Zanroo อ่านว่า แสนรู้ ชื่อนี้อาจจะไม่คุ้นหูนักสำหรับผู้คนทั่วไป แต่ใครจะรู้ว่า “แสนรู้” ซึ่งเป็นเครื่องมือรวบรวมและวิเคราะห์โลกออนไลน์ ที่เริ่มต้นจากผู้ก่อตั้งเพียง 2 คน โดยที่ไม่มีการระดมทุนเลยจนก้าวเข้าสู่ปีที่4 และที่สำคัญไม่ใช่สตาร์ทอัพที่ผ่านการบ่มเพาะจากโครงการใดๆ แต่สามารถเติบโตได้ด้วยความสามารถของเทคโนโลยีอย่างแท้จริง จะสามารถขึ้นแท่นยูนิคอร์นได้แล้ว
โดยเริ่มต้นเดือนแรกที่เปิดมีรายได้จากลูกค้ากว่า 1 ล้านบาททันที และปัจจุบันขยายตลาดไปแล้วกว่า 15 ประเทศ โดยที่ไม่ต้องระดมทุนแต่อย่างใด แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการเสนอร่วมทุนเข้ามาอย่างต่อเนื่องก็ตาม โดยกระโดดข้ามจากการเป็น Seed Funding เข้าสู่ระดับการระดมทุน Series A เลยทันที และมีมูลค่าการระดมทุนกว่า 7.4 ล้านเหรียญหรือราว 259 ล้านบาท
หลายคนอาจจะสงสัยว่าระดับเงินทุนขนาดนี้ควรจะต้องเป็น Series B แล้ว แต่อย่างที่บอกว่านี่เป็นครั้งแรกของการระดมทุน จำนวนหุ้นที่ถือครองจากการขยายทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 50 ล้านบาท จึงยังอยู่ในระยะของ Series A นั่นเอง ซึ่งเท่ากับว่า “แสนรู้” ยังมีโอกาสของการระดมทุนอีกหลายครั้ง ตามที่ผู้ก่อตั้งต้องการ
ทำไม Zanroo จึงอยู่ในความสนใจของนักลงทุนเป็นอย่างมาก
แสนรู้ มาร์เท็คสตาร์ทอัพ (MarTech Startup) ผู้ให้บริการด้าน “Insight Discovery (อินไซต์ ดิสคัฟเวอรี่)” ให้บริการ Social Listening, Social Engagement และ Consultancy Service ที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีจุดเด่นในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ด้วยบิ๊กดาต้า ติดตามตรวจสอบข้อมูลแบรนด์แบบเรียลไทม์ วิเคราะห์ข้อมูลและเทรนด์ต่างๆ และนำอินไซต์ผู้บริโภคไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ป้องกัน และบริหารจัดการเหตุวิกฤติที่เกิดขึ้นกับแบรนด์
ซึ่งในระยะเวลาเพียง 4 ปี แสนรู้ได้มีการขยายธุรกิจอย่างก้าวกระโดด และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าชั้นนำกว่า 300 ราย ครอบคลุมกลุ่มธุรกิจธนาคาร ยานยนต์ โทรคมนาคม อีคอมเมิร์ซ การบิน และสินค้าอุปโภคบริโภค ล่าสุด แสนรู้ เดินหน้าสู่การให้บริการระดับโลกด้วยเงินลงทุนจำนวนกว่า 7.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มุ่งแข่งขันในกลุ่มอุตสาหกรรม MarTech & AdTech ระดับโลกที่มีมูลค่าตลาดกว่า 24.18 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มั่นใจได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยม ด้วยนวัตกรรมหนึ่งเดียวในโลก พร้อมทีมงานท้องถิ่นที่แข็งแกร่ง สร้างงานสร้างรายได้ให้คนทั่วโลก ตั้งเป้าขึ้นแท่นแบรนด์ระดับยูนิคอร์นสตาร์ทอัพในอนาคต
นายชิตพล มั่งพร้อม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง Zanroo กล่าวว่า “บริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2556 และพนักงาน 2 คน จนถึงวันนี้ผ่านไป 4 ปี Zanroo ขยายการให้บริการแล้วถึง 15 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ พม่า กัมพูชา เวียดนาม ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง ออสเตรเลีย ศรีลังกา ปากีสถาน และอังกฤษ มีพนักงานครอบคลุมในทุกพื้นที่ให้บริการกว่า 150 คน ซึ่งมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดกว่า 200 – 400% ต่อปี ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ”
ความโดดเด่นของ แสนรู้ คือ บริการที่ครบวงจรทั้งด้าน Software ได้แก่ Social Listening, Social Engagement ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลอย่างเจาะลึกในพื้นที่สังคมออนไลน์ยอดนิยมของแต่ละท้องถิ่น และมีความแม่นยำในการตีความภาษาท้องถิ่นทุกภาษาทั่วโลก และด้าน Consultant ที่นอกจากจะประมวลวิเคราะห์ผลอย่างแม่นยำแล้ว
ยังสามารถนำ ‘อินไซต์’ ไป ‘ต่อยอด’ ให้ลูกค้าวางกลยุทธ์การตลาดให้เกิดประโยชน์ต่อแบรนด์ หรือป้องกัน และสามารถบริหารจัดการเหตุวิกฤติที่จะเกิดขึ้นกับแบรนด์อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญ แสนรู้ เป็นบริษัทแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 27001 ทางด้านการรักษาความปลอดภัยในข้อมูลของลูกค้า นายชิตพล กล่าวเสริม
ปี 2560 นี้ จะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ของ แสนรู้ ในเวทีระดับโลก ล่าสุด แสนรู้ ร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจ Shift Ventures (ชิฟ เวนเจอร์ส) ระดมทุน Series A จำนวน 7.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 259 ล้านบาท จากกองทุน สถาบันการเงิน เจ้าของธุรกิจและนักลงทุนหลายราย เพื่อรุกตลาด MarTech ทั่วโลก
ทั้งในเอเชีย สหรัฐอเมริกา และยุโรป ซึ่ง ชิฟ เวนเจอร์ส มีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้ให้คำปรึกษาแก่ Zanroo ในการวางโครงสร้างธุรกิจสู่ระดับโลก แนะนำ แสนรู้ สู่กลุ่มลูกค้าในหลากหลายประเภทธุรกิจ วิเคราะห์โอกาสทางการตลาดใหม่ๆ และช่วยหาพันธมิตรเพื่อขยายธุรกิจในต่างประเทศ
นายอุดมศักดิ์ ดอนขำไพร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและผู้ก่อตั้ง Zanroo กล่าวว่า “เพื่อนำพา แสนรู้ ก้าวสู่เวทีโลก เราได้คิดค้นนวัตกรรมหนึ่งเดียวในโลกภายใต้ชื่อ ‘อรุณ’ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากชื่อของ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดอรุณ วัดที่มีความงดงาม และยังได้รับการจัดอันดับว่าพระปรางค์วัดอรุณเป็นพระปรางค์ที่สวยงามที่สุดในประเทศไทย การใช้ชื่อ ‘อรุณ’ จึงสื่อถึงความเป็นไทยได้อย่างดี
“ระบบของ ‘อรุณ’ ถูกออกแบบมาให้ทำงานอย่างรวดเร็วและฉลาดโดยการประมวลผลข้อมูลมหาศาลจากทั้ง Paid Media, Owned Media และ Earned Media ได้รวมกันอย่างเบ็ดเสร็จ เพื่อช่วยวัดผลตอบแทนการลงทุน (Return on Investment) หรือค่า ROI ในโลกดิจิทัลเป็นครั้งแรก การเปิดตัว ‘อรุณ’ ออกสู่ตลาดโลกนี้ จะเป็นจุดเปลี่ยนของธุรกิจในทุกอุตสาหกรรม ให้สามารถวัดผลกิจกรรมการตลาดในช่องทางดิจิทัลได้ละเอียดขึ้น ทำให้สามารถดำเนินธุรกิจและกิจกรรมทางการตลาดบนความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคอย่างแม่นยำและตรงจุดที่สุด” นายอุดมศักดิ์กล่าว
นอกจากนี้ แสนรู้ ได้วางกลยุทธ์การบุกเบิกตลาดต่างประเทศด้วยจุดเด่น 4 ประการ คือ 1. ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีอันทันสมัย 2. ทีมขายที่เข้มแข็งในแต่ละประเทศที่เข้าไปดำเนินการ 3. แผนการตลาดที่ตรงจุด และ 4. การดูแลลูกค้าและบริการหลังการขาย พร้อมทั้งเตรียมเดินหน้าทำการตลาดแบบเต็มรูปแบบ ทั้ง อะโบฟเดอะไลน์ และ บีโลว์เดอะไลน์ โดยวางแผนในการเดินสายโรดโชว์
ตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้และต้นปีหน้าในหลายเมืองในสหรัฐอเมริกาและจีน ก่อนจะมุ่งหน้าสู่เมืองต่างๆ ในยุโรปต่อไปในอนาคต การเปิดตัว Zanroo ในระดับโลกนี้ นับเป็นการสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญให้กับวงการ MarTech ทั่วโลก โดยนักคิดและฝีมือของคนไทย ซึ่งจะทำให้ แสนรู้ เป็นแบรนด์คนไทยแบรนด์แรกที่จะสร้างชื่อเสียงในระดับโลก
“ด้วยศักยภาพของ ‘อรุณ’ จะเป็น Game Changer ในการช่วยยกระดับการดำเนินธุรกิจและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำตลาดให้กับแบรนด์ต่างๆ ทั่วโลก ทำให้เรามั่นใจว่า แสนรู้ จะสร้างยอดรายได้ 260 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้ และภายในปี 2562 จะขยายตลาดไปยัง 40 ประเทศทั่วโลก มียอดรายได้แตะที่ 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1,000 ล้านบาท ซึ่งเราตั้งเป้าจะเป็นแบรนด์ไทยแบรนด์แรก ที่ขึ้นเป็นยูนิคอร์นสตาร์ทอัพ และติดอันดับ 1 ใน 10 บริษัท MarTech ระดับโลก” นายชิตพล กล่าวสรุป