เปิดวิสัยทัศน์ “มากิโกะ โอโนะ” สตรีผู้ทรงอิทธิพลแห่งเอเชีย จากซันโทรี่

“มากิโกะ โอโนะ” ซีอีโอหญิงคนแรกของ Suntory Beverage & Food สตรีผู้ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งเอเชีย” อันดับที่ 3 ประจำปี พ.ศ. 2567  เผยกลยุทธ์ขับเคลื่อนองค์กร ชูนวัตกรรม ความยั่งยืน และความเท่าเทียม สร้างการเติบโตในตลาดโลก พร้อมเจาะลึกตลาดไทย ตั้งเป้าตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกกลุ่ม

กรุงเทพฯ , ประเทศไทย – มากิโกะ โอโนะ (Makiko Ono) ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (Suntory Beverage & Food – SBF) สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการธุรกิจเครื่องดื่มระดับโลก ด้วยการก้าวขึ้นเป็นผู้นำหญิงคนแรกขององค์กรยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยเพื่อร่วมประชุมประจำปีกับ บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท ซันโทรี่ เป๊บซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด เธอได้เปิดเผยวิสัยทัศน์และกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรสู่อนาคต ที่ไม่เพียงมุ่งเน้นการเติบโตทางธุรกิจ แต่ยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและความเท่าเทียม

จากญี่ปุ่นสู่เวทีโลก: เส้นทาง 40 ปี แห่งความมุ่งมั่น

มากิโกะ โอโนะ เริ่มต้นเส้นทางอาชีพกับซันโทรี่เมื่อ 40 ปีก่อน ในยุคที่ธุรกิจของบริษัทฯ ยังเน้นตลาดในประเทศเป็นหลัก ด้วยความมุ่งมั่นและวิสัยทัศน์อันกว้างไกล เธอได้มีบทบาทสำคัญในการนำพาซันโทรี่ขยายธุรกิจสู่ตลาดโลก เริ่มจากการเข้าซื้อกิจการ Château Lagarde ไร่องุ่นเก่าแก่ในฝรั่งเศส ซึ่งต้องใช้เวลาถึง 18 เดือนในการเจรจาและพิสูจน์ให้เห็นถึงความเคารพต่อประเพณีและชุมชนผู้ผลิตไวน์ในบอร์โดซ์

“ดิฉันต้องย้ายไปปารีสและลอนดอน” มากิโกะ โอโนะ เล่าย้อนถึงประสบการณ์ “ที่ลอนดอน ดิฉันได้นำทีมเข้าซื้อแบรนด์เครื่องดื่มอังกฤษ เช่น Lucozade และ Ribena ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของซันโทรี่ในตลาดโลก”

อีกหนึ่งก้าวสำคัญคือการเข้าซื้อ Cerebos Pacific Limited ในปี 1990 ซึ่งเป็นการเปิดประตูสู่ตลาดเอเชียของซันโทรี่ โดยบริษัทฯ ได้นำนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยมาช่วยผลักดันให้แบรนด์ (BRAND’S) กลายเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ได้รับความนิยมในภูมิภาค

“Yatte Minahare” จิตวิญญาณแห่งความกล้า สู่ความสำเร็จ

ความสำเร็จของ มากิโกะ โอโนะ ในการนำพาซันโทรี่สู่ตลาดโลก ส่วนหนึ่งมาจากความมุ่งมั่นในการดำเนินการตามค่านิยมองค์กร “Yatte Minahare” หรือ “จิตวิญญาณของผู้กล้าลงมือทำ” ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้เธอกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ

นอกจากนี้ ความสามารถในการผสมผสานการทำงานของทีมที่มีวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เธอได้รับการยอมรับและก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำสูงสุดของ Suntory Beverage & Food

“Seikatsusha” หัวใจของการดำเนินธุรกิจ: เข้าใจผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง

มากิโกะ โอโนะ ย้ำว่าความสำเร็จขององค์กรไม่ได้วัดจากตัวเลขผลประกอบการเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมุ่งมั่นที่จะทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงประสบการณ์ชีวิตและความต้องการที่หลากหลายของผู้คน ตามหลักปรัชญา “Seikatsusha” ซึ่งเป็นหัวใจในการดำเนินงานของ Suntory Beverage & Food

“เราไม่ได้มองว่าผู้บริโภคเป็นเพียงลูกค้า แต่คือส่วนหนึ่งของชีวิตเรา” เธอกล่าว “เราจึงต้องคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขา ไม่ใช่แค่ในช่วงเวลาของการบริโภคผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ตลอดทุกช่วงเวลาในการดำเนินชีวิตประจำวัน”

“Gemba” ลงพื้นที่จริง เพื่อเข้าใจทุกความต้องการ

เพื่อให้เข้าใจความต้องการของผู้บริโภค คู่ค้า และพนักงานอย่างแท้จริง มากิโกะ โอโนะ ให้ความสำคัญกับ “Gemba” หรือการลงพื้นที่จริง ซึ่งข้อมูลที่ได้จะช่วยให้ซันโทรี่มองเห็นโอกาสใหม่ ๆ ในการสร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ

ตลาดไทย: นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์

สำหรับตลาดประเทศไทย Suntory Beverage & Food ให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และแนวโน้มตลาดของผู้บริโภคชาวไทย เช่น การเพิ่มความหลากหลายของรสชาติ รูปแบบผลิตภัณฑ์ ตลอดจนคุณสมบัติด้านการดูแลสุขภาพในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ

ตัวอย่างเช่น แบรนด์ ได้พัฒนาสูตรที่หลากหลายเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละช่วงวัย ทั้งแบรนด์ซุปไก่สกัดที่มีคาร์โนซีนและวิตามินบี 12 เครื่องดื่มแบรนด์รังนก และแบรนด์วีต้า แอสตาแซนธิน ที่นำเสนอนวัตกรรมรูปแบบผลิตภัณฑ์และคุณสมบัติด้านสุขภาพเพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

ในส่วนของ บริษัท ซันโทรี่ เป๊บซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ก็ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ชาและกาแฟพร้อมดื่มที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตพิเศษตามแบบฉบับของซันโทรี่ ประเทศญี่ปุ่น ทำให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพและเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น ทีพลัส สูตรไม่มีน้ำตาล, ทีพลัส ฮันนี่เลมอน, ทีพลัส บราวน์ชูการ์ และ กาแฟ บอส แบล็ค สูตรไม่มีน้ำตาล และ บอส ยูซุ แบล็ค

ความร่วมมือด้านการวิจัย: พัฒนาโภชนาการศาสตร์

ซันโทรี่ยังมุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ผ่านความร่วมมือด้านการวิจัยกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อตอบสนองต่อแนวโน้มประชากรสูงวัยในประเทศ และความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น

4 กลยุทธ์หลัก ขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน

นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งซีอีโอ มากิโกะ โอโนะ ได้ขับเคลื่อนองค์กรด้วยกลยุทธ์สำคัญ 4 ด้าน ได้แก่

1. Brand Strategy (กลยุทธ์แบรนด์): สร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์สินค้า
2. Business Structural Transformation (การปรับโครงสร้างธุรกิจ): ปรับโครงสร้างองค์กรให้มีความคล่องตัวและพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง
3. Diversity, Equity, and Inclusion (DE&I): ส่งเสริมความหลากหลาย ความเสมอภาค และการอยู่ร่วมกันโดยไม่แบ่งแยก
4. Sustainability (ความยั่งยืน): ดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

“Who We Are – Always Together with Seikatsusha” พันธสัญญาต่อผู้บริโภค

มากิโกะ โอโนะ กำหนดให้หลักปรัชญา “Who We Are – Always Together with Seikatsusha” เป็นพันธสัญญาขององค์กรต่อผู้บริโภค และเป็นหลักยึดเหนี่ยวที่เชื่อมโยงธุรกิจอันหลากหลายของ Suntory Beverage & Food เข้าด้วยกัน

“เมื่อมองไปข้างหน้า เราจะผลักดันการเติบโตของบริษัทฯ ด้วยการใช้จุดแข็งที่เรามีร่วมกันภายในองค์กร พร้อมยึดแนวคิด ‘Gemba’” เธอกล่าว

ความท้าทายในช่วง 2 ปีแรก: บททดสอบของผู้นำ

การเป็นผู้นำในช่วงเวลาที่โลกเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนถือเป็นบททดสอบสำคัญ มากิโกะ โอโนะ ยอมรับว่า 2 ปีแรกในฐานะซีอีโอเต็มไปด้วยความท้าทาย ทั้งสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ผันผวน ต้นทุนวัตถุดิบที่พุ่งสูงขึ้น และการขับเคลื่อนเรื่องความหลากหลายในองค์กร

เธอรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ด้วยการบริหารงานภายใต้แนวคิด “Gemba” ลงพื้นที่จริงเพื่อตรวจสอบปัญหาและหาแนวทางแก้ไขที่เหมาะสม

ภารกิจสร้างองค์กรที่เท่าเทียม: เปิดโอกาสให้ทุกคนเติบโต

“หลังจากเข้ารับตำแหน่ง ดิฉันได้เดินทางไปยังสาขาต่างๆ รวมถึงสำนักงานขาย ซึ่งมีพนักงานผู้หญิงในระดับบริหารน้อยมาก เพื่อร่วมพูดคุยและเปิดโอกาสให้พวกเธอได้แสดงศักยภาพ” Makiko Ono กล่าวถึงความมุ่งมั่นในการสร้างองค์กรที่เท่าเทียม

Suntory Beverage & Food ได้ก่อตั้งสภาส่งเสริม DE&I เมื่อปี 2023 โดยมุ่งเน้นการเพิ่มสัดส่วนของผู้หญิงในตำแหน่งผู้จัดการ และส่งเสริมการทำงานที่ยืดหยุ่น

“ในปัจจุบัน เราเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนขึ้น อาทิ การมอบหมายให้ผู้บริหารหญิงไปทำงานในต่างประเทศมากขึ้น” เธอกล่าว

สำหรับซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) มีสัดส่วนผู้หญิงในระดับผู้จัดการ 40% และมีพนักงานผู้หญิงทั่วทั้งองค์กรมากถึง 60% ขณะที่ ซันโทรี่ เป๊บซี่โค ประเทศไทย มีสัดส่วนพนักงานระดับผู้จัดการที่เป็นผู้หญิงถึง 51%

“การสร้างความเท่าเทียมในองค์กรไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลข แต่เป็นเรื่องของโอกาสและความสามารถ” มากิโกะ โอโนะ กล่าว “ดิฉันอยากให้ผู้หญิงทุกคนกล้าที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำ”

3 ค่านิยมหลัก ขับเคลื่อน Suntory Beverage & Food

Suntory Beverage & Food ดำเนินธุรกิจภายใต้ 3 ค่านิยมหลัก ได้แก่

1. Growing for Good (การเติบโตอย่างยั่งยืน): สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
2. Yatte Minahare (จิตวิญญาณของผู้กล้าลงมือทำ): กล้าที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ
3. Giving Back to Society (การตอบแทนกลับคืนสู่สังคม): ตอบแทนสังคมและชุมชน

โครงการเพื่อความยั่งยืน: “มิซุอิกุ” และ “วัน ซันโทรี่ มิซุอิกุ: เรารักษ์น้ำ”

ซันโทรี่ดำเนินโครงการเพื่อความยั่งยืนมากมาย ตัวอย่างเช่น โครงการมิซุอิกุ (Mizuiku) ซึ่งเป็นโครงการอนุรักษ์น้ำระดับโลก และโครงการ “วัน ซันโทรี่ มิซุอิกุ: เรารักษ์น้ำ” ในประเทศไทย ที่ขยายความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเพิ่มจำนวนนักเรียนและคุณครูที่ได้รับความรู้เรื่องการอนุรักษ์น้ำ

การหมุนเวียนใช้ทรัพยากรพลาสติก: “Bottle-to-Bottle Recycling”

ซันโทรี่ให้ความสำคัญกับการจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน โดย บริษัท ซันโทรี่ เป๊บซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทเครื่องดื่มรายแรกในประเทศไทยที่เริ่มใช้ขวดจากพลาสติกรีไซเคิล 100% (ขวด rPET 100%) กับผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม

“One Suntory Helping Hands” และ “แบรนด์ ยัง บลัด”

ทั้งสองบริษัทในเครือซันโทรี่ดำเนินโครงการ “One Suntory Helping Hands” ส่งเสริมให้พนักงานแสดงพลังจิตอาสา และ บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) ได้ร่วมมือกับสภากาชาดไทย ดำเนินโครงการ “แบรนด์ ยัง บลัด” ส่งเสริมการบริจาคเลือดอย่างยั่งยืนในหมู่เยาวชน

อนาคตของธุรกิจเครื่องดื่ม: สุขภาพ ความยั่งยืน และประสบการณ์ใหม่

Makiko Ono มองว่าอนาคตของธุรกิจเครื่องดื่มจะมุ่งเน้นไปที่ 3 ประเด็นหลัก คือ

1. สุขภาพ: ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสุขภาพองค์รวมและโภชนาการมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2025 ที่จะเห็นการเติบโตของผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ด้านสุขภาพจิตและการบรรเทาความเครียด
2. ความยั่งยืน: ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ซันโทรี่จึงลงทุนในโรงงานผลิตและศูนย์กระจายสินค้ามาตรฐานที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์
3. ประสบการณ์ใหม่: การเติบโตของกลุ่มผู้บริโภค Gen Z ทำให้ซันโทรี่เน้นสร้างประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจจากเทคโนโลยีดิจิทัล

ความสะดวกสบาย: ปัจจัยสำคัญที่ไม่อาจมองข้าม

รูปแบบการใช้ชีวิตของคนยุคปัจจุบันที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว ทำให้ผลิตภัณฑ์ชาอู่หลงพร้อมดื่มทีพลัส (TEA+) และผลิตภัณฑ์ชาอู่หลงพร้อมดื่มซันโทรี่ (Suntory Oolong Tea) ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ซันโทรี่ยังมุ่งตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่ำพร้อมดื่ม (RTD low-alcohol beverages) ในประเทศออสเตรเลียและเวียดนาม

บทสรุป: วิสัยทัศน์ที่สร้างแรงบันดาลใจ

การเดินทางเยือนประเทศไทยของ Makiko Ono ไม่เพียงแต่เป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทในเครือซันโทรี่ แต่ยังเป็นการเปิดเผยวิสัยทัศน์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้บริหารและพนักงานทุกคน ด้วยกลยุทธ์ที่ชัดเจนและความมุ่งมั่นในการสร้างความยั่งยืนและความเท่าเทียม เธอได้แสดงให้เห็นว่า Suntory Beverage & Food พร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มระดับโลกอย่างแท้จริง

#Suntory #SuntoryBeverageAndFood #มากิโกะโอโนะ #ผู้นำหญิง #ความยั่งยืน #ความเท่าเทียม #นวัตกรรม #เครื่องดื่ม #ประเทศไทย #Seikatsusha #Gemba #YatteMinahare #GrowingForGood #GivingBackToSociety #Mizuiku #BottleToBottleRecycling #OneSuntoryHelpingHands #แบรนด์ยังบลัด #GenZ #RTD