ค่าครองชีพ คนไทย พุ่ง! อาหาร Delivery มาแรงแซงค่าเดินทาง

ค่าครองชีพ คนไทย พุ่ง! อาหาร Delivery มาแรงแซงค่าเดินทาง

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยข้อมูลค่าใช้จ่ายของครัวเรือนไทยประจำเดือนสิงหาคม 2567 พบว่า ค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยต่อครัวเรือนอยู่ที่ 18,293 บาท โดยแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายในหมวดสินค้าที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์สูงถึง 58.06% ขณะที่หมวดอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์อยู่ที่ 41.94% สะท้อนให้เห็นถึงภาระ ค่าครองชีพ ที่เพิ่มสูงขึ้นของประชาชน โดยเฉพาะในหมวดสินค้าที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม

เมื่อพิจารณาในรายละเอียดของหมวดสินค้าที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ พบว่า ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ยังคงเป็นค่าโดยสารสาธารณะ ค่าซื้อยานพาหนะ และค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 23.20% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด ตามมาด้วยค่าเช่าบ้าน ค่าวัสดุก่อสร้าง และค่าไฟฟ้า คิดเป็น 21.89% ขณะที่ค่าบริการโทรศัพท์มือถือ ค่าก๊าซหุงต้ม และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน มีสัดส่วน 5.39%

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจคือ ค่าใช้จ่ายสำหรับอาหารบริโภคในบ้านแบบ Delivery มีสัดส่วนสูงถึง 9.14% แซงหน้าค่าใช้จ่ายด้านการเดินทาง สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่นิยมความสะดวกสบาย และหันมาใช้บริการสั่งอาหารแบบเดลิเวอรีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการขยายตัวของแพลตฟอร์มบริการส่งอาหาร รวมถึงไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบของคนเมือง

“เนื้อสัตว์” ครองแชมป์ค่าใช้จ่ายสูงสุดในหมวดอาหาร

สำหรับหมวดอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์นั้น เนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ และสัตว์น้ำ ยังคงเป็นกลุ่มที่มีค่าใช้จ่ายสูงสุด คิดเป็น 8.98% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด รองลงมาคือ อาหารบริโภคนอกบ้าน (ข้าวราดแกง อาหารตามสั่ง ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด) 6.98% และผักและผลไม้ 6.10% ตามลำดับ

วิเคราะห์เชิงลึก: ปัจจัยขับเคลื่อนและผลกระทบ

จากข้อมูลข้างต้น สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มและปัจจัยสำคัญหลายประการที่มีอิทธิพลต่อค่าครองชีพของครัวเรือนไทยในปัจจุบัน ได้แก่

  • ราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ยังทรงตัวในระดับสูง ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตและราคาสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะในหมวดสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร
  • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ส่งผลให้ภาระหนี้สินของครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น
  • พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลง หันมาใช้บริการออนไลน์และเดลิเวอรีมากขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากสัดส่วนค่าใช้จ่ายในหมวดดังกล่าวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

แนวโน้มค่าครองชีพที่สูงขึ้น ย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง ทั้งในด้านกำลังซื้อของผู้บริโภค การขยายตัวทางเศรษฐกิจ และเสถียรภาพทางการเงิน ดังนี้

  • ลดทอนกำลังซื้อของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย อาจส่งผลให้เกิดการชะลอตัวของการบริโภคภาคเอกชน
  • เพิ่มแรงกดดันต่อผู้ประกอบการ ในการปรับขึ้นราคาสินค้า ซึ่งอาจกระทบต่อยอดขายและความสามารถในการแข่งขัน
  • เสี่ยงต่อปัญหาหนี้สินครัวเรือน ที่อาจเพิ่มสูงขึ้น หากประชาชนไม่สามารถบริหารจัดการรายได้และค่าใช้จ่ายได้อย่างเหมาะสม

ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย

ภาครัฐควรมีมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบ และช่วยเหลือประชาชนในการรับมือกับ ค่าครองชีพ ที่สูงขึ้น เช่น

  • มาตรการควบคุมราคาสินค้า โดยเฉพาะสินค้าจำเป็น
  • ส่งเสริมการแข่งขันในตลาด เพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น
  • ให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ผ่านโครงการต่างๆ เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
  • ส่งเสริมการออม และการวางแผนการเงิน เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงินให้กับประชาชน

ทั้งนี้ ข้อมูลค่าใช้จ่ายของครัวเรือน เป็นเครื่องสะท้อนสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่สำคัญ ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรนำข้อมูลไปใช้วิเคราะห์และกำหนดนโยบาย เพื่อลดผลกระทบ และสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้กับประเทศในระยะยาว

#ค่าครองชีพ #เศรษฐกิจไทย #เงินเฟ้อ #พฤติกรรมผู้บริโภค #TheReporterAsia

Related Posts