ไบเออร์สด๊อรฟ ประเทศไทย ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลผิวระดับโลก “NIVEA” จัดงานใหญ่ “NIVEA is for SKIN” ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดสกินแคร์ – เผยมูลค่าตลาดในไทยปี 2024 สูงถึง 4.17 แสนล้านบาท เติบโต 13% พร้อมเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ และประกาศเดินหน้าสู่ความยั่งยืนเต็มรูปแบบ ลดพลาสติก, ใช้พลังงานสะอาด, พัฒนาสูตรย่อยสลายได้
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – บริษัท ไบเออร์สด๊อรฟ ประเทศไทย จัดงานมหกรรมสุดยิ่งใหญ่ “NIVEA is for SKIN” ณ บล็อกไอ สยามสแควร์ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของโลกในตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิว พร้อมทั้งนำเสนอประสบการณ์ใหม่แห่งการดูแลผิวที่เข้าใจทุกความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง และประกาศจุดยืนด้านความยั่งยืน (Sustainability) อย่างเต็มรูปแบบ
เภสัชกรหญิงวราพร ลิขิตจรรยากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไบเออร์สด๊อรฟ ประเทศไทย กล่าวว่า “NIVEA เป็นแบรนด์สกินแคร์ที่อยู่คู่คนไทยและคนทั่วโลกมายาวนานกว่า 114 ปี เราเป็นแบรนด์สกินแคร์อันดับหนึ่งของโลก และเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคชาวไทยจนได้รับรางวัล Most Powerful Brand จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยถึง 5 ปีซ้อน”
“ตลอดระยะเวลากว่าศตวรรษ NIVEA ไม่เคยหยุดนิ่งในการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เรามีศูนย์วิจัยและพัฒนาระดับโลกที่เยอรมนี และศูนย์วิจัยย่อยในอีกหลายประเทศทั่วโลก เพื่อให้เข้าใจความต้องการของผิวที่แตกต่างกันในแต่ละเชื้อชาติและสภาพแวดล้อม เราทำงานร่วมกับนักวิทยาศาสตร์กว่า 1,000 คนทั่วโลก เพื่อคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง” เภสัชกรหญิงวราพรกล่าว
“NIVEA is for SKIN” – ผิวคือมากกว่าที่คิด
ภายในงาน “NIVEA is for SKIN” ไบเออร์สด๊อรฟ ได้นำเสนอแนวคิดที่ว่า “ผิว” ไม่ได้เป็นเพียงอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดของร่างกาย แต่ยังเป็นตัวบ่งบอกตัวตน ความมั่นใจ และไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล
“NIVEA เชื่อว่าผิวพรรณที่ดีคือจุดเริ่มต้นของความมั่นใจและพลังในการใช้ชีวิต เราจึงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ทุกคนมีผิวที่ดีที่สุดในแบบของตัวเอง ภายใต้คอนเซ็ปต์ NIVEA is for SKINเราต้องการให้ทุกคนเข้าใจว่าผิวมีความหมายมากกว่าที่คิด และ NIVEA พร้อมที่จะดูแลผิวของคุณในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นผิวกาย ผิวใต้วงแขน ผิวหน้า หรือผลิตภัณฑ์กันแดด” เภสัชกรหญิงวราพรกล่าวเสริม
เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผิว
ภายในงาน ไบเออร์สด๊อรฟ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่ตอบโจทย์เทรนด์สกินแคร์และความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน ได้แก่:
- NIVEA LUMINOUS 630: เซรั่มบำรุงผิวหน้าที่ผสานสาร “ไทมิดอล” (Thiamidol) นวัตกรรมเอกสิทธิ์เฉพาะของไบเออร์สด๊อรฟ ที่ผ่านการค้นคว้าวิจัยมานานกว่า 10 ปี และพิสูจน์แล้วว่าสามารถลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- NIVEA Derma Acne Care: กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลปัญหาสิว ผิวมัน ที่มาพร้อมชุดผลิตภัณฑ์ครบวงจร ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า (คลีนเซอร์) ไปจนถึงเซรั่มบำรุงผิว
- NIVEA Sun Triple Protect & Light Feel: ผลิตภัณฑ์กันแดดเนื้อบางเบาจากเกาหลี ที่นอกจากจะปกป้องผิวจากรังสียูวีได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยให้ผิวดูฉ่ำวาว
- NIVEA Extra Bright Body Serum: เซรั่มบำรุงผิวกายที่มาพร้อมเทคโนโลยี “5X Bright Power” ช่วยให้ผิวกระจ่างใส มีให้เลือกหลายสูตรเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกัน
- NIVEA Deodorant: ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่ได้รับการปรับปรุงบรรจุภัณฑ์เพื่อลดการใช้พลาสติกและแก้ว
NIVEA กับความยั่งยืน: มากกว่าเทรนด์ คือความรับผิดชอบ
ไบเออร์สด๊อรฟ ไม่ได้มองเรื่องความยั่งยืนเป็นเพียงกระแส แต่เป็นพันธกิจหลักที่ผสานรวมอยู่ในทุกขั้นตอนของการดำเนินธุรกิจ โดยเภสัชกรหญิงวราพร ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของความยั่งยืนว่า “ในฐานะที่เราเป็นแบรนด์ที่ใช้ทรัพยากรจากโลกนี้ เราตระหนักถึงความรับผิดชอบในการคืนสิ่งดีๆ กลับสู่สังคมและสิ่งแวดล้อม”
ความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนของ NIVEA ครอบคลุมในหลายด้าน:
-
บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม:
- ลดการใช้พลาสติก: NIVEA ได้ปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย (Deodorant) โดยลดการใช้พลาสติกที่ฝาลงถึง 22%
- ลดการใช้แก้ว: ขวดแก้วของผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายแบบโรลออน (Roll-on) ลดการใช้แก้วลง 18%
- กระดาษที่ยั่งยืน: กล่องกระดาษของ NIVEA ทำจากกระดาษที่ได้รับการรับรองจาก FSC (Forest Stewardship Council) ซึ่งรับประกันว่ามาจากป่าที่มีการจัดการอย่างยั่งยืนและมีการปลูกต้นไม้ทดแทน
-
สูตรผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน:
- ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ: สูตรของผลิตภัณฑ์ NIVEA ได้รับการพัฒนาให้สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ
- ปราศจากไมโครพลาสติก: ผลิตภัณฑ์ NIVEA ทุกสูตรปราศจากไมโครพลาสติก ซึ่งเป็นอันตรายต่อระบบนิเวศทางทะเล
- Ocean Respect Formula: ผลิตภัณฑ์กันแดด NIVEA มีสูตรที่เป็นมิตรต่อปะการัง (Ocean Respect Formula) ไม่ทำลายระบบนิเวศใต้ท้องทะเล
-
กระบวนการผลิตที่ยั่งยืน:
- พลังงานสะอาด: โรงงานผลิตของ NIVEA ในประเทศไทย (บางพลี) ใช้พลังงานไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์
- การจัดการทรัพยากรน้ำ: มีการนำน้ำที่ผ่านกระบวนการผลิตกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) เพื่อลดการใช้น้ำ
เภสัชกรหญิงวราพร กล่าวเสริมว่า “ความยั่งยืนไม่ใช่แค่เรื่องของผลิตภัณฑ์ แต่เป็นเรื่องของกระบวนการทั้งหมด ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เรามุ่งมั่นที่จะสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอน”
ข้อมูลตลาดสกินแคร์ในประเทศไทย และความแข็งแกร่งของ NIVEA
เภสัชกรหญิงวราพร ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพรวมตลาดสกินแคร์ในประเทศไทยว่า “ตลาดสกินแคร์ในประเทศไทยมีมูลค่าสูงถึง 417,650 ล้านบาท ในปี 2024 และมีอัตราการเติบโต 13% ต่อปี แสดงถึงไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะผู้บริโภครุ่นใหม่ กลุ่ม Gen Z และ Millennials ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลผิวมากกว่าแค่การบำรุงพื้นฐาน แต่เป็นการแสดงออกถึงตัวตนและความมั่นใจ”
“NIVEA เป็นผู้นำในหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ซึ่งเรามีส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 50% ทั้งในกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับผู้หญิงและผู้ชาย มียอดขายต่อปีสูงถึง 50 ล้านหน่วย นอกจากนี้ NIVEA Sun ยังเป็นแบรนด์กันแดดอันดับหนึ่งทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก”
สำหรับตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกาย เภสัชกรหญิงวราพร กล่าวว่า “ตลาด Body Care ในประเทศไทยมีความพิเศษตรงที่ผู้บริโภคมีความต้องการที่หลากหลายและซับซ้อนกว่าตลาดยุโรป ผู้บริโภคชาวไทยไม่ได้ต้องการเพียงแค่ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้น แต่ยังต้องการผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ และปกป้องผิวจากแสงแดด”
“NIVEA จึงได้พัฒนานวัตกรรม ‘วิตามินบอดี้เซรั่ม’ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยโดยเฉพาะ และในปีนี้เราได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ NIVEA Extra Bright Body Serum สูตรใหม่ ที่มาพร้อมเทคโนโลยี 5X Bright Power เพื่อผิวกระจ่างใสยิ่งขึ้น และในปีนี้ นีเวีย ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อรักษาตำแหน่งแบรนด์ดูแลผิวอันดับ 1 ในใจคนไทย”
ในส่วนของตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า เภสัชกรหญิงวราพร เปิดเผยว่า “ตลาด Face Care ในประเทศไทยมีการแข่งขันสูงมาก แต่ NIVEA ก็ยังคงเติบโตได้ดี โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า (Cleansing) และผลิตภัณฑ์ลดเลือนจุดด่างดำ (Whitening/Brightening) ซึ่ง NIVEA LUMINOUS 630 เป็นผลิตภัณฑ์เรือธงของเรา”
กลยุทธ์ทางการตลาดของ NIVEA
เภสัชกรหญิงวราพร กล่าวถึงกลยุทธ์ทางการตลาดของ NIVEA ในปีนี้ว่า “เราจะเน้นการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง การสร้างช่องทางการขายที่หลากหลาย ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ และการทำการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่”
“เราจะใช้ Influencer Marketing และการร่วมมือกับ Friends of NIVEA เพื่อสื่อสารไปยังผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย และเราจะยังคงพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป”
มหกรรม “NIVEA is for SKIN”
นอกจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่แล้ว ไบเออร์สด๊อรฟ ยังได้จัดมหกรรม “NIVEA is for SKIN” ขึ้นระหว่างวันที่ 14-16 มิถุนายน 2567 ณ บล็อกไอ สยามสแควร์ เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์การดูแลผิวในรูปแบบใหม่ ผ่านโซนกิจกรรมต่างๆ และพบปะกับ Friends of NIVEA อาทิ เทศน์-ไมรอน, โฟร์ท-ณัฐวรรธน์ และ 4EVE
อนาคตของ NIVEA ในประเทศไทย
เภสัชกรหญิงวราพรกล่าวถึงอนาคตของ NIVEA ในประเทศไทยว่า “ตลาดสกินแคร์ในประเทศไทยยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เน้นนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง NIVEA ในฐานะผู้นำตลาด เราจะยังคงมุ่งมั่นนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ และทำการตลาดเชิงดิจิทัลเพื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น และนำเอาเทคโนโลยี AI มาใช้ในการคิดค้นผลิตภัณฑ์”
งาน NIVEA is for SKINเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำของ NIVEA ในตลาดสกินแคร์ระดับโลกและในประเทศไทย ด้วยการนำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผิว, การให้ข้อมูลภาพรวมตลาด และการประกาศจุดยืนด้านความยั่งยืนอย่างชัดเจน สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ NIVEA ในการดูแลผิวของผู้บริโภค ควบคู่ไปกับการดูแลโลกและสังคมอย่างยั่งยืน
#NIVEAisforSKIN #NIVEAThailand #สกินแคร์ #ผิวสวย #ความงาม #ไบเออร์สด๊อรฟ #NIVEALUMINOUS630 #NIVEADermaAcneCare #NIVEASun #NIVEAExtraBright #NIVEADeodorant #Sustainability #ความยั่งยืน #รักษ์โลก #ตลาดสกินแคร์ #GenZ