รมว.ดีอีเอส เน้นย้ำให้ ETDA สร้างมาตรฐานและรูปแบบการใช้งานเครื่องมือดิจิทัลที่เหมาะสมให้กับคนไทย ยืนยันว่าเป็นหน่วยงานเบื้องหลังเพื่อช่วยในการทำงานด้านดิจิทัลที่เหมาะสมแล้ว พร้อมชูเครื่องมือเทคโนโลยีสร้างการใช้งานให้ประชาชนอย่างทั่วถึง และเกิดประโยชน์สูงสุด ภายใต้มาตรฐานและความเหมาะสมในการใช้งานจริง
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในงาน “GO DIGITAL WITH ETDA” ว่า แน่นอนว่าการใช้เทคโนโลยีที่ยังไม่มากเท่าไหร่ก็คงไม่เป็นไร แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ใช้งานอย่างแพร่หลาย ก็จะต้องมีมาตรฐานเข้ามาเกี่ยวข้อง วันนี้ดิจิทัลไม่ได้สร้างความเสียหายแบบการลัดวงจร แต่สามารถสร้างความเสียหายได้อย่างใหญ่หลวงแบบที่โซเชียลมีเดียทำได้
แต่กระนั้นสิ่งที่เราทำได้ สิ่งแรกก็คือการแก้ไขกฏหมายให้ไปข้างหน้าเพื่อสอดรับกับเทคโนโลยีให้ได้ เพื่อตามดิจิทัลที่รวดเร็วให้ได้ทัน สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะเป็นหน่วยงานหลักที่จะเข้ามาวิเคราะห์และคาดการณ์อนาคตของดิจิทัลให้เรา เพื่อปกป้องคนไทยให้ได้มากที่สุดให้เรา
เรื่องที่สองคือการสร้างมาตรฐานของประเทศไทย ในเรื่องของดิจิทัลที่คนไทยต้องใช้ แต่เดิมมาตรฐานของคอมพิวเตอร์ที่เราต้องใช้ไม่รู้หรอกว่าเป็นอย่างไร แต่เอ็ตด้าจะต้องบอกเราได้ว่ามาตรฐานที่เหมาะสมเป็นอย่างไร
และเรื่องที่สาม คือการเข้าไปตรวจสอบว่ามีการใช้งานอย่างเหมาะสมหรือไม่อย่างไร เราต้องรู้มาตรฐานในการใช้งาน ต้องสร้างกฏระเบียบ และเข้าไปตรวจสอบสู่การนำไปบังคับใช้จริง ซึ่งวันนี้เอ็ดด้าต้องปรับตัวไปสู่การเป็น “เรกูเลเตอร์” หรือหน่วยงานกำกับดูแลด้านดิจิทัล ให้ได้ในส่วนของดิจิทัลทุกรูปแบบ
วันนี้ท่านนายกฯ ได้ตั้งบอร์ดการทำงานด้านดิจิทัลขึ้นมาใหม่ให้กับ เอ็ตด้า แล้ว เพื่อเป้าหมายที่จะสร้างยุคใหม่ให้กับเอ็ดด้า ในการเป็นกำลังหลักของการพัฒนาด้านดิจิทัลของประเทศไทย ให้สามารถเดินหน้าต่อไปในอนาคตได้อย่างเหมาะสม
ซึ่งเรื่องเหล่านี้เราจะต้องสื่อสารให้ทุกคนทั้งหน่วยงานรัฐ เอกชนและภาคประชาชน สามารถเข้าถึงได้ สามารถปฏิบัติได้ และสิ่งที่เอ็ดด้าจะออกกฏระเบียบออกมาจะต้องสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างทั่วถึง
สิ่งที่เรากำลังจะทำ ไม่ใช่เรื่องที่เราคิดเองทำเอง แต่เป็นสิ่งที่เราจะต้องทำ ซึ่งประเทศไทยสุดท้ายจะต้องมีแพลตฟอร์มประเทศไทยเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น แพลตฟอร์มที่ว่าจะไม่ใช่เพียงแค่การค้าขาย แต่อยากให้ประเทศไทยมีแพลตฟอร์มในการร้องเรียนและร้องทุกข์ให้ประชาชนทั่วประเทศ สามารถเข้าถึงได้มากกว่าการเข้าไปร้องทุกข์ผ่านศูนย์ดำรงค์ธรรม เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกและประชาชนสามารถเข้าถึงได้ผ่านมือถือ เร็วขึ้น สะดวกขึ้น ขณะที่หน่วยงานที่รับผิดชอบก็สามารถนำผลงานดังกล่าว เป็นสิ่งชี้วัดความสามารถของหน่วยงานได้อย่างดีเยี่ยม
ที่ผ่านมา เราเคยพุดถึงระบบการยืนยันข้อมูลตัวตนทางดิจิทัล ซึ่งแม้ว่าระบบธนาคารจะเดินหน้าไปไกลแล้ว แต่บางส่วนก็ยังไม่สามารถนำระบบดังกล่าวมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่นับจากนี้ เราจะสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยที่เราใช้เพียงบัตรประชาชน จากที่เราจะพัฒนาเรื่องของรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ต่อไป ซึ่งเรื่องของการยืนยันตัวตนทางดิจิทัล จะเป็นเงื่อนไขสำคัญที่เราจะก้าวไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว
วันนี้เราเห็นรูปแบบชีวิตใหม่ ๆ ในการดำรงชีวิตในยุคโควิด-19 แต่สิ่งที่ผมอยากเห็นเอ็ตด้าทำ คือการรูปแบบการใช้ชีวิตยุค New Normal แบบดิจิทัลใหม่ ๆ เพื่อช่วยให้ประชาชนมีรูปแบบและเข้าใจการใช้ชีวิตดิจิทัลที่ปลอดภัยมากขึ้น เรื่องเหล่านี้เอ็ตด้าจะต้องไปคิดและตอบโจทย์สิ่งเหล่านี้ให้ได้
เมื่อเรารู้ว่ามันเป็นปัญหาแบบนั้น เราคนไทยจะได้มั่นใจว่าใช้อะไรแล้วปลอดภัย ไม่โดนแฮกข้อมูล การมีแพลตฟอร์มหรือโซลูชั่นที่ปลอดภัยของคนไทยเอง อย่างน้อยก็ช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับหน่วยงานรัฐ ซึ่งเอ็ตด้าก็เข้าใจว่ากำลังพัฒนาอยู่อีกมากมาย เพื่อช่วยลดต้นทุนการบริการให้เกิดขึ้นในยุค New Normal ที่จะเกิดขึ้นหลังจากโควิด-19 ผ่านพ้นไป
ส่วนเรื่องของความปลอดภัยข้อมูล ที่คนไทยจะต้องเข้าไปดำเนินการต่าง ๆ เอ็ดด้าก็จะต้องมีบทบาทในการเป็นเครื่องมือหลักในการดูแลความปลอดภัย วันนี้เราไม่รู้ว่าระบบสาธารณูปโภคของไทย โดนโจมตีทางไซเบอร์อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเราก็มีการป้องกันจากการพัฒนาในระดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่เราก็ยังต้องพัฒนาต่อไป เพื่อรู้ให้เท่าทัน และสามารถใช้ดิจิทัลให้เกิดประโยชน์มากขึ้น
ซึ่งในอนาคต อะไรที่จะเข้ามาสู่ประเทศไทย เราจะต้องรู้และสร้างมาตรฐานรองรับ เพื่อคัดกรองดิจิทัลที่จะเข้ามาสู่ประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพต่อการใช้งานและสามารถดูแลการดำเนินงานของดิจิทัลที่เข้ามาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
วันนี้เราต้องดึงหน่วยงานของรัฐ เอาจุดแข็งของหน่วยงานรัฐ เข้ามาช่วยให้ประชาชนสามารถเรียนรู้เทคโนโลยีเพื่อให้ได้ประโยชน์และเข้าถึงได้อย่างทั่วถึง อย่างเช่นการรวมแคทและทีโอที เพื่อช่วยให้ประชาชนเข้าถึงระบบโทรคมนาคมได้อย่างทั่วถึง เพื่อรองรับทั้งหมดของเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต
ที่ผ่านมาประเทศไทย มีการพัฒนา 5G เป็นประเทศแรก ๆ ของอาเซียน แล้วหน้าที่ของประชาชน ก็คือการนำเทคโนโลยี 5G ต่อยอดไปสู่การใช้ประโยชน์สูงสุด ทั้งหน่วยงานของรัฐ ก็จะต้องหาทางใช้ประโยชน์จาก 5G ได้อย่างเหมาะสม อย่าคิดว่า 5G จะใช้เพียงการโทรศัพท์ให้ชัดและเร็วขึ้นเท่านั้น เพราะ 5G ไม่ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพียงเท่านั้น
แต่ 5G จะเข้ามาช่วยให้อุปกรณ์สามารถเข้าถึงเครือข่าย และสร้างสภาพแวดล้อมทางเทคโนโลยีให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น ทั้งในส่วนของการเกษตรที่จะช่วยเชื่อมโยงเครือข่ายการเกษตรที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อช่วยเกษตรกรได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่จะมาพร้อมเครือข่าย 5G ให้ได้ประโยชน์สูงสุด
วันนี้เราต้องสร้างประสิทธิผลที่เพิ่มมากขึ้น จากต้นทุนทางการเกษตรที่มีอยู่ ภายใต้แรงขับเคลื่อนของโอกาสที่เท่าเทียมกัน ซึ่งเราก็จะพูดให้น้อยลง แต่ทำงานมากขึ้น แบบที่เราพยายามทำมาอย่างต่อเนื่อง “ทำแล้ว ทำเลย ทำทันที”
คนไทยพร้อมแล้วเป็นอย่างมากที่จะใช้ดิจิทัล แต่กลับกันหน่วยงานรัฐต่างหากที่จะต้องเร่งสร้างระบบ ที่พร้อมและปลอดภัยในการบริการดิจิทัล ให้ประชาชน แล้วหรือยัง ซึ่งถ้ายังไม่พร้อม เอ็ตด้าจะต้องสามารถเข้าไปช่วยหน่วยงานนั้น ๆ ได้อย่างรวดเร็วและเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้เราจะต้องยืนยันให้ได้ว่า กฏหมายของเราสามารถครอบคลุมการใช้งานแบบไร้พรมแดนบนโลกของดิจิทัลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ วันนี้เราต้องเริ่มบังคับใช้กฏหมายอย่างจริงจัง เพื่อสร้างมาตรฐานเดียวกันของกฏหมายไทย เพราะไม่ว่าใครหรือบริการใดก็ตามที่เข้ามาในประเทศไทย หรือแม้แต่คนไทยเองก็จะต้องยึดในหลักข้อกฏหมายเดียวกัน