___noise___ 1000

ดีอีเล็งเปิด Open Access Network 30 Mbps/10 Mbps

Open Access

ครม.สัญจรลงตรวจเยี่ยมเน็ตประชารัฐ-ติดตามการสร้างการรับรู้และใช้ประโยชน์ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช/จ.ชุมพร ดีอีเผยได้ติดตั้งขยายเน็ตประชารัฐทั่วภาคใต้ 3,097 หมู่บ้าน เฉพาะนครศรีธรรมราชได้ติดตั้ง 598 หมู่บ้าน ส่วนชุมพรได้ติดตั้งไปแล้ว 267 หมู่บ้าน

เล็งเปิด Open Access Network เน็ตประชารัฐให้บริการประชาชนโดยให้ผู้ประกอบการโทรคมนาคมเชื่อมต่อโครงข่ายไปยังบ้านเรือนประชาชนโดยไม่มีค่าเชื่อมต่อ และคิดราคาบ้านละ 349 บาทต่อเดือนที่ระดับความเร็ว 30 Mbps/10 Mbps

ด้านทีโอทีเผยพร้อมที่จะดำเนินตามโยบายการให้บริการโครงข่ายแบบเปิดเพื่อให้โอเปอเรเตอร์เชื่อมต่อโครงข่ายเน็ตประชารัฐไปให้บริการเชิงพาณิชย์กับชุมชน

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า โครงการเน็ตประชารัฐ เป็นโครงการสำคัญตามนโยบาย Thailand 4.0 ที่กระทรวงดิจิทัลฯ ได้ดำเนินการตามแผนพัฒนาประเทศสู่ดิจิทัลไทยแลนด์

โดยขณะนี้ได้ติดตั้งขยายเน็ตประชารัฐทั่วภาคใต้ 3,097 หมู่บ้าน สำหรับจังหวัดนครศรีธรรมราชได้ติดตั้งจำนวน 598 หมู่บ้าน และได้จัดอบรมให้กับผู้นำและประชาชนในพื้นที่ เพื่อสร้างการรับรู้และส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากโครงข่ายเน็ตประชารัฐไปแล้ว 2,226 คน

ทั้งนี้การขยายโครงข่ายเน็ตประชารัฐจะสนับสนุนส่งเสริมให้จังหวัดนครศรีธรรมราชขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยผลักดันให้มีการใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งต่อการพัฒนาศักยภาพเกษตรกรสู่ Smart Farmer รวมถึงสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงเกษตร/เชิงนิเวศน์

ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของจังหวัด สำหรับพื้นที่ ต.สระแก้ว ชุมชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพหลัก ทำสวนผลไม้ เลี้ยงสัตว์ และปลูกพืชไร่ มีการรวมกลุ่มของภูมิปัญญาชาวบ้านท้องถิ่นในชุมชนอาทิ กลุ่มผลิตภัณฑ์ผ้ามัดย้อมบ้านนากุน

กลุ่มผลิตภัณฑ์ผ้ามัดย้อมบ้านนากุน กลุ่มทำกะปิของแม่บ้านหมู่ที่ 4 กลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรงไทยได้รับการสนับสนุนจากศูนย์อนุรักษ์และขยายพันธุ์ผึ้งและกลุ่มอาชีพการแปรรูปทุเรียน บ้านศาลาสามหลัง

ทั้งนี้ โครงการเน็ตประชารัฐของรัฐบาล จะเป็นการส่งเสริมการประกอบอาชีพของชุมชนในพื้นที่ทั้งในด้านการขยายตลาดค้าขายออนไลน์ ส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้กับชุมชน รวมถึงสร้างโอกาสให้แก่ประชาชนในชุมชนได้เข้าถึงบริการต่าง ๆ ของภาครัฐ ได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน

ด้านดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า กระทรวงดิจิทัลฯ ได้ติดตั้งขยายโครงข่ายเน็ตประชารัฐทั่วประเทศจำนวน 24,700 หมู่บ้าน โดยปัจจุบันมีประชาชนลงทะเบียนสมัครใช้งานเน็ตประชารัฐทั่วประเทศจำนวนประมาณกว่า 3.6 ล้านราย

สำหรับที่ชุมพรได้ติดตั้งขยายโครงข่ายฯ จำนวน 267 หมู่บ้าน และได้จัดอบรมให้กับผู้นำและประชาชนในพื้นที่แล้วจำนวน 897 คน ทั้งนี้โครงข่ายเน็ตประชารัฐจะเป็นการสร้างโอกาสให้กับคนชุมพรกว่า 5 แสนคน ได้ใช้ประโยชน์ผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการสร้างเศรษฐกิจเสริมจุดแข็งของจังหวัดชุมพร

ทั้งในด้านความมั่นคงด้านอาหารโดยเป็นแหล่งผลิตอาหารทะเลมากเป็นอันดับ 5 ของภาคใต้ เป็นแห่งผลิตผลไม้หลากหลากชนิด โดยเฉพาะทุเรียนผลิตมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ มีทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวหลากหลายทั้งทางธรรมชาติและศิลปวัฒนธรรม อาทิ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร แหล่งท่องเที่ยวชุมชนต่าง ๆ

เช่น หมู่บ้านประมง และหมู่บ้านไทยทรงเป็นศูนย์กลางการตลาดผลไม้ของภาคใต้และเป็น Gateway เชื่อมโยงการท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน และฝั่งอ่าวไทย

“ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดจากโครงข่ายเน็ตประชารัฐ สร้างโอกาสในด้านต่างๆ ให้กับประชาชนเพื่อร่วมผลักดันประเทศสู่การ “ไทยแลนด์ 4.0” ไปด้วยกัน รัฐบาลมีนโยบายที่จะเปิดโครงข่ายเน็ตประชารัฐเพื่อให้ผู้ให้บริการที่ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงาน กสทช.

สามารถเชื่อมต่อไปยังบ้านเรือนของประชาชน (Open Access Network) โดยผู้ให้บริการไม่ต้องจ่ายค่าใช้หรือเชื่อมต่อ ซึ่งจะเป็นการลดต้นทุนอันจะเป็นประโยชน์กับประชาชนในพื้นที่โครงการเน็ตประชารัฐที่จะสามารถใช้บริการได้ในราคาที่เหมาะสมเพียงเดือนละ 349 บาท ที่ระดับความเร็ว 30 Mbps/10 Mbps ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการโครงข่ายแบบเปิด (Open Access Network) อย่างเป็นทางการในเร็ว ๆ นี้

นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า เป้าหมายสำคัญของรัฐบาล ที่ผ่านมาได้มีการอบรมวิทยากรแกนนำ ครูกศน. จำนวน 5 รุ่น รวม 1,033 คน พร้อมจัดทำคู่มือพัฒนาความสำเร็จกับเน็ตประชารัฐ จัดอบรมวิทยากรแกนนำอบรมผู้นำชุมชน หมู่บ้านละ 4 คน รวมมากกว่า 100,000 คน

การสนับสนุนความรู้ให้กับบุคลากรจากทีโอที และสำนักงานสถิติจังหวัดทั่วประเทศ 20 ทีม ประมาณ 200 คน เพื่อทำหน้าที่เป็นวิทยากรแกนนำเน็ตประชารัฐในการถ่ายทอดความรู้ให้กับบุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นเครือข่ายการพัฒนาดิจิทัลระดับตำบล จำนวนประมาณ 8,400 คนทั่วประเทศ

และทำการขยายความรู้ไปสู่ประชาชนในพื้นที่เน็ตประชารัฐให้มีทักษะด้านดิจิทัลมากกว่าจำนวน 1 ล้านคน ภายในเดือนกันยายน 2561 รวมถึงการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ work shop ในเชิงลึกให้กับประชาชนผู้สนใจผู้ประกอบการ และกลุ่มอาชีพในหมู่บ้านเน็ตประชารัฐที่มีความพร้อม อย่างน้อยจังหวัดละ 1 ครั้ง

นอกจากนี้กระทรวงได้มีลงพื้นที่เก็บรวบรวมข้อมูลโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ ด้วยการสอบถาม/สัมภาษณ์กำนัน/ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่หมู่บ้านที่มีการติดตั้งเน็ตประชารัฐ และรวมถึงการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อโครงการเน็ตประชารัฐ ในพื้นที่ 24,700 หมู่บ้าน

ด้านนางพิมพ์วิมล วงษ์สุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที กล่าวว่า การตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ บมจ.ทีโอที ได้ร่วมออกบูธจัดแสดงการขยายผลการใช้ประโยชน์จากโครงข่ายเน็ตประชารัฐทั้งในด้านการอบรมของครู กศน.และประโยชน์ในด้านเศรษฐกิจ

โดยมีเยาวชนต้นกล้าประชารัฐจากโครงการ “TOT Young Club” ร่วมนำเสนอผลิตภัณฑ์ชุมชนนำเสนอภายในงาน ซึ่งมีการใช้ประโยชน์นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาการทำตลาดออนไลน์ผ่าน TYC e-Commerce สร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้ชุมชน

ทั้งนี้ ทีโอที ได้เตรียมพร้อมที่จะดำเนินตามโยบายการให้บริการโครงข่ายแบบเปิดเพื่อให้โอเปอเรเตอร์เชื่อมต่อโครงข่ายเน็ตประชารัฐไปให้บริการเชิงพาณิชย์กับชุมชน เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับประชาชน ชุมชน และประเทศ ตามนโยบายประเทศไทย 4.0

banner Sample

Related Posts