ETDA ลุยจัดตั้ง Foresight Center จับตาสัญญาณโลก วาดภาพอนาคตไทย

ETDA ลุยจัดตั้ง Foresight Center จับตาสัญญาณโลก วาดภาพอนาคตไทย

Foresight Center

สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA ผนึก สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) และศูนย์วิจัยอนาคตศึกษา FutureTales Lab พร้อมพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง ประกาศจัดตั้งหน่วยงานวิเคราะห์ข้อมูล Foresight Center หรือศูนย์คาดการอนาคต เพื่อกวาดหาสัญญาณการเปลี่ยนแปลงของโลก สู่การกำหนดยุทธศาสตร์การวางนโยบายของภาครัฐ และเป็นข้อมูลการส่งเสริมภาคเอกชนให้พร้อมเดินหน้าสู่ทิศทางการเปลี่ยนแปลงที่ถูกต้อง ชู 4 เป้าหมายหลัก ธุรกรรมดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ การพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล และอนาคตของโลกอินเทอร์เน็ต ภายในงาน ETDA Digital Foresight Symposium 2022 “Future Ready: Advancing Thailand for Digital Forward

ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ ETDA กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงของโลกที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให่เราต้องสำรวจและกวาดหาสัญญาณบ่งชี้นั้น ๆ เพื่อให้รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และสามารถส่งต่อไปสู่การกำกับดูแลและส่งเสริมเรื่องของเทคโนโลยีแห่งอนาคตให้ได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งการจัดตั้งศูนย์คาดการณ์อนาคต หรือ Foresight Center ในครั้งนี้ จะเข้ามาช่วยให้เราได้เรียนรู้ว่าเราจะกำกับดูแลและส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีอย่างไร โดยแบ่งเป็นการศึกษาด้านการเงิน ด้านพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ต และโลกเสมือนจริง

Foresight Center
ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ ETDA

ที่ผ่านมา ETDA มีการออกมาตรฐานเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อช่วยให้การทำธุรกรรมถูกต้องตามกฎหมาย แต่วันนี้เรากำลังร่วมกับพาร์ทเนอร์ ในการรวบรวม วิเคราะห์ คาดการณ์อนาคตว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย ซึ่งจะทำให้เรารู้ว่าในอนาคตเราควรจะออกกฎหมายอย่างไร เพื่อส่งเสริมให้เกิดการทำงานของเทคโนโลยีแห่งอนาคตได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น

ด้านดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ระบุว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการยกระดับการทำงานของศูนย์คาดการณ์อนาคต หรือ Foresight Center เพื่อช่วยค้นหาสัญญาณความเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคต และพัฒนาไปสู่การวางยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศ และส่งเสริมให้ภาคธุรกิจสามารถเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของโลก และเตรียมตัวให้พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคตที่จะเกิดขึ้นต่อไป ภายใต้ 4 เรื่องหลักจะให้ความสำคัญก่อน โดยแบ่งเป็น 1.การทำธุรกรรมดิจิทัลแห่งอนาคต 2.ทิศทางการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ 3.แนวทางการการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล และ4. การเข้าใจอนาคตของโลกอินเทอร์เน็ต

Foresight Center

และหลังจากที่เราได้รับสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงผ่านศูนย์คาดการณ์อนาคตแล้ว การนำผลลัพธ์ไปกำหนดเป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาของชาตินั้น จำเป็นต้องได้รับการทดลอง ทดสอบประสิทธิภาพผ่าน Sandbox ที่สอดคล้องกับบริบทของการพัฒนานั้น ๆ เพื่อให้เกิดความผิดพลาดของกระบวนการคิดให้น้อยที่สุด และท้ายที่สุดเราก็จะสามารถกำหนดยุทธศาสตร์ของอนาคตที่เราจะเดินหน้าไปอยู่ได้อย่างถูกต้องที่สุด

ทำความรู้จัก Foresight Center เครื่องมือมองภาพอนาคตประเทศไทย

ดร.การดี เลียวไพโรจน์ กรรมการกำกับ ETDA กล่าวว่า วันนี้เราต้องการหน่วยงานที่มาทำเครื่องมือเพื่อให้เราเข้าใจภาพของอนาคตที่ถูกต้อง ซึ่งจะเป็๋นอีกศาสตร์ที่ใช้ข้อมูลเชิงลึกและข้อมูลเชิงปริมาณมาผสมผสานการพยากรณ์ร่วมกัน เพื่อให้เห็นภาพอนาคตที่หลากหลายมิติ และเมื่อเราเข้าใจเรื่องของอนาคตในทุกมิติ แล้วหากมิติไหนที่เราไม่ต้องการให้เกิดขึ้นก็เป็นหน้าที่ของเราในการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดขึ้น

Foresight Center จะมีกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ ด้วยการเอาเดต้ามาวางอย่างเป็นระบบ โดยการใช้หลักการที่สำคัญประกอบด้วยกระบวนการ 1.ต้องมองพัฒนาการในอดีตของประเทศไทยเองเพื่อพยากรณ์อนาคต และ2.ต้องทำการค้นหาสัญญาณการเปลี่ยนแปลงในทุกวัน ซึ่งวันนี้สัญญาณที่เกิดขึ้นหรือแรงขับเคลื่อนที่จะเกิดขึ้น เราจะต้องรู้ได้ผ่าน Foresight Center

โดยการเก็บข้อมูล ยังต้องศึกษาความเชื่อมโยง จากกลุ่มคนที่หลากหลาย เพื่อให้เกิดความเข้าใจในทุกมิติ เนื่องจากสัญญาณเตือนของการเปลี่ยนแปลงในโลกอนาคต

ขณะที่การสร้างฉากทัศน์ (scenario) ที่จำเป็น เพื่อกำหนดนโยบายจากการคาดการณ์อนาคตที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้เราไปอยู่ในช่วงของสถานการณ์ฉากทัศน์ที่สำคัญได้อย่างถูกที่ถูกเวลา ซึ่งเหตุการณ์จะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าจะไม่เกี่ยวกับเทคโนโลยีโดยตรง แต่ก็เป็นการสะท้อนสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

สิ่งสำคัญที่สุดเมื่อเราได้สัญญาณจากการวิเคราะห์ข้อมูลของ Foresight Centerแล้ว เราจะแปลความสู่การวางกลยุทธ์การปฏิบัติงาน เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของชาติบนการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงได้อย่างไร ซึ่งทั้งหมดจะกลายเป็นขั้นตอนของการทำงานร่วมกันของทั้งภาครัฐ เอกชนและประชาชน เพื่อทำให้ศูนย์คาดการณ์อนาคตกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการมองเห็นภาพอนาคต และกำหนดทิศทางการพัฒนาของประเทศไทยอย่างถูกต้องต่อไป

ทั้งนี้การสร้างภาพอนาคตทางยุทธศาสตร์ แล้วทำสิ่งที่อยู่เบื้องหลังของการเดินทางสู่เส้นทางที่วางไว้ จะต้องสร้างสิ่งแวดล้อมที่จำเป็นที่เหมาะสม เพื่อทำให้เป้าหมายนั้นเกิดขึ้นได้จริง นอกจากนี้ยังจะต้องมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง พร้อมบุคคลที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องในหลากหลายมิติ เพื่อกวาดหาสัญญาณทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญ

ทิศทางการฉายภาพแห่งอนาคตผ่าน Foresight Research

ด้าน ดร.ตฤณ ทวิธารานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ETDA กล่าวว่า จากการศึกษา Foresight Research ผ่าน 4 ประเด็น ได้แก่ ธุรกรรมดิจิทัล, ปัญญาประดิษฐ์, การพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล และอินเทอร์เน็ต พบว่า ในอีก 10 ปีข้างหน้านี้ ทุกประเด็นข้างต้น จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันอย่างแยกไม่ออก โดย ธุรกรรมดิจิทัล จะกลายเป็น “New Frontier of Barter Economy” หรือ พรมแดนใหม่ของการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจ ที่ทุกการทำธุรกรรมจะไม่มีข้อจำกัดในเรื่องสื่อกลาง เราสามารถแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ทางดิจิทัล (เช่น NFT หรือ Non-Fungible Token เป็นต้น) ได้อย่างอิสระ หรือการทำธุรกรรมที่เกิดขึ้นได้ในโลกเสมือนที่อาจจะคู่ขนานไปกับโลกแห่งความเป็นจริง นำไปสู่การกำหนดกฎระเบียบหรือแนวทางใหม่ที่เราไม่คุ้นเคย

Foresight Center

นอกจากนี้ ยังมีภาพอนาคตที่เราต้องจับตาเฝ้าระวัง เพื่อหาแนวทางป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น คือ “Backlash of e-Madness” หรือ การทำธุรกรรมโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ผ่านตัวกลางหรือพื้นที่ที่ยากต่อการตรวจสอบและผู้ประกอบการอาจต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงหนักขึ้นกว่าเดิมก็ได้ ขณะที่ ปัญญาประดิษฐ์ (หรือ AI) จะเข้ามาสร้างให้เกิดสมดุลในรูปแบบใหม่ ที่เรียกว่า “Micro Intelligence for Everyone” ที่การใช้งานจะไม่กระจุกตัวอยู่ที่หน่วยงานหรือองค์กร แต่จะขยายไปสู่ระดับบุคคลด้วย และจะเกิด AI ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละองค์กรหรือผู้ใช้งานได้มากขึ้น (Customized AI) และจะกลายมาเป็นผู้ช่วยเราได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เช่น ช่วยสื่อสารข้อมูลตามข้อเท็จจริง และช่วยในการตัดสินใจ เป็นต้น

เนื่องจากในอนาคต AI จะก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์ จนทำงานแทนมนุษย์ได้เกือบทุกด้าน ทำให้บทบาทของมนุษย์อาจถูกลดทอนและมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกแทนที่ด้วย AI อย่างเต็มรูปแบบ จนอาจส่งผลให้มนุษย์เกิดการเรียนรู้น้อยลง และในที่สุดอาจจะถูกครอบงำโดย AI ได้ หรือที่เรียกว่า “Big Brain Colonization” สำหรับในประเด็น การพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล จะทำให้พวกเราก้าวสู่โลกดิจิทัล มีตัวตนบนโลกเสมือน ที่เชื่อมโยงตัวตนบนโลกแห่งความเป็นจริง โดยที่ไม่มีใครสามารถสวมรอยเป็นเราได้ หรือที่เรียกว่า “All of Us Are Digitized”

แต่ในขณะเดียวกัน ในโลกเสมือนทุกคนสามารถกำหนดเพศ ศาสนา ตลอดจนความเชื่อในเชิงจริยธรรมเองได้ การรับมือกับปัญหานี้ อาจต้องมีการกำหนดแนวทาง รวมถึงกฎระเบียบที่เหมาะสมและรัดกุมมากขึ้น เพื่อสร้างความน่าเชื่อและความปลอดภัยในการมีตัวตนบนโลกดิจิทัล ลดอัตราการเกิด “Battle of My Identity” หรือตัวตน ‘อวตาร’ ที่นำไปใช้ในการก่อเหตุในโลกออนไลน์และยากต่อการติดตาม

นอกจากนี้ ในประเด็นของอินเทอร์เน็ต ก็เป็นเรื่องที่จะช่วยส่งเสริม Digital Ecosystem ในประเทศไทย โดยในอนาคตอินเทอร์เน็ตจะเป็นบริการขั้นพื้นฐานที่รัฐจัดสรรให้ประชาชนได้ใช้อย่างมีคุณภาพและครอบคลุม ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ และทำให้เกิดกิจกรรมบางอย่างที่สามารถทำได้ง่ายขึ้นผ่านทางอินเทอร์เน็ต เช่น การผ่าตัดทางไกลโดยใช้คนควบคุม เป็นต้น

ขณะที่ปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวังในเรื่องนี้ คือ อนาคตเราอาจพบข้อมูลมหาศาลในโลกอินเทอร์เน็ตที่อาจทำให้การตรวจสอบและการคัดกรองเป็นไปได้ยาก อาจมีการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ การหลอกลวงและภัยคุกคามทางไซเบอร์ จนอาจขยายเป็นภัยที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง หรือที่เรียกว่า “Algorithmic Dystopia” เป็นต้น

Foresight Research ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจอีกมากที่พร้อมให้ทุกคนได้เข้าไปศึกษา และเรียนรู้ สำหรับประชาชนท่านใดที่สนใจผลการศึกษา Foresight Research ฉบับเต็ม สามารถติดตามรายละเอียดการดาวน์โหลดได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก ETDA Thailand (https://www.facebook.com/ETDA.Thailand) หรือ ที่เว็บไซต์ ETDA.or.th

Related Posts