SAS ยักษ์ใหญ่ด้านการวิเคราะห์ข้อมูล ทุ่มเงิน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 4 หมื่นล้านบาท) พัฒนาโซลูชันบนแพลตฟอร์ม “Viya” หวังช่วยสถาบันการเงินไทยรับมือความเสี่ยง-ภัยทุจริตยุคดิจิทัล พร้อมเปิดตัวเลขผลสำรวจชี้แบงก์ทั่วโลกใช้ AI เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน-ประเมินความเสี่ยงลูกค้าแบบเรียลไทม์
SAS (แซส) ผู้นำระดับโลกด้านระบบวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง (Advanced Analytics) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ประกาศเดินหน้าลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ในการพัฒนาโซลูชันบนแพลตฟอร์มคลาวด์ “SAS Viya” มุ่งเน้นเจาะตลาดสถาบันการเงินในประเทศไทยและทั่วโลก หวังช่วยยกระดับการบริหารความเสี่ยง, ตรวจจับการทุจริต, และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในยุคดิจิทัล
ณุฐพล อภิรักษ์โตยานันท์ กรรมการผู้จัดการ SAS ประเทศไทย เปิดเผยภายในงานสัมมนา “SAS Banking & Insurance Executive Briefing” เมื่อเร็วๆนี้ว่า SAS ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1976 และดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมากว่า 24 ปี โดยมุ่งเน้นให้บริการโซลูชันด้านการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงและ AI แก่สถาบันการเงินเป็นหลัก ปัจจุบันมีลูกค้าในประเทศไทยกว่า 100 ราย และมีพนักงานในไทยกว่า 60 คน
“SAS Viya คือหัวใจสำคัญของ SAS เป็นแพลตฟอร์ม Next-Generation ที่รองรับการทำงานร่วมกับ Open Source Software ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Python หรือ R ทำให้เด็กจบใหม่ที่ไม่ได้เรียนภาษา SAS โดยตรงก็สามารถใช้งานได้” คุณณุฐพลกล่าว และเสริมว่า “Viya เป็นแพลตฟอร์มคลาวด์เนทีฟ (Cloud-native) ที่สามารถทำงานได้ทั้งบน Public Cloud ชั้นนำ เช่น Microsoft Azure, Amazon Web Services (AWS), Google Cloud Platform รวมถึง Red Hat OpenShift และยังรองรับการติดตั้งแบบ On-Premise อีกด้วย”
แพลตฟอร์ม SAS Viya ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ 1) Manage Data การจัดการข้อมูล เตรียมข้อมูล ทำให้อัตโนมัติ และตรวจสอบ 2) Develop Models การพัฒนาแบบจำลอง สร้าง ปรับปรุง และตรวจสอบความถูกต้อง และ 3) Deploy Insights การนำข้อมูลเชิงลึกไปใช้ ทำให้อัตโนมัติ และตรวจสอบ ซึ่งทั้งหมดนี้จะนำไปสู่การตัดสินใจที่ดีขึ้น (Decisioning)
ชู 3 โซลูชันหลัก ตอบโจทย์สถาบันการเงิน
SAS นำเสนอ 3 โซลูชันหลักสำหรับภาคธนาคารและการเงิน ได้แก่:
- Fraud and Financial Crime Compliance: ช่วยในการปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านการป้องกันการทุจริตและอาชญากรรมทางการเงิน
- Risk Management: ช่วยในการบริหารความเสี่ยง
- Customer Intelligence: ช่วยให้เข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง
แนวโน้มอุตสาหกรรมการเงิน: ทุจริตพุ่ง-กฎระเบียบเข้ม-AI มาแรง
ภายในงานสัมมนา SAS ยังได้เปิดเผยถึงแนวโน้มสำคัญในอุตสาหกรรมการเงินของประเทศไทย ได้แก่:
- การทุจริตในธนาคารที่เพิ่มสูงขึ้น: โดยมีความเสียหายเกิน 6 หมื่นล้านบาทในช่วงเดือนมีนาคม 2565 ถึงพฤษภาคม 2567
- กฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้น: มีการนำระบบ Central Fraud Register (CFR) มาใช้ และเพิ่มความแข็งแกร่งของมาตรการต่อต้านการฟอกเงิน
- การนำ AI และข้อมูลมาใช้: สถาบันการเงินจำนวนมากขึ้นใช้ AI และข้อมูลเพื่อปรับปรุงการดำเนินงานและประเมินความเสี่ยงของลูกค้าแบบเรียลไทม์
ผลสำรวจชี้ Viya เร็วกว่า 30 เท่า-เพิ่มประสิทธิภาพกว่า 4 เท่า
จากผลการศึกษาโดย The Futurum Group พบว่า SAS Viya มีประสิทธิภาพและความเร็วในการประมวลผลสูงกว่าคู่แข่งถึง 30 เท่า และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้มากกว่า 4 เท่า ช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับข้อมูลเชิงลึกได้รวดเร็วขึ้น ลดต้นทุนคลาวด์ สร้างผลลัพธ์ได้มากขึ้น และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน
“ประสิทธิภาพของ SAS Viya นั้นน่าประทับใจ พวกเขาไม่เพียงแต่มีประสิทธิภาพเหนือกว่าไลบรารี AI/ML ที่เป็นคู่แข่ง แต่ยังเอาชนะคู่แข่งได้อย่างขาดลอย” Russ Fellows, Principal Analyst, The Futurum Group กล่าว
กรณีศึกษา: กรุงศรีคอนซูมเมอร์-ไทยประกันชีวิต
SAS ยังได้ยกตัวอย่างกรณีศึกษาความสำเร็จของการนำโซลูชันไปใช้ในสถาบันการเงินชั้นนำของไทย:
- กรุงศรีคอนซูมเมอร์: ใช้ SAS ในการปรับปรุงระบบตรวจจับการทุจริต ทำให้ลดปริมาณการแจ้งเตือนกรณี (case alert volume) ลง 40%, ปรับปรุงอัตราการตรวจจับการทุจริต 35% และลด false positives ลง 18% ส่งผลให้สามารถอนุมัติธุรกรรมได้มากขึ้น และสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้แก่ลูกค้า
- ไทยประกันชีวิต: ใช้ SAS ในการปฏิบัติตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินระหว่างประเทศ IFRS 17 รวมถึงขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ช่วยให้บริษัทสามารถบูรณาการการคำนวณความเสี่ยงและการเงิน ลดขั้นตอนการทำงานที่ต้องทำด้วยตนเอง ปรับปรุงการจัดการความเสี่ยงในการดำเนินงาน และสื่อสารกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
SAS กับความร่วมมือในประเทศไทย คุณณุฐล กล่าวถึงความร่วมมือในประเทศไทยว่า “ตอนนี้การทำงานเรื่องพวกนี้ มันไม่ใช่แบงก์ใดแบงค์หนึ่งทำให้คนเดียว มันต้องจับมือกัน เราก็จะเห็นว่าเรามีหน่วยงานที่เริ่มจับมือ อย่างสมาคมแบงก์ ที่เขาบอกว่า Data ของลูกค้าแต่ละแบงก์จะต้องเอามาแชร์กันได้ เพื่อที่จะลด Fraud case แล้วมันจะได้ Investigate ข้าม”
อนาคตของ SAS Viya ในภาคการเงิน
SAS มุ่งมั่นที่จะพัฒนา SAS Viya อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของภาคการเงินที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ AI และข้อมูลมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ การลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ SAS ในการเป็นผู้นำด้านโซลูชันการวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับภาคการเงิน
#SAS #Viya #AI #Analytics #Banking #Finance #RiskManagement #FraudDetection #DigitalTransformation #IFRS17 #KrungsriConsumer #ThaiLifeInsurance #Data #Cloud #เทคโนโลยี #การเงิน #ธนาคาร #ประกันภัย #การวิเคราะห์ข้อมูล #ปัญญาประดิษฐ์ #ความเสี่ยง #การทุจริต #ดิจิทัล #การลงทุน