ฟิลิปส์ เดินหน้าพัฒนานวัตกรรม AI อัลตราซาวด์ รับวันอนามัยโลก 2025

ฟิลิปส์ เดินหน้าพัฒนานวัตกรรม AI อัลตราซาวด์ รับวันอนามัยโลก 2025

ฟิลิปส์ ตอกย้ำความมุ่งมั่นด้านเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ รับวันอนามัยโลก 2025 เดินหน้าพัฒนานวัตกรรม อัลตราซาวด์ สูตินรีเวชขับเคลื่อนด้วย AI ด้วยการสนับสนุนจากมูลนิธิเกตส์ หวังปฏิวัติการดูแลสุขภาพมารดาและทารก ลดอัตราการเสียชีวิตที่ป้องกันได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลและประเทศรายได้น้อยถึงปานกลาง ชี้ผลสำเร็จโครงการนำร่องในเคนยาเป็นบทพิสูจน์สำคัญ พร้อมสานต่อเจตนารมณ์ในไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – เนื่องในโอกาสวันอนามัยโลก (World Health Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 7 เมษายนของทุกปี และในปี ค.ศ. 2025 นี้ องค์การอนามัยโลกได้กำหนดแคมเปญหลักภายใต้แนวคิด “เริ่มต้นชีวิตด้วยสุขภาพที่ดี สู่อนาคตที่สดใสในวันหน้า (Healthy Beginnings, Hopeful Futures)” เพื่อกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันและลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตของมารดาและทารกแรกเกิด รวมถึงส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของสตรีในระยะยาว บริษัท รอยัล ฟิลิปส์ (Royal Philips) ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีเพื่อการดูแลสุขภาพ ได้ประกาศสานต่อความมุ่งมั่นในการยกระดับการดูแลสุขภาพมารดาและทารก ผ่านการพัฒนานวัตกรรม อัลตราซาวด์ ด้านสูตินรีเวชที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) อันล้ำสมัย

สถานการณ์สุขภาพมารดาทั่วโลกยังคงเป็นประเด็นที่น่ากังวล ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกระบุว่า ในแต่ละวัน มีสตรีทั่วโลกกว่า 800 คนเสียชีวิตจากการตั้งครรภ์และสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับการคลอดบุตร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสาเหตุที่สามารถป้องกันได้ โดยเกือบ 95% ของการเสียชีวิตของมารดาในปี พ.ศ. 2563 เกิดขึ้นในประเทศที่มีรายได้ต่ำถึงรายได้ปานกลางล่าง ภาวะแทรกซ้อนระหว่างและหลังการตั้งครรภ์ เช่น การตกเลือด การติดเชื้อ และความดันโลหิตสูง เป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิต ซึ่งภาวะเหล่านี้ส่วนใหญ่สามารถป้องกันหรือรักษาได้หากได้รับการดูแลที่เหมาะสมจากบุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่ช่วงก่อน ระหว่าง และหลังคลอด

สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปี พ.ศ. 2563 มีอัตราการตายของมารดาอยู่ที่ 117 รายต่อการเกิดมีชีพ 100,000 คน ในขณะที่ประเทศไทยมีอัตราการตายของมารดาอยู่ที่ 29 รายต่อการเกิดมีชีพ 100,000 คน ซึ่งนับเป็นอันดับ 3 ในกลุ่มประเทศอาเซียน รองจากสิงคโปร์ (7 ราย) และมาเลเซีย (21 ราย) ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการพัฒนาระบบสาธารณสุขเพื่อดูแลหญิงตั้งครรภ์ให้ดียิ่งขึ้น

ด้วยเล็งเห็นถึงความท้าทายดังกล่าว ฟิลิปส์จึงได้ทุ่มเทพัฒนาโซลูชันอัลตราซาวด์ที่ผสานเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวินิจฉัยโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น สนับสนุนการดูแลสุขภาพแบบเฉพาะบุคคล และการติดตามอาการจากระยะไกล ซึ่งทั้งหมดนี้จะนำไปสู่การเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงระบบสาธารณสุขที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ห่างไกลและขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

การสนับสนุนจากมูลนิธิเกตส์และศักยภาพของ AI

ความมุ่งมั่นของฟิลิปส์ได้รับการยอมรับและการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง โดยในปี พ.ศ. 2566 บริษัทได้รับทุนสนับสนุนเป็นครั้งที่สองจากมูลนิธิบิลและเมลินดา เกตส์ (Bill & Melinda Gates Foundation) ซึ่งเป็นมูลนิธิเอกชนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพื่อเร่งพัฒนาแอปพลิเคชันด้านสูตินรีเวชที่ขับเคลื่อนด้วย AI สำหรับใช้งานร่วมกับเครื่องอัลตราซาวด์แบบพกพา Philips Lumify

เทคโนโลยี AI ที่ฟิลิปส์พัฒนาขึ้นนี้ มีศักยภาพในการปฏิวัติการตรวจอัลตราซาวด์ โดยสามารถช่วยแนะนำและสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงพยาบาลผดุงครรภ์ ในการตรวจวัดและระบุพารามิเตอร์ที่สำคัญของทารกในครรภ์ เช่น อายุครรภ์ และขนาดของถุงน้ำคร่ำ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการประเมินความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ สุขภาพของมารดาและทารก และช่วยในการตัดสินใจส่งต่อเพื่อรับการดูแลที่เหมาะสมได้อย่างทันท่วงที ต้นแบบปัจจุบันแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการระบุค่าเหล่านี้ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะช่วยลดภาระและเพิ่มความมั่นใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์หน้างานได้อย่างมาก

อัลตราซาวด์

ผลลัพธ์เชิงบวกจากโครงการนำร่องในเคนยา

นับตั้งแต่ได้รับทุนสนับสนุนครั้งแรกในปี พ.ศ. 2564 ฟิลิปส์ได้ดำเนินโครงการนำร่องในประเทศเคนยา ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นั้นเป็นไปในเชิงบวกอย่างยิ่ง โซลูชันอัลตราซาวด์ AI แบบพกพา Philips Lumify ได้รับการตอบรับที่ดีจากทั้งบุคลากรทางการแพทย์และหญิงตั้งครรภ์ในชุมชนชนบทและพื้นที่ห่างไกล

จุดเด่นสำคัญคือ เทคโนโลยี AI ช่วยลดความจำเป็นที่บุคลากรทางการแพทย์จะต้องประมวลผลและแปลผลภาพอัลตราซาวด์ด้วยตนเองทั้งหมด ทำให้ระยะเวลาในการฝึกอบรมการใช้งานสำหรับพยาบาลผดุงครรภ์ลดลงอย่างมาก จากเดิมที่อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ เหลือเพียงไม่กี่ชั่วโมง โดยไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในการคัดกรองผู้ป่วย นอกจากนี้ หญิงตั้งครรภ์เองก็สามารถรับรู้และติดตามพัฒนาการของทารกในครรภ์ได้ง่ายขึ้น และในกรณีที่ตรวจพบความผิดปกติ ระบบจะช่วยให้การส่งต่อผู้ป่วยไปยังผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อทำการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

อัลตราซาวด์

ดร. เบียทริซ มูราเก ผู้อำนวยการด้านความยั่งยืนและการเข้าถึงระบบสาธารณสุข ฟิลิปส์ โกลบอล ได้กล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของนวัตกรรมนี้ว่า “หนึ่งชีวิตที่สูญเสีย คือความสูญเสียที่มากเกินไปแล้ว” เธอกล่าวในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร TIME ฉบับพิเศษเกี่ยวกับอนาคตของระบบสาธารณสุข “เครื่องอัลตราซาวด์แบบพกพาที่ขับเคลื่อนด้วยโซลูชัน AI ใหม่นี้มีศักยภาพที่จะปฏิวัติวงการอัลตราซาวด์ ช่วยลดช่องว่างด้านการดูแลสุขภาพของมารดาในประเทศเคนยาได้อย่างมีนัยสำคัญ” ความสำเร็จนี้ยังเกิดจากความร่วมมือกับพันธมิตรทางคลินิกคนสำคัญอย่าง ดร. นิดี ลีคา นักรังสีวิทยาจากมหาวิทยาลัย Aga Khan University ในประเทศเคนยา ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการผลักดันการเข้าถึงระบบสาธารณสุขที่ดีขึ้นสำหรับผู้หญิง

ความมุ่งมั่นของฟิลิปส์ ประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ในส่วนของประเทศไทย นายวิโรจน์ วิทยาเวโรจน์ ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลิปส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ว่า “ฟิลิปส์ เรามุ่งมั่นที่จะส่งมอบนวัตกรรมอันทรงคุณค่า เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงระบบสาธารณสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ห่างไกล เราได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรมากมาย เพื่อจัดการทรัพยากรและนำความเชี่ยวชาญและวิสัยทัศน์มาช่วยกันแก้ปัญหาและสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดียิ่งขึ้น”

“เรามีการพัฒนานวัตกรรมและโซลูชันที่ครอบคลุมการให้บริการทางการแพทย์ระยะไกล และการสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์อย่างเต็มที่ และสำหรับวันอนามัยโลก 2025 นี้ เราจึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมรณรงค์เพื่อการดูแลสุขภาพของมารดาและทารก เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพมารดาและลดอัตราการเสียชีวิตของหญิงตั้งครรภ์ได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นสุขภาพที่สำคัญในประเทศไทย รวมถึงในประเทศที่กำลังพัฒนาอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน”

สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ระดับโลก นายเดนิลสัน ฮิรากิ คุราโทมิ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจอัลตราซาวด์ ฟิลิปส์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวเสริมว่า “อัลตราซาวด์เป็นเครื่องมือสำคัญอย่างยิ่งในการตรวจคัดกรองการตั้งครรภ์ แต่การฝึกอบรมบุคลากรให้สามารถใช้งานและแปลผลได้อย่างถูกต้องก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ท้าทายไม่แพ้กัน เทคโนโลยี AI ที่เราพัฒนาขึ้นจะเข้ามาช่วยลดช่องว่างในส่วนนี้”

“นอกจากโครงการนำร่องที่ฟิลิปส์ โกลบอลได้ดำเนินการแล้ว ฟิลิปส์ในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังให้การสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง ในการตรวจคัดกรองความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น โดยมีเป้าหมายเพื่อลดอัตราการเสียชีวิตของมารดา เรามั่นใจว่าการนำนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น โซลูชัน AI นี้เข้าสู่ตลาด จะช่วยยกระดับการเข้าถึงระบบสาธารณสุขของมารดาได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชุมชนชนบทและพื้นที่ห่างไกลทั่วทั้งภูมิภาค”

AI เสริมความมั่นใจ ตอบโจทย์คำแนะนำ WHO

องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์ทุกคนควรได้รับการตรวจอัลตราซาวด์อย่างน้อยหนึ่งครั้งก่อนอายุครรภ์ครบ 24 สัปดาห์ เพื่อประเมินอายุครรภ์ ตรวจหาความผิดปกติของทารกในครรภ์ และติดตามพัฒนาการ ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้กับมารดาได้[iv] โซลูชันอัลตราซาวด์ AI ของฟิลิปส์ ไม่เพียงแต่ช่วยให้การตรวจเป็นไปตามคำแนะนำนี้ง่ายขึ้น แต่ยังเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในการคัดกรองความเสี่ยง ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถระบุการตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงสูงได้รวดเร็วขึ้น เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจส่งต่อผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม และยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่มารดาในการตัดสินใจเลือกแนวทางการดูแลสุขภาพที่ถูกต้องและดีที่สุดสำหรับตนเองและลูกน้อยในครรภ์

การผสานพลังของเทคโนโลยี AI เข้ากับเครื่องอัลตราซาวด์แบบพกพา Philips Lumify ถือเป็นก้าวสำคัญในการปฏิวัติการดูแลสุขภาพมารดาและทารก โดยมีเป้าหมายเพื่อลดอัตราการเสียชีวิตที่สามารถป้องกันได้ และสร้างอนาคตที่สดใส ปลอดภัย และมีสุขภาพดีสำหรับแม่และเด็กทั่วโลก สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของวันอนามัยโลก 2025 อย่างแท้จริง

สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนวัตกรรมและโซลูชันอัลตราซาวด์ของฟิลิปส์ สามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ Philips Ultrasound

อ้างอิง

[i] https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/maternal-mortality

[ii] World Health Statistics 2020,WHO

[iii] https://hp.anamai.moph.go.th/web-upload/4xceb3b571ddb70741ad132d75876bc41d/tinymce/OPDC/OPDC2568F/IDC32/OPDC2568_IDC3-2_01-1.pdf

#ฟิลิปส์ #PhilipsThailand #AI #ปัญญาประดิษฐ์ #อัลตราซาวด์ #Ultrasound #PhilipsLumify #สุขภาพแม่และเด็ก #MaternalHealth #InfantHealth #สูตินรีเวช #วันอนามัยโลก #WorldHealthDay2025 #WHD2025 #เทคโนโลยีสุขภาพ #HealthcareTechnology #มูลนิธิเกตส์ #GatesFoundation #ลดอัตราการเสียชีวิต #สาธารณสุข #Telehealth #การแพทย์ทางไกล #นวัตกรรมสุขภาพ #SDG3

Related Posts