้
ทั้งนี้ นายเวทางค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สคส. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคที่เกี่ยวข้องกับมือถือแล้วจำนวน 11 ราย และ สคบ. ได้รับเรื่องร้องเรียนจำนวน 17 ราย ส่วนผู้เสียหายจากการใช้บริการด้านสินเชื่อ สภาองค์กรของผู้บริโภคอยู่ระหว่างการประสานงานและรับเรื่องเพื่อพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับกองบังคับการการกระทำความผิดการคุ้มครองผู้บริโภค (สคป.) ต่อไป
#คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล #แอปพลิเคชันมือถือ #กฎหมายดิจิทัล #ข่าวเศรษฐกิจ