NIA ชูนโยบาย ปั้นไทยให้กลายเป็น ประเทศแห่งนวัตกรรม

NIA ชูนโยบาย ปั้นไทยให้กลายเป็น ประเทศแห่งนวัตกรรม

ประเทศแห่งนวัตกรรม

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ประกาศแผนยุทธศาสตร์พลิกโฉมประเทศไทยเป็น ประเทศแห่งนวัตกรรม ให้สื่อต่างชาติในไทยได้รับฟัง พร้อมเผยแนวโน้มธุรกิจและการลงทุนในประเทศไทย และแสดงความพร้อมของหน่วยงานในการจัดงาน Startup x Innovation Thailand Expo 2022 (SITE 2022) โดยงานนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด Reconnecting to the World ผสมผสาน Startup Thailand และ Innovation Thailand เข้าด้วยกัน เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถด้านนวัตกรรม และสร้างการรับรู้ถึงนวัตกรรมทั่วประเทศ ผู้เข้าร่วมสามารถเข้าร่วมได้ระหว่างวันที่ 23-25 ​​มิถุนายน 2565 ที่ https://site.nia.or.th/

ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เปิดเผยว่า “ในปี 2564 การใช้นวัตกรรมเพื่อเร่งพัฒนาประเทศมีความสำคัญมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจ สังคม และวิถีชีวิตที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้เกิดการหยุดชะงักของเทคโนโลยี เช่นเดียวกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ เช่น สังคมไร้เงินสด การประชุมออนไลน์ การทำงานจากที่บ้าน การแพทย์ทางไกล และวัคซีน การพัฒนา และแม้ว่าเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่เหล่านี้ เช่น Metaverse จะมีความจำเป็นต้องมีการพัฒนามากขึ้น แต่ก็คาดว่าจะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่น่าประหลาดใจในเศรษฐกิจและสังคม”

ประเทศแห่งนวัตกรรม

“เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมที่ตอบสนองต่อความท้าทายระดับโลกในขณะที่สร้างแบรนด์ของประเทศไทยเป็น ‘ประเทศแห่งนวัตกรรม’ NIA ได้ดำเนินการ 7 กลยุทธ์ ได้แก่ 1. เพิ่มขีดความสามารถขององค์กรตามนวัตกรรมที่สามารถอยู่รอดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันในระบบนวัตกรรม 2. สร้างและส่งเสริม ความสามารถของมนุษย์ในด้านนวัตกรรม 3. ใช้โครงสร้างพื้นฐานด้านนวัตกรรมและรับรองการเข้าถึงบริการด้านนวัตกรรม 4. ส่งเสริมโอกาสด้านนวัตกรรมและภูมิภาค 5. ปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบเพื่อลดขั้นตอนของนวัตกรรม

6. สร้างการยอมรับให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้ริเริ่มแนวหน้าของโลก 7. พลิกโฉมระบบนวัตกรรมเพื่อรับมือกับความท้าทายระดับโลก . การย้ายดังกล่าวยังเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่จะยกระดับตำแหน่งของประเทศไทยในดัชนีนวัตกรรมโลก จาก 43 อันดับแรกในปี 2564 เป็น 30 อันดับแรกภายในปี 2573 โดยภายในปี 2568 NIA ตั้งเป้าว่าจะมีบริษัทประมาณ 100 แห่งที่สามารถจดทะเบียนเป็นบริษัท DeepTech ได้ 60 บริษัท ซึ่งปัจจุบันเรามีศักยภาพที่ดี โดยมีเมืองชั้นนำอย่างกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ ที่จะเป็นเมืองสตาร์ทอัพและเทคโนโลยีของประเทศไทย ทำหน้าที่เป็นฐานปล่อยจรวดและแลนดิ้งแพดสำหรับสตาร์ทอัพระดับโลก” ดร.พันธุ์อาจ กล่าว

ในขณะเดียวกัน ดร.ธัญวัฒน์ เกษมสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมระดับโลก บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “โควิด-19 มีผลกระทบต่อธุรกิจบางส่วนของเรา ตัวอย่างเช่น ผู้คนจำนวนมากขึ้นรับประทานอาหารที่บ้าน ไลฟ์สไตล์ได้เปลี่ยนไปใช้ระบบส่งอาหารออนไลน์ แม้ว่าบริษัทจะให้ความสำคัญกับสุขภาพ มาตรฐานความปลอดภัย และการจัดการต้นทุนเพื่อเอาชนะวิกฤติ แต่ก็ยังมุ่งเน้นไปที่การลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เช่น ระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีเพื่อให้ทันกับแนวโน้มของตลาด ด้วยการใช้นวัตกรรมเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก กลยุทธ์ด้านนวัตกรรมของ Thai Union Group ประกอบด้วยสองแนวทางหลัก: 1.การวิจัยและพัฒนาโดยศูนย์นวัตกรรมของกลุ่มไทยยูเนี่ยน และ 2.การลงทุนในสตาร์ทอัพระดับโลกเพื่อสร้างระบบนิเวศด้านเทคโนโลยีอาหาร

ประเทศแห่งนวัตกรรม

นายองศา จรรยาประเสริฐ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาโครงการ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (MQDC) ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการวางผังเมืองเพื่อรองรับการเกิดขึ้นของเทรนด์ metaverse ว่า “MQDC มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนรัฐบาลและนโยบายของ NIA โดยได้เดินหน้าพลิกโฉมย่านสุขุมวิทใต้ (อ่อนนุช-บางนา) ให้กลายเป็นย่านนวัตกรรมใหม่ของกรุงเทพมหานคร เรารวบรวมผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกและผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่ เพื่อวางแผนโครงการต่างๆ จาก True Digital Park และ Cloud 11 เพื่อส่งเสริมชุมชนนักประดิษฐ์ที่เข้มแข็ง”

นายองศา กล่าวเสริมว่า “MQDC กำลังลงทุนอย่างมากในเทคโนโลยี Metaverse และ blockchain ในความพยายามของเราที่จะเชื่อมโยงโลกทางกายภาพและโลกเสมือนเข้าด้วยกัน การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของเราอย่างมากจากการทำงานเป็นการพักผ่อน ดังนั้นเราจึงต้องการสร้างโลกที่ผู้คนสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตได้อย่างราบรื่นไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหน”

“เพื่อส่งเสริมแผนพัฒนาตามนวัตกรรมต่อไป NIA จึงได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน Startup x Innovation Thailand Expo 2022 (SITE 2022) เพื่อจัดแสดงผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นนวัตกรรมที่โดดเด่น โดยจัดงานแบบไฮบริดที่รวบรวมสตาร์ทอัพชั้นนำ นักประดิษฐ์ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้บริหารธุรกิจ และนักลงทุนชั้นนำ เข้ามาให้ความรู้ภายใต้หัวข้อ “Reconnecting the World” ในระหว่างวันที่ 23-25 ​​มิถุนายน 2565” นพ.พันธ์อาจ กล่าวทิ้งท้าย

Related Posts