ชาร์ป เผยวิสัยทัศน์สู่แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจในอนาคตสำหรับภาคธุรกิจไทย โดยจัดแสดงระบบนิเวศสมาร์ทโซลูชั่นแบบครบวงจร นำโดยเทคโนโลยี AIoT, 8K Ecosystem และเทคโนโลยี 5G มาประยุกต์เพื่อรับมือกับความท้าทายของธุรกิจในยุคปัจจุบันและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย
‘Changing the World with 8K+5G and AIoT’ นับเป็นวิสัยทัศน์ของชาร์ปในการนำโซลูชั่นอัจฉริยะสำหรับภาคธุรกิจและภายในที่อยู่อาศัย ในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าของผู้บริโภคภายใต้ 8 ด้านของชีวิต ไม่ว่าจะเป็น การทำงาน การศึกษา ความบันเทิง สังคม ความปลอดภัย การแพทย์และสุขภาพ อสังหาริมทรัพย์และการจัดซื้อ รวมถึงการปกป้องสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยต่อชีวิตบนท้องถนน ซึ่งทั้งหมดนี้จะนำไปสู่การสร้างสรรค์การทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในทุกภาคส่วน ซึ่งถือเป็นการร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และเป็นการสร้างสังคมที่ทุกคนสามารถใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการได้อย่างแท้จริง
“ชาร์ปมีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลให้เกิดขึ้นในประเทศไทย และวันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่เราได้ดำเนินตามวิสัยทัศน์ทางธุรกิจ ซึ่งก็คือ ‘Changing the World with 8K+5G and AIoT’ โดยการมอบ Smart Innovative Solutions เพื่อผลักดันสังคมไทยให้เข้าสู่การใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น สมาร์ทโซลูชั่นที่มาจัดแสดงภายในงานวันนี้ ได้แก่ Smart Office, Smart Education, Smart Signage, Smart Homes และ Smart Hospitality รวมไปถึง โซน 8K ไฮไลท์สำคัญของเราที่จะแสดงให้เห็นถึงขีดสุดของความคมชัดของจอโทรทัศน์ที่รองรับความละเอียดสูงสุด ชัดกว่าจอโทรทัศน์แบบ Full HD ถึง 16 เท่า นอกจากนี้เรายังภูมิใจนำเสนอ โซนพลาสม่าคลัสเตอร์ สาธิตการทำงานเทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์ ที่ชาร์ปพัฒนาขึ้นเพื่อมอบอากาศที่สะอาดและบริสุทธิ์กว่าให้สังคมไทย” นายโรเบิร์ต อู๋ กรรมการผู้จัดการ ชาร์ป ไทย และ ชาร์ป มาเลเซีย กล่าว
ชาร์ป สมาร์ท โซลูชั่น
· Smart Office: สร้างการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ด้วยกระดานอินเตอร์แอคทีฟ (Interactive Whiteboard) และการประชุมทางไกลผ่านวิดีโอ มอบประสบการณ์การทำงานสุดล้ำด้วยเครื่องพิมพ์ที่สามารถเชื่อมต่อได้ทุกที่ รวมไปถึงระบบการจองห้องประชุมที่ช่วยให้การจองห้องประชุมในทุกพื้นที่กลายเป็นเรื่องง่ายมากยิ่งขึ้น
· Smart Education: สร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยกระดานอินเตอร์แอคทีฟและ Smart Professional Service ที่ช่วยสนับสนุนบริการการเรียนรู้ เอื้อประโยชน์ต่อผู้เรียนอันจะนำไปสู่การสร้างสังคมอัจฉริยะในอนาคต
· Smart Signage: ดึงดูดความสนใจของลูกค้าด้วยเนื้อหาและภาพอันคมชัด พร้อมผสานเทคโนโลยีระบบตรวจจับใบหน้าเพื่อการเสนอโปรโมชั่นและผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น รวมถึงเทคโนโลยีจอ LCD อัจฉริยะโปร่งแสง ขนาด 90 นิ้วสุดล้ำ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับติดตั้งบริเวณกระจกตู้โชว์สินค้า ที่ลูกค้าสามารถดูสินค้าจริงชมข้อมูลในจอได้พร้อมๆ กัน
· Smart Homes: ลดภาระด้านงานบ้านเพื่อให้สมาชิกในบ้านได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้นด้วยบริการ SHARP COCORO LIFE (บ้าน, ห้องครัว, การซักล้าง และสัตว์เลี้ยง) นอกจากนั้นยังมี Google Assistant ที่ช่วยให้ทุกคนสามารเพลิดเพลินกับเนื้อ สาระ ความบันเทิง ผ่านแอปพลิเคชั่น และเกมส์ Android ผ่านจอทีวีขนาดใหญ่ที่บ้านได้อย่างจุใจอีกด้วย
· Smart Hospitality: ระบบอินเตอร์แอคทีฟและโซลูชั่นที่จะช่วยนำเสนอโฆษณา วิดีโอ หรือการถ่ายทอดสด ซึ่งจะช่วยให้โรงแรมสามารถมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมแก่แขกคนพิเศษได้มากยิ่งขึ้น
ชาร์ป ในฐานะแบรนด์ด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีชื่อเสียงระดับโลกอันแข่งแกร่งด้านนวัตกรรม จนส่งผลให้มีชื่อเสียงด้าน 8K+5G Ecosystem อันเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ซึ่งประกอบด้วยโซลูชั่นแบบครบวงจรที่ช่วยจำลองภาพของโลกแห่งอนาคตอันนำไปสู่การค้นพบใหม่ที่น่าตื่นเต้น พร้อมเชื่อมต่อผู้คนและสังคมผ่านเทคโนโลยี AIoT – การผสานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และโลกแห่งอินเทอร์เน็ตเข้าด้วยกัน ทั้งนี้ ชาร์ป ยังคงมุ่งมั่นที่จะปฏิวัติโลกใบนี้ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ภายใต้บทบาทของการเป็นผู้นำด้านการริเริ่มนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างมากมาย
นอกจากนี้ ชาร์ปได้ขยายธุรกิจสู่ Dynabook ผลิตภัณฑ์ล่าสุดที่มาพร้อมกับอัตลักษณ์ใหม่ที่โดดเด่น ในฐานะแบรนด์แรกที่ดูแลขั้นตอนการออกแบบ พัฒนา ทดสอบ และคุมการผลิตเองทั้งหมดอย่างครบวงจร เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า Dynabook จะเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพ ปลอดภัย น่าเชื่อถือและมีความทนทานระดับชั้นนำในอุตสาหกรรม
Smart Life
ชาร์ป ไม่เพียงต้องการยกระดับความเป็นอยู่ของคนไทยเท่านั้น แต่ยังคงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี โดยการริเริ่ม 2 โครงการ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงเทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์ ที่จะช่วยสร้างอากาศบริสุทธิ์ให้แก่คนในสังคมไทย
เทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์ เทคโลยีที่ได้รับการคิดค้นและพัฒนาขึ้นโดย ชาร์ป ผ่านการรับรองว่าเป็นเทคโนโลยีที่สามารถช่วยยับยั้งสารก่อภูมิแพ้ แบคทีเรีย เชื้อรา ไวรัส รวมถึงกลิ่นที่ไม่พึ่งประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยทำให้อากาศสะอาดและบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น
ชาร์ป ได้ส่งมอบเครื่องฟอกอากาศจำนวน 200 เครื่องให้โรงพยาบาล 4 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เพื่อมอบอากาศที่สะอาดและสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพที่ดีแก่ผู้ที่มาใช้บริการในแต่ละโรงพยาบาล
นอกจากนี้ ชาร์ป ยังได้ร่วมมือกับแพลน บี ในการมอบอากาศบริสุทธิ์และสดชื่นแก่ผู้โดยสารรถประจำทางในกรุงเทพมหานคร โดยได้ทำการติดตั้งเทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์ในระบบแอร์ของรถประจำทางทั้งหมด 4 สาย จำนวนกว่า 10 คัน ได้แก่ สาย 29, 52, 147 และ 167
Smart Productivity
ชาร์ป ตอกย้ำการสนับสนุนประเทศไทย โดยเร่งมองหาโอกาสการสร้างความร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) เพื่อช่วยขับเคลื่อนแผนงานขององค์กรในการการส่งเสริมพัฒนาธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กของประเทศไทย โดยโครงการที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กของไทยให้สามารถปรับตัวสู่รูปแบบการทำงานในแนวทางใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วยสมาร์ทโซลูชั่น
นายโรเบิร์ต อู๋ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “การเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัลถือเป็นกระแสนิยมที่ส่งผลกับธุรกิจทุกขนาดทั่วโลก ในขณะที่ประเทศไทยยังคงก้าวสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ชาร์ป มีความตั้งใจที่จะสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเพื่อประโยชน์ต่อทั้งองค์กรภาครัฐและเอกชน และด้วยประสบการณ์ด้านนวัตกรรมกว่า 100 ปี จึงอาจเรียกได้ว่า ชาร์ป ถือเป็นพันธมิตรที่น่าไว้วางใจและเหมาะสมอย่างยิ่ง ในการร่วมรับมือกับความท้าทายเพื่อประโยชน์ของภาคอุตสาหกรรมและสังคมของประเทศไทย”