กทม. ผนึก Google ยก ‘Project Green Light’ จัดการจราจรด้วย AI อัจฉริยะ

กทม. ผนึก Google ยก ‘Project Green Light’ จัดการจราจรด้วย AI อัจฉริยะ

กรุงเทพมหานครจับมือ Google เปิดตัวโครงการ ‘Project Green Light’ นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) สุดล้ำ มาใช้ในการบริหารจัดการสัญญาณไฟจราจรแบบเรียลไทม์ หวังแก้ปัญหารถติดเรื้อรัง ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และยกระดับคุณภาพชีวิตคนเมือง สู่เป้าหมายการเป็นเมืองอัจฉริยะอย่างยั่งยืน

ปัญหาการจราจรที่หนาแน่นและติดขัด ถือเป็นความท้าทายสำคัญอันดับต้นๆ ของมหานครกรุงเทพฯ ที่ส่งผลกระทบต่อการเดินทาง คุณภาพชีวิตของประชาชน และยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของยานพาหนะบนท้องถนน เพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างยั่งยืน กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกอย่าง Google ในการนำโครงการ ‘Project Green Light’ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของสัญญาณไฟจราจรในพื้นที่ที่มีการจราจรคับคั่งทั่วกรุงเทพฯ

โครงการ ‘Project Green Light’ เป็นโครงการริเริ่มของ Google ที่มุ่งเน้นการนำเอาศักยภาพของ AI และข้อมูลเชิงลึกด้านการจราจรจาก Google Maps มาวิเคราะห์และประเมินรูปแบบการเคลื่อนที่ของยานพาหนะบนท้องถนนอย่างละเอียด โดยระบบ AI จะทำการประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม์ และให้คำแนะนำในการปรับจังหวะการให้สัญญาณไฟจราจรให้สอดคล้องกับปริมาณและความหนาแน่นของการจราจรในแต่ละช่วงเวลาได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เป้าหมายหลักของโครงการนี้คือการลดปัญหาการจราจรติดขัด ลดระยะเวลาการรอสัญญาณไฟที่ไม่จำเป็น และบรรเทาภาวะการจราจรแบบ ‘stop-and-go’ ที่มีการเคลื่อนที่ช้าสลับกับการหยุดนิ่ง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและปล่อยมลพิษ

นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา กทม. ได้เริ่มนำร่องโครงการ ‘Project Green Light’ โดยมีการนำคำแนะนำที่ได้จากระบบ AI ไปปรับใช้กับสัญญาณไฟจราจรตามแยกสำคัญต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งการได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการนำร่องนี้ ทำให้กรุงเทพฯ กลายเป็นหนึ่งใน 18 เมืองทั่วโลกที่ได้นำเทคโนโลยีอันล้ำสมัยนี้มาใช้ในการบริหารจัดการการจราจร ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาการจัดการจราจรในเมืองใหญ่อย่างชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพ

ตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ‘Project Green Light’ ได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลการจราจรบริเวณทางแยกที่มีสัญญาณไฟจราจรหลายร้อยแห่งทั่วกรุงเทพฯ โดยอาศัยการทำงานของ AI และข้อมูลเทรนด์การขับขี่ยานพาหนะจาก Google Maps อย่างต่อเนื่อง ระบบจะทำการประเมินและนำเสนอคำแนะนำในการปรับรอบเวลาของสัญญาณไฟจราจร รวมถึงการปรับปรุงการเคลื่อนตัวของการจราจรบนท้องถนนให้มีความคล่องตัวและราบรื่นมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม กระบวนการนำคำแนะนำไปปฏิบัตินั้นยังคงต้องผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบจากวิศวกรด้านการจราจรของกรุงเทพมหานคร โดยจะมีการประเมินในหลากหลายมิติ ทั้งในเรื่องของความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน ความเป็นไปได้ในการนำไปปรับใช้จริง และประสิทธิผลของคำแนะนำนั้นๆ ก่อนที่จะมีการนำไปดำเนินการจริงบนท้องถนน

เมื่อมีการนำข้อเสนอแนะจาก ‘Project Green Light’ ไปปรับใช้จริงแล้ว ระบบจะยังคงทำการวัดผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อรูปแบบการจราจรอย่างต่อเนื่อง และส่งผลการวิเคราะห์ดังกล่าวกลับมายังกรุงเทพมหานคร เพื่อใช้ในการติดตามและประเมินผลการดำเนินงาน รวมถึงวางแผนสำหรับการปรับปรุงและพัฒนาการจัดการจราจรในอนาคตต่อไป

ศักยภาพของ ‘Project Green Light’ ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดเท่านั้น แต่ยังมีส่วนสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในเมืองต่างๆ ทั่วโลก โดยการช่วยให้การจราจรมีความคล่องตัวมากขึ้น ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการลดระยะเวลาในการเดินทาง ลดความเครียดของผู้ขับขี่ และที่สำคัญคือการลดการปล่อยมลพิษทางอากาศจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงของยานพาหนะที่จอดติดเครื่องยนต์อยู่บนท้องถนนเป็นเวลานาน จากผลลัพธ์เบื้องต้นของการนำ ‘Project Green Light’ ไปใช้งานในเมืองต่างๆ ทั่วโลก พบว่าโครงการนี้มีศักยภาพในการลดระยะเวลาการหยุดรถบนท้องถนนได้มากถึง 30% และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ถึง 10% โดยมีการเดินทางด้วยรถยนต์ที่ใช้ระบบนี้แล้วกว่า 55 ล้านเที่ยวต่อเดือน ซึ่งเป็นตัวเลขที่แสดงให้เห็นถึงผลกระทบเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญ

ปัจจุบัน โครงการ ‘Project Green Light’ ได้ถูกนำไปปรับใช้กับทางแยกต่างๆ ใน 18 เมือง ครอบคลุม 4 ทวีปทั่วโลก ตั้งแต่เมืองไฮฟาในประเทศอิสราเอล ไปจนถึงเมืองบังกาลอร์ในประเทศอินเดีย เมืองฮัมบูร์กในประเทศเยอรมนี และกรุงเทพมหานครในประเทศไทย ซึ่งผลจากการดำเนินงานในภาพรวมสามารถช่วยประหยัดเชื้อเพลิงและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการเดินทางด้วยรถยนต์ในบริเวณทางแยกเหล่านี้ได้มากถึง 30 ล้านเที่ยวต่อเดือน ความสำเร็จของ ‘Project Green Light’ เป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นของ Google ในการใช้เทคโนโลยี AI เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนนับล้านในเมืองต่างๆ ทั่วโลก

การร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานครและ Google ในโครงการ ‘Project Green Light’ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนของเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ การใช้ AI ในการบริหารจัดการสัญญาณไฟจราจรไม่เพียงแต่จะช่วยให้การเดินทางของประชาชนสะดวกสบายและรวดเร็วขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมให้กรุงเทพฯ ก้าวไปสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะที่น่าอยู่และยั่งยืนในอนาคต

#ProjectGreenLight #TrafficManagement #AITraffic #BangkokTraffic #SmartCity #SustainableCity #GoogleForThailand #กทม #การจราจร #เมืองอัจฉริยะ #ลดมลพิษ

Related Posts