เจาะลึก “ซิกเว่ เบรกเก้” แม่ทัพใหม่ “ทรู คอร์ปอเรชั่น” หวนคืนโทรคมฯไทย

เจาะลึก “ซิกเว่ เบรกเก้” แม่ทัพใหม่ “ทรู คอร์ปอเรชั่น” หวนคืนโทรคมฯไทย

ทรู คอร์ปอเรชั่น ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ดึง “ซิกเว่ เบรกเก้” อดีตผู้บริหารเทเลนอร์ ผู้พลิกฟื้นดีแทค และมากประสบการณ์ในตลาดเอเชีย นั่งแท่น Group CEO ขับเคลื่อนสู่เทคคอมปานีระดับโลก เส้นทางชีวิต ผลงาน วิสัยทัศน์ และความท้าทายที่น่าจับตา

หลังจากการประกาศปรับโครงสร้างองค์กรครั้งสำคัญของ ทรู คอร์ปอเรชั่น เมื่อไม่นานมานี้ ชื่อของ “ซิกเว่ เบรกเก้” กลายเป็นที่สนใจและถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในแวดวงโทรคมนาคมและธุรกิจของประเทศไทย การแต่งตั้งเขาขึ้นดำรงตำแหน่ง Group CEO หรือประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม ของบริษัทโทรคมนาคมและการสื่อสารยักษ์ใหญ่ของไทย ถือเป็นก้าวสำคัญและเป็นสัญญาณที่ชัดเจนถึงความมุ่งมั่นของทรู คอร์ปอเรชั่น ในการก้าวสู่การเป็นเทคคอมปานีชั้นนำระดับโลก

แต่ “ซิกเว่ เบรกเก้” ไม่ใช่บุคคลหน้าใหม่ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่วงการโทรคมนาคมไทย เขาคือผู้บริหารมากประสบการณ์ที่คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมนี้มาอย่างยาวนาน ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดเอเชีย เบรกเก้ เคยฝากผลงานอันโดดเด่นไว้กับการพลิกฟื้นสถานการณ์ของดีแทค และการนำพาเทเลนอร์ กรุ๊ป ให้เติบโตในภูมิภาค

การกลับมาประเทศไทยในครั้งนี้ของเบรกเก้ จึงไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงผู้บริหารระดับสูง แต่เป็นการนำเอาประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และวิสัยทัศน์ระดับโลก กลับมาขับเคลื่อนองค์กรไทยให้ก้าวไปข้างหน้า ท่ามกลางความท้าทายและการแข่งขันที่รุนแรงในยุคดิจิทัล

“ซิกเว่ เบรกเก้” คือใคร? เส้นทางชีวิตที่หลากหลาย สู่ผู้นำระดับโลก

“ซิกเว่ เบรกเก้” เป็นนักบริหารชาวนอร์เวย์ ที่มีเส้นทางชีวิตและอาชีพที่น่าสนใจและหลากหลาย ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่หล่อหลอมให้เขากลายเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล และสามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว

เบรกเก้ เกิดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2502 ในประเทศนอร์เวย์ ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่วงการโทรคมนาคม เขาเริ่มต้นเส้นทางอาชีพด้วยการเป็นดีเจ ครู และผู้นำแรงงาน ประสบการณ์เหล่านี้อาจฟังดูไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโทรคมนาคมโดยตรง แต่มันอาจเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยบ่มเพาะทักษะด้านการสื่อสาร การเข้าใจผู้คน และการทำงานร่วมกับผู้อื่น ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับผู้นำทุกคน

หลังจากนั้น เบรกเก้ ได้เข้าสู่แวดวงการเมือง โดยเคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการสหพันธ์เยาวชนแรงงาน และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมในนอร์เวย์ ประสบการณ์ในแวดวงการเมืองนี้เอง ที่ทำให้เขามีความเชี่ยวชาญในการเจรจาต่อรอง การสร้างความร่วมมือ และการบริหารจัดการในสถานการณ์ที่ซับซ้อน

เบรกเก้ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาการบริหารรัฐกิจจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำระดับโลก การศึกษาในระดับสูงนี้ ช่วยเสริมสร้างความรู้ความสามารถด้านการบริหารจัดการ และการกำหนดกลยุทธ์องค์กร ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการนำพาองค์กรขนาดใหญ่ให้ประสบความสำเร็จ

ผลงานที่โดดเด่นในแวดวงโทรคมนาคม: จากดีแทค สู่เทเลนอร์

เบรกเก้ เริ่มต้นเส้นทางในวงการโทรคมนาคมในปี 2542 โดยเข้าร่วมงานกับเทเลนอร์ กรุ๊ป ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ และนับจากนั้นเป็นต้นมา เขาก็ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถและศักยภาพในการบริหารธุรกิจโทรคมนาคมอย่างต่อเนื่อง

  • ดีแทค (dtac): เบรกเก้ เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในประเทศไทยอย่างกว้างขวาง จากการดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงในดีแทค (บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของประเทศ เขาเคยดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม (Co-CEO) ในช่วงเวลาที่บริษัทกำลังเผชิญกับความท้าทายและปัญหาทางธุรกิจ แต่ด้วยวิสัยทัศน์และความสามารถในการบริหารจัดการ เบรกเก้ เป็นหนึ่งในผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการพลิกฟื้นสถานการณ์ของดีแทค ให้กลับมาแข็งแกร่งและสามารถแข่งขันในตลาดได้อีกครั้ง นอกจากนี้ เบรกเก้ ยังเคยดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของดีแทคในประเทศไทย และ Uninor ในอินเดีย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารงานในตลาดที่หลากหลายและมีความแตกต่างทางวัฒนธรรม
  • เทเลนอร์ กรุ๊ป (Telenor Group): หลังจากประสบความสำเร็จในการบริหารดีแทค เบรกเก้ ได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสำคัญในเทเลนอร์ กรุ๊ป อย่างต่อเนื่อง เขาเคยดำรงตำแหน่งรองประธานบริหารและหัวหน้าภูมิภาคเอเชีย ซึ่งรับผิดชอบดูแลการดำเนินงานของเทเลนอร์ในหลายประเทศทั่วเอเชีย และมีบทบาทสำคัญในการขยายธุรกิจของเทเลนอร์ในภูมิภาคนี้ รวมถึงการควบรวมกิจการและการเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ ความสำเร็จที่โดดเด่นที่สุดของเบรกเก้ คือการดำรงตำแหน่งประธานและซีอีโอของเทเลนอร์ กรุ๊ป เป็นเวลา 9 ปี (2558-2567) ในช่วงเวลาดังกล่าว เขาได้นำพาเทเลนอร์ กรุ๊ป ให้กลายเป็นบริษัทโทรคมนาคมชั้นนำระดับโลก ที่มีการดำเนินงานในหลายประเทศทั่วโลก และมีการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
  • GSMA: นอกเหนือจากการบริหารงานในบริษัทโทรคมนาคมแล้ว เบรกเก้ ยังเคยเป็นสมาชิกคณะกรรมการของ GSMA (GSM Association) ซึ่งเป็นองค์กรที่เป็นตัวแทนของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่วโลก การมีส่วนร่วมใน GSMA สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเบรกเก้ ในการพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในระดับสากล และการมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมในอนาคต

หวนคืนสู่ “ทรู คอร์ปอเรชั่น” ในบทบาท Group CEO: ภารกิจที่ท้าทาย

การกลับมาประเทศไทยในครั้งนี้ของ “ซิกเว่ เบรกเก้” ในฐานะ Group CEO ของ ทรู คอร์ปอเรชั่น ถือเป็นก้าวสำคัญและเป็นที่จับตามองอย่างยิ่ง ทั้งในแวดวงโทรคมนาคมและแวดวงธุรกิจของประเทศไทย การเข้ารับตำแหน่งครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากการควบรวมกิจการระหว่าง “ทรู” และ “ดีแทค” ซึ่งเป็นดีลประวัติศาสตร์ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย

เบรกเก้ จะเข้ามารับผิดชอบดูแลภาพรวมและขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของ ทรู คอร์ปอเรชั่น ทั้งหมด เพื่อนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายในการเป็นเทคคอมปานีชั้นนำระดับโลก ไม่ใช่แค่ผู้ให้บริการโทรคมนาคม แต่เป็นผู้ให้บริการดิจิทัลครบวงจร ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลได้อย่างครอบคลุม

“ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับตำแหน่งประธานคณะผู้บริหารกลุ่มของทรู คอร์ปอเรชั่น และขอขอบคุณคุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะกรรมการ และผู้ถือหุ้นหลัก ได้แก่ เครือเจริญโภคภัณฑ์ กลุ่มเทเลนอร์ และไชน่าโมบายล์ที่ไว้วางใจ” เบรกเก้ กล่าวถึงความรู้สึกในการเข้ารับตำแหน่ง

“โอกาสของประเทศไทยในยุคดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ที่ครอบคลุมทุกภาคส่วนนั้นเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ในฐานะผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของประเทศ จะยังคงเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม มุ่งมั่นนำเสนอบริการล้ำสมัยให้กับลูกค้า พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลที่ยั่งยืน” เบรกเก้ กล่าวย้ำถึงวิสัยทัศน์และพันธกิจในการนำทัพ ทรู คอร์ปอเรชั่น

วิสัยทัศน์และภารกิจที่ท้าทาย: นำ “ทรู” สู่ยุคใหม่

เบรกเก้ เข้ามารับตำแหน่งในช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมโทรคมนาคมทั่วโลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งจากการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และการเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม เช่น เทคโนโลยี 5G, ปัญญาประดิษฐ์ (AI), และ Internet of Things (IoT)

ภายใต้การนำของเบรกเก้ ทรู คอร์ปอเรชั่น จะต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายเหล่านี้ และคว้าโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจ โดยมีภารกิจสำคัญ ได้แก่:

  1. การผสานรวมธุรกิจ (Post-Merger Integration): หลังจากควบรวมกิจการกับดีแทค ทรู คอร์ปอเรชั่น จำเป็นต้องดำเนินการผสานรวมธุรกิจทั้งสองเข้าด้วยกันอย่างราบรื่น ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน เครือข่าย บุคลากร และการให้บริการลูกค้า เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กร
  2. การขยายธุรกิจและการสร้างนวัตกรรม: ทรู คอร์ปอเรชั่น จำเป็นต้องขยายธุรกิจให้ครอบคลุมบริการดิจิทัลที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบริการด้านคอนเทนต์ บริการทางการเงิน บริการคลาวด์ หรือบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงไป และสร้างแหล่งรายได้ใหม่ๆ ให้กับองค์กร
  3. การพัฒนาเทคโนโลยี 5G และ AI: เทคโนโลยี 5G และ AI ถือเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและเทคโนโลยีดิจิทัลในอนาคต ทรู คอร์ปอเรชั่น จำเป็นต้องลงทุนและพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และนำเสนอบริการใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
  4. การสร้างความยั่งยืน: นอกเหนือจากการเติบโตทางธุรกิจแล้ว ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังต้องให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับกระแสโลกที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้น

ทีมผู้บริหารใหม่ เสริมแกร่ง “ทรู คอร์ปอเรชั่น”

นอกจากการแต่งตั้ง “ซิกเว่ เบรกเก้” เป็น Group CEO แล้ว ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังได้ปรับโครงสร้างองค์กรภายใน โดยมอบหมายให้ผู้บริหารระดับสูงคนอื่นๆ รับผิดชอบงานในส่วนต่างๆ ดังนี้:

  • คุณมนัสส์ มานะวุฒิเวช: จากเดิมดำรงตำแหน่ง CEO จะรับบทบาทใหม่ในตำแหน่ง President/CEO – Enterprise & Data Business ดูแลสายงานหลักในกลุ่มธุรกิจดิจิทัล ออนไลน์ ทรูวิชั่นส์ ดาต้า และธุรกิจองค์กร ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย
  • คุณชารัด เมห์โรทรา: จากเดิมดำรงตำแหน่ง Deputy CEO จะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง President/CEO – Consumer Business รับผิดชอบดูแลฐานลูกค้าผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือของทรู ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 50 ล้านราย

การปรับโครงสร้างองค์กรครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ ทรู คอร์ปอเรชั่น ในการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัล และความตั้งใจที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีโทรคมนาคมระดับโลก

อนาคตของ “ทรู คอร์ปอเรชั่น” ภายใต้การนำของ “ซิกเว่ เบรกเก้”

การเข้ารับตำแหน่ง Group CEO ที่ ทรู คอร์ปอเรชั่น ถือเป็นการนำเอาประสบการณ์และความเชี่ยวชาญระดับโลก กลับมาขับเคลื่อนองค์กรไทย ให้ก้าวไปสู่ความเป็นผู้นำในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน ทีมผู้บริหารที่แข็งแกร่ง และความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรม ทรู คอร์ปอเรชั่น พร้อมที่จะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล และมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้า

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ไม่เพียงแต่มีความสำคัญต่อ ทรู คอร์ปอเรชั่น เท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโทรคมนาคมและเทคโนโลยีดิจิทัลของประเทศไทยโดยรวม การแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น และการเข้ามาของผู้เล่นรายใหม่ๆ จะเป็นแรงผลักดันให้เกิดการพัฒนาและการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว ผู้บริโภคจะเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุด

#SigveBrekke #TrueCorporation #TrueMoveH #TrueVisions #Telecom #TechCompany #DigitalTransformation #DigitalEconomy #Thailand #BusinessNews #CorporateNews #Leadership #CEO #Appointment #ซิกเว่เบรกเก้ #ทรูคอร์ปอเรชั่น

Related Posts