___noise___ 1000

กสทช. ยืนยัน!! กล่องทีวีอินเทอร์เน็ต ต้องดู บอลโลก ได้หมด ตามเจตนาที่ กสทช. ให้งบไป

บอลโลก

บอลโลก

สมาคมทีวีดิจิทัล นำโดย นายเดียว วรตั้งตระกูล ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่องวัน 31 ในฐานะเลขาธิการสมาคมทีวีดิจิทัล นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ ที่ปรึกษา บริษัท เนชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในฐานะกรรมการสมาคมทีวีดิจิทัล เข้ายื่นหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ให้วินิจฉัยกรณีมอบลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 เท่าเทียมหรือไม่ โดยมี พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข เลขานุการประจำประธาน กสทช. รับมอบ

หลังสำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (แห่งชาติ) ผ่าน กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ได้ให้เงินสนับสนุนค่าลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก (รอบสุดท้าย) จำนวน 600 ล้านบาทแก่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เพื่อนำไปเป็นเงินตั้งต้นในการดำเนินการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 (รอบสุดท้าย) จากกรุงโดฮา รัฐกาตาร์ โดยมีหลักการตามบันทึกข้อตกลง ที่ได้ระบุไว้ว่าให้จัดสรรการถ่ายทอดสดแก่ผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลอย่างเท่าเทียมและทั่วถึงทั้ง 64 คู่ตลอดการแข่งขัน

เนื่องด้วยการดำเนินการของการกีฬาแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับการจัดสรรการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกในครั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มต้นให้มีการประชุมเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 มีข้อพึงสังเกตุถึงความไม่ถูกต้องในการจัดสรรการถ่ายทอด

สมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) จึงเรียนมายังคณะกรรมการกสทช. เพื่อโปรดตรวจสอบ และวินิจฉัยว่าการจัดสรรในครังนี้มีความถูกต้องเป็นธรรมหรือไม่ ตามรายละเอียดดังนี้

1.การได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 600 ล้านบาท จากกองทุนกทปส. ซึ่งเป็นเงินที่ได้ส่งมอบมาจากผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์เพื่อเป็นเงินทุนในการสนับสนุน ส่งเสริม วิจัย และพัฒนาในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ นั่นหมายถึงผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ได้ร่วมสนับสนุนไปกับกิจกรรมนี้ด้วยเช่นกัน การจัดสรรแมทซ์ในการถ่ายทอดสดให้แก่ช่องต่างๆ ควรเป็นไปตามมติในการให้เงินสนับสนุนของ กสทช.ทั้ง 64 แมทช์ (แบ่งสิทธิประโยชน์ตามสัดส่วนของการสนับสนุน คือติเป็น 40% ของงบประมาณการซื้อลิขสิทธิ์ 1,400 ล้านบาท)ไม่ใช่เพียง 32 แมทช์ และได้รับหลังจากที่ผู้สนับสนุนหลัก(กลุ่มทรู ซึ่งมีธุรกิจเป็นช่องทีวีดิจิตอลด้วย)ได้เลือกแมทช์สำคัญไปแล้ว ซึ่งสะท้อนถึงความไม่ทั่วถึงและไม่เท่าเทียมอย่างมาก

2.ช่องทีวีดิจิทัล ได้รับการจัดสรรลิขสิทธิ์เพียง 32 แมตช์ ซึ่งเป็นแมทช์ที่เหลือจากที่กลุ่มทรู เป็นสัดส่วนที่ไม่เป็นธรรม และผิดต่อหลักการ “ทั่วถึง เท่าเทียม เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ” เอื้อประโยชน์กับเอกชนรายใดรายหนึ่งอย่างชัดเจน

3.การกีฬาแห่งประเทศไทย มีการจัดสรรการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2565 ตั้งแต่เวลา 10.00 -16.00 น. โดยให้สิทธิ์แก่กลุ่มทรูที่เป็นผู้สนับสนุนหลักเลือกแมทช์ต่าง ๆ ก่อนแบ่งส่วนที่เหลือจากการเลือก 32 แมตช์ให้แก่กลุ่มผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ทั้ง 21 ช่องที่ร่วมถ่ายทอด

โดยทั้งนี้สมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) และสมาชิกช่องสถานี ได้ทักท้วงหลายครั้งต่อกกท. ในหลักการที่ไม่สอดคล้องกับมติ “ทั่วถึง เท่าเทียม เป็นธรรม และไม่เลือกปฏิบัติ” ของ กสทช. แต่ทางกกท.ก็ยังยืนยันที่จะดำเนินการต่อไป ในการนี้ทางสมาคมฯจึงเรียนมายังคณะกรรมการกสทช. เพื่อยืนยันว่าการที่สถานีโทรทัศน์ดิจิทัลข่องสมาชิก 13 ช่องที่เสนอรับสิทธิ์ร่วมถ่ายทอด ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของ กกท. ซึ่งขัดต่อหลักการ “ทั่วถึง เท่าเทียม เป็นธรรม และไม่เลือกปฏิบัติ” แต่ได้จำยอมร่วมจับฉลากไปในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2565 นั้น เหตุเพราะคำนึงถึงผลกระทบต่อผู้ชมฟุตบอลโลก ที่จะมีการถ่ายทอดสดคู่แรก ในวันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน 2565 เวลา 23.00 น. ให้สามารถดำเนินไปได้ก่อน และได้แจ้งต่อที่ประชุมของ กกท. อย่างชัดเจนแล้ว

การจับฉลากครั้งนี้สมาคมฯไม่ถือเป็นการยอมรับในหลักการและวิธีการของ กกท. ขอสงวนสิทธิ์ในการทักท้วงไม่เห็นด้วยในการจัดสรรการถ่ายทอดของ กกท. โดยเรียนมายังคณะกรรมการกสทช. เพื่อวินิจฉัยว่า การจัดสรรสิทธิการถ่ายทอดสดของกกท. เป็นไปโดยชอบ และขัดกับหลักการ “ทั่วถึง เท่าเทียม เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ”ของ กสทช.หรือไม่อย่างไร

นอกจากนี้ สื่อมวลชนยังได้สอบถามถึงการที่ทรูส่งจม. แจ้งผู้ประกอบการ IP TV ว่า กล่องทีวีอินเทอร์เน็ต หรือ IP TV ไม่สามารถดูได้นั้น กสทช มีความเห็นว่าอย่างไร ด้าน พ.ต.อ.ประเวศน์ ให้คำตอบชัดเจน “ปกติก็ต้องดูได้หมด ตามเจตนาที่ กสทช ให้งบไป ก็เพื่อให้ได้ชมทุกช่องทาง ปกติก็ต้องไม่บังคับ ต้องฟรีทุกช่องทาง” ซึ่งสอดคล้องกับที่ คุณไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช. เคยกล่าวว่าที่ประชุม กสทช. โดยกรรมการเสียงข้างมาก มีมติ “อนุมัติ” สนับสนุนเงินงบประมาณให้ กกท. เพื่อการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2022 ตามจำนวนค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง

แต่ทั้งนี้ภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณ 600 ล้านบาท โดยเป็นเงินงบประมาณจาก กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กองทุน กทปส.) ซึ่งการสนับสนุนงบประมาณเพื่อถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ทั้ง 64 แมทช์ ที่ประชุม กสทช. ได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้วเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าว เป็นการดำเนินการเพื่อให้ประชาชนได้รับบริการด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม อย่างทั่วถึง ตามมาตรา 52 (1) แห่ง พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ. 2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งเป็นการดำเนินการเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของคนพิการและคนด้อยโอกาสให้เข้าถึงหรือรับรู้และใช้ประโยชน์จากรายการของกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ได้อย่างเสมอภาคกับบุคคลทั่วไป ตามมาตรา 36 และมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ. ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ซึ่ง กสทช. สามารถดำเนินการได้ และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของกองทุน กทปส.

อีกทั้งการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย (FIFA World Cup Final) เป็น 1 ใน 7 รายการกีฬา ที่ กสทช. กำหนดไว้ในประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะในบริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2555 (Must Have) ที่กำหนดให้รับชมผ่านช่องทางฟรีทีวี กสทช. โดยกรรมการเสียงข้างมาก อนุมัติเงินจากกองทุน กทปส. 600 ล้านบาท (รวมภาษีและอากรอื่นใด) เพื่อให้คนไทยทุกคนสามารถรับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ทั้ง 64 แมทช์ ผ่านฟรีทีวีทุกแพลตฟอร์ม เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของคนพิการ ผู้มีรายได้น้อย และคนด้อยโอกาสให้เข้าถึงหรือรับรู้และใช้ประโยชน์จากรายการของกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ได้อย่างเสมอภาคกับบุคคลทั่วไป

banner Sample

Related Posts