ฟอร์ด เผชิญยอดขายรวมลด แต่รถยนต์ไฟฟ้า-ไฮบริดยังเติบโตสวนกระแส

ฟอร์ด เผชิญยอดขายรวมลด แต่รถยนต์ไฟฟ้า-ไฮบริดยังเติบโตสวนกระแส

ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี รายงานยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ลดลง 8.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แม้รถยนต์สันดาปภายในจะเผชิญยอดขายตก แต่รถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สะท้อนเทรนด์พลังงานทางเลือกที่มาแรง

สหรัฐ – ท่ามกลางสภาวะตลาดรถยนต์ที่ผันผวน ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี หนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลก ต้องเผชิญกับยอดขายที่ลดลงในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 โดยยอดขายรวมของบริษัทลดลง 8.9% เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2567 อย่างไรก็ตาม ภายใต้สถานการณ์ที่ท้าทายนี้ ฟอร์ดยังคงเห็นสัญญาณบวกจากการเติบโตของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และรถยนต์ไฮบริด ซึ่งเป็นไปตามกระแสความนิยมรถยนต์พลังงานทางเลือกที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก

ยอดขายรวมลด แต่ EV และไฮบริดโตสวนทาง

ยอดขายรวมของฟอร์ดในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 อยู่ที่ 158,675 คัน ลดลงจาก 174,192 คัน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 โดยยอดขายที่ลดลงส่วนใหญ่มาจากรถยนต์สันดาปภายใน (ICE) ซึ่งมียอดขายลดลงถึง 12.7% โดยขายได้เพียง 135,992 คัน เทียบกับ 155,779 คันในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

ในทางกลับกัน ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดของฟอร์ดกลับเติบโตอย่างน่าประทับใจ โดยมียอดขายรวม 22,683 คัน เพิ่มขึ้น 23.2% จาก 18,413 คันในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 7,326 คัน (เพิ่มขึ้น 15%) และยอดขายรถยนต์ไฮบริด 15,357 คัน (เพิ่มขึ้น 27.5%)

SUV และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลยอดตกหนัก

เมื่อพิจารณาในแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ พบว่ากลุ่มรถยนต์ SUV และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของฟอร์ดมียอดขายลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยยอดขาย SUV ลดลงถึง 24.4% เหลือเพียง 64,148 คัน จาก 84,902 คันในปีก่อนหน้า ขณะที่ยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลลดลงมากถึง 32.2% โดยขายได้เพียง 2,792 คัน ลดลงจาก 4,115 คันในช่วงเวลาเดียวกัน

รถกระบะยังแกร่ง F-Series ยังคงเป็นดาวเด่น

แม้ว่าภาพรวมยอดขายของฟอร์ดจะลดลง แต่กลุ่มรถกระบะยังคงรักษาความแข็งแกร่งไว้ได้ โดยมียอดขายเพิ่มขึ้น 7.7% ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ด้วยยอดขาย 91,735 คัน เทียบกับ 85,175 คันในเดือนกุมภาพันธ์ 2567

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Ford F-Series ซึ่งรวมถึง F-150 Lightning (รถกระบะไฟฟ้า) มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 14.4% โดยขายได้ 59,310 คัน เพิ่มขึ้นจาก 51,829 คันในปีก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมอย่างต่อเนื่องของรถกระบะรุ่นนี้ในตลาด

ผลกระทบรายรุ่น: Bronco และ Mustang Mach-E ยังไปได้

ในบรรดารถยนต์รุ่นต่างๆ ของฟอร์ด พบว่ามีทั้งรุ่นที่มียอดขายเพิ่มขึ้นและลดลง โดย Ford Bronco Sport มียอดขายลดลง 6.3% ขณะที่ Ford Escape มียอดขายเพิ่มขึ้น 5.5% ส่วน Ford Bronco มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างน่าพอใจที่ 20.2% และ Ford Mustang Mach-E ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าครอสโอเวอร์ ก็มียอดขายเพิ่มขึ้น 13.0%

ลินคอล์นยังไม่ฟื้นตัว

สำหรับแบรนด์รถยนต์หรูในเครืออย่างลินคอล์น ยอดขายยังคงไม่ฟื้นตัว โดยลดลงถึง 20.5% ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 โดยรถยนต์ทุกรุ่นของลินคอล์นต่างมียอดขายลดลงทั้งหมด ได้แก่ Corsair (ลดลง 3.2%), Nautilus (ลดลง 26.9%), Aviator (ลดลง 29.5%) และ Navigator (ลดลง 16.7%)

ความท้าทายและโอกาสของฟอร์ด

แม้ว่ายอดขายโดยรวมของฟอร์ดในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 จะลดลง แต่การเติบโตของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดยังคงเป็นสัญญาณบวกที่สำคัญ แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวของฟอร์ดต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดและความต้องการของผู้บริโภคที่หันมาให้ความสนใจกับรถยนต์พลังงานทางเลือกมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ฟอร์ดยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายในการกระตุ้นยอดขายรถยนต์สันดาปภายใน และฟื้นฟูยอดขายของแบรนด์ลินคอล์น ซึ่งอาจต้องใช้กลยุทธ์ทางการตลาดและการปรับปรุงผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต

#ฟอร์ด #Ford #ยอดขายรถยนต์ #รถยนต์ไฟฟ้า #EV #รถยนต์ไฮบริด #F150 #MustangMachE #Lincoln #ตลาดรถยนต์ #ข่าวเศรษฐกิจ

Related Posts