ไมโครซอฟท์ ได้ประกาศการลงทุนสร้างศูนย์ข้อมูลครั้งสำคัญ เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านคลาวด์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในประเทศไทย พร้อมฝึกอบรมทักษะ AI ให้กับคนไทยกว่า 100,000 คน และสนับสนุนชุมชนนักพัฒนาที่กำลังเติบโตของประเทศ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีในระดับภูมิภาค

• – NT ร่วมมือกับสถาบันคลังสมองของชาติ นำประโยชน์เทคโนโลยี 5G มาใช้ในการพัฒนาประเทศ
• – จับตาเทคโนโลยี FTTR หัวเว่ย ยกระดับเน็ตบ้าน Ultra-Gigabit

พันธกิจนี้สอดคล้องกับบันทึกความเข้าใจ (MoU) ระหว่างไมโครซอฟท์และรัฐบาลไทย โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการสร้างอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ เพื่อยกระดับประเทศสู่ความเป็นดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ

คุณสัตยา นาเดลลา ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไมโครซอฟท์ ให้รายละเอียดการลงทุนดังกล่าวต่อหน้าผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ ผู้นำธุรกิจ และผู้นำด้านเทคโนโลยีกว่า 2,000 คนในงาน Microsoft Build: AI Day ที่จัดขึ้นในกรุงเทพฯ โดยมีนายกรัฐมนตรีไทย พลเอก เสร็จฐา ทวีสิน เข้าร่วมพิธีเปิดงานด้วย

“นโยบาย ‘จุดประกายไทยแลนด์ 2030’ (Ignite Thailand) ของเรามุ่งเน้นเสริมสร้างสถานะของประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาค ต่อยอดศักยภาพด้านนวัตกรรมและการวิจัยและพัฒนา พร้อมกับสร้างบุคลากรด้านเทคโนโลยี” พลเอก เสร็จฐา ทวีสิน กล่าว “ความร่วมมือกับไมโครซอฟท์ถือเป็นก้าวสำคัญในวิสัยทัศน์นี้ และพร้อมจะสร้างโอกาสใหม่ ๆ สำหรับการเติบโต นวัตกรรม และความเจริญรุ่งเรืองให้กับคนไทยทุกคน”

“ประเทศไทยมีโอกาสพิเศษในการสร้างอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วย AI” สัตยา นาเดลลา กล่าว “ศูนย์ข้อมูลใหม่ของเรา รวมถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคลาวด์และ AI ตลอดจนการฝึกอบรมด้าน AI ล้วนเป็นการต่อยอดความมุ่งมั่นที่มีมายาวนานของเราต่อประเทศไทย เราจะช่วยให้องค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนสร้างผลลัพธ์และเติบโตไปอีกขั้น”

คุณธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เสริมว่า “ไมโครซอฟท์ทุ่มเทเพื่อช่วยให้ประเทศไทยบรรลุศักยภาพในฐานะผู้นำเศรษฐกิจดิจิทัล สร้างหลักประกันความพร้อมของเทคโนโลยีคลาวด์และ AI เพื่อตอบสนองความต้องการที่เติบโตสูง พร้อมกับมุ่งสร้างความเจริญรุ่งเรืองและความยั่งยืนให้กับทุกภาคส่วนในไทย”

ขยายศักยภาพเพื่ออนาคตยุค AI

ศูนย์ข้อมูลของไมโครซอฟท์ที่จะตั้งขึ้นในประเทศไทยจะเพิ่มความพร้อมของบริการคลาวด์ระดับไฮเปอร์สเกลของไมโครซอฟท์ ช่วยให้องค์กรขนาดใหญ่ ธุรกิจในท้องถิ่น และหน่วยงานภาครัฐ ได้รับประโยชน์จากความน่าเชื่อถือ สมรรถนะ และการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านถิ่นที่อยู่ของข้อมูลและความเป็นส่วนตัว

ความร่วมมือนี้เกิดขึ้นตามความต้องการการใช้งานคลาวด์คอมพิวติ้งที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในไทย และยังช่วยให้ประเทศไทยพร้อมรับประโยชน์จากโอกาสทางเศรษฐกิจ และการเพิ่มประสิทธิภาพจากนวัตกรรม AI ล่าสุด

ผลการวิจัยของ Kearney พบว่า AI สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ถึงเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2573 โดยประเทศไทยจะได้รับผลประโยชน์ราว 117 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

สร้างบุคลากร AI ที่พร้อมสำหรับอนาคต

นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ได้ประกาศแผนที่จะให้การฝึกอบรมด้าน AI แก่ประชาชนในประเทศสมาชิกอาเซียน 2.5 ล้านคนภายในปี 2025 สำหรับประเทศไทย คาดว่าจะมีผู้ได้รับประโยชน์จากการฝึกอบรมนี้กว่า 100,000 คน

โดยความร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงแรงงาน และสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานด้านเทคโนโลยี ไมโครซอฟ์ริเริ่มโครงการ ‘เพิ่มทักษะ AI เพื่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว’ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาผู้ประกอบการรุ่นใหม่และเยาวชนที่ทำงานในภาคการท่องเที่ยวให้มีความสามารถด้าน AI ที่สูงขึ้น

สนับสนุนนักพัฒนาในประเทศไทย

ไมโครซอฟท์จะจัดหลักสูตร ‘AI Odyssey’ ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ชาวไทยกว่า 6,000 คนสามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน AI นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังให้การสนับสนุนแพลตฟอร์ม GitHub ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทย ซึ่งมีนักพัฒนาในไทยใช้งาน GitHub ในปี 2566 มากกว่า 900,000 คน เติบโต 24% จากปีก่อนหน้า

สรุปให้อ่านง่ายใน 3 ย่อหน้า

การลงทุนอันสำคัญของไมโครซอฟท์ที่จะสร้างศูนย์ข้อมูลใหม่ในประเทศไทยนั้น สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศด้านเศรษฐกิจดิจิทัล ศูนย์ข้อมูลนี้จะมอบบริการคลาวด์ที่ปลอดภัย ประสิทธิภาพสูง และตรงตามข้อกำหนดให้กับทุกภาคส่วนในประเทศไทย พร้อมเป็นรากฐานสำคัญในการนำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้อย่างแพร่หลาย

ยิ่งไปกว่านั้น ความร่วมมือในการฝึกอบรมทักษะ AI จะมีส่วนสำคัญยิ่งในการสร้างบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ ช่วยลดช่องว่างด้านทักษะดิจิทัล และผลักดันให้เกิดการนำ AI มาใช้อย่างสร้างสรรค์ในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นภาคการท่องเที่ยว การเงิน การผลิต หรือแม้กระทั่งการดูแลสุขภาพ

นอกจากนี้ การสนับสนุนนักพัฒนาในประเทศไทย จะเป็นพลังสำคัญในการเสริมสร้างระบบนิเวศทางเทคโนโลยีให้แข็งแกร่ง ซึ่งจะนำไปสู่นวัตกรรมที่จะขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยในระยะยาว

โครงการทั้งหมดนี้ล้วนสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “จุดประกายไทยแลนด์ 2030” ของรัฐบาลไทย เพื่อยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัล นำประเทศสู่ความเจริญรุ่งเรือง ผ่านการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม การร่วมมือกับไมโครซอฟท์จะเป็นตัวเร่งสำคัญในการบรรลุเป้าหมายนั้น และตอกย้ำความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีในเวทีภูมิภาคและระดับโลก