“ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล” หรือ MINT ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้วยรายได้จากการดำเนินงาน 44,600 ล้านบาท เติบโต 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหนุนสำคัญจากธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารที่ฟื้นตัวแข็งแกร่งตามการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคัก
- – เจ้าสัว แต่งตั้ง YLF Marketing ขยายตลาดสิงคโปร์-มาเลเซีย-บรูไน
- – KCG ทุ่ม 217 ล้าน ขยายอาณาจักรเนย เพิ่มกำลังการผลิต รับดีมานด์พุ่ง
ธุรกิจโรงแรมมีผลงานโดดเด่น อานิสงส์จากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องและราคาห้องพักเฉลี่ยที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะในยุโรปและไทย บวกกับการเปิดโรงแรมใหม่ ขณะที่ธุรกิจร้านอาหารก็มีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในไทยและสิงคโปร์ จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ แคมเปญทางการตลาด และการขยายสาขา
กำไร Core EBITDA โต 8% แตะ 1.3 หมื่นล้าน
กำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษี และค่าเสื่อม (Core EBITDA) ในไตรมาส 2 อยู่ที่ 13,234 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อน โดยมีการบริหารจัดการต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ทั้งในส่วนของธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และสำนักงาน ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนกำไร แม้จะมีผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่เอื้ออำนวย
กำไรสุทธิ 3.2 พันล้านบาท โต 8%
ส่งผลให้ MINT มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 3,230 ล้านบาทในไตรมาส 2 เติบโต 8% จากปีก่อน หากไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน กำไรสุทธิจะเติบโตได้ถึงกว่า 30%
ครึ่งปีแรกฟอร์มแจ่ม รายได้ทะลุ 8.2 หมื่นล้าน
สำหรับผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 MINT มีรายได้จากการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง 12% แตะ 82,248 ล้านบาท EBITDA เติบโต 13% มาอยู่ที่ 21,587 ล้านบาท และกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 22% เป็น 2,878 ล้านบาท สะท้อนการเติบโตแข็งแกร่งของทั้งธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร
ธุรกิจร้านอาหารขยายสาขาต่อเนื่อง
ณ สิ้นไตรมาส 2/67 MINT มีสาขาร้านอาหารรวม 2,655 สาขา เพิ่มขึ้น 13 สาขาจากไตรมาสก่อน โดยส่วนใหญ่เป็นร้านสเวนเซ่นส์ แดรี่ควีน และกาก้าในไทย โดยในไตรมาส 2 มียอดขายต่อสาขาเดิม (Same-Store Sales) ลดลง 2.8% จากปีก่อน แต่ยอดขายรวมทุกสาขา (Total System Sales) เติบโต 2.5% จากปีก่อน
ธุรกิจโรงแรมเดินหน้าเปิดโรงแรมใหม่
ในไตรมาส 2 มีการเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง และปิดโรงแรม 6 แห่ง ทำให้ ณ สิ้นไตรมาส 2 MINT มีโรงแรมที่ลงทุนเอง 371 แห่ง และรับจ้างบริหารอีก 184 แห่ง รวม 80,547 ห้อง ครอบคลุม 57 ประเทศทั่วโลก
RevPar โต 12% สูงกว่ายุคก่อนโควิด
รายได้เฉลี่ยต่อห้องพักต่อคืน (RevPar) ของโรงแรมทั้งหมดในไตรมาส 2 เติบโต 12% จากปีก่อน และสูงกว่าระดับก่อนโควิดถึง 48% โดยมีปัจจัยหนุนจากอุปสงค์การเดินทางที่แข็งแกร่งและราคาห้องพักเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในยุโรป ลาตินอเมริกา และไทย
เดินหน้ายกระดับแบรนด์-ขยายฐานลูกค้า
MINT ยังคงมุ่งมั่นเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์โรงแรมผ่านกลยุทธ์การยกระดับแบรนด์ (Brand Elevation) โดยนำเสนอประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของลูกค้าแต่ละกลุ่ม พร้อมทั้งขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ๆ และเพิ่มประสิทธิภาพช่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อเพิ่มจำนวนผู้เข้าพักและรักษาลูกค้าเดิม
แนวโน้มครึ่งปีหลังสดใส
MINTมองแนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลังเป็นบวก โดยธุรกิจโรงแรมในยุโรปและไทยมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกิจร้านอาหารในไทยก็มีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เพิ่มสาขา และสร้างความแข็งแกร่งด้านดิจิทัล เพื่อเพิ่มยอดขายและรักษาลูกค้า
#MINT #ผลประกอบการ #ท่องเที่ยว #โรงแรม #ร้านอาหาร #TheReporterAsia #ธุรกิจ #การเงิน #การลงทุน #ท่องเที่ยว #อาหาร