ครม. ผ่อนปรนให้ชาวบ้านใน ที่ดินรัฐ เข้าถึงไฟฟ้า-ประปา นำร่อง 2 จังหวัด

ครม. ผ่อนปรนให้ชาวบ้านใน ที่ดินรัฐ เข้าถึงไฟฟ้า-ประปา นำร่อง 2 จังหวัด

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย –คณะรัฐมนตรีเห็นชอบผ่อนผันมติเดิม ช่วยเหลือประชาชนที่อาศัยใน ที่ดินรัฐ ให้เข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ไฟฟ้า-ประปา นำร่องจังหวัดกาญจนบุรีและแม่ฮ่องสอน เร่งพิสูจน์สิทธิครอบครองที่ดิน แก้ปัญหาความเดือดร้อน ยกระดับคุณภาพชีวิต

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) เสนอ ผ่อนปรน มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2546 เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่อยู่อาศัยในเขตที่ดินของรัฐให้เข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานต่างๆ เช่น ไฟฟ้า ประปา โดยมีพื้นที่นำร่อง คือ จังหวัดกาญจนบุรีและแม่ฮ่องสอน

แบ่งกลุ่มเป้าหมาย 2 กลุ่ม

  • กลุ่มเป้าหมายที่ 1 ประชาชนที่ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิในที่ดิน หรือ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 กลุ่มนี้จะได้รับการพิจารณาผ่อนผันก่อนเป็นลำดับแรก

  • กลุ่มเป้าหมายที่ 2 ประชาชนที่ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐประเภทอื่นๆ จะได้รับการพิจารณาผ่อนผันตามเหตุผลและความจำเป็น เป็นรายกรณี โดยไม่ขัดหรือแย้งกับมาตรการการบุกรุกที่ดินของรัฐ มาตรการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยและทำกิน และการใช้ประโยชน์ตามภารกิจของหน่วยงานของรัฐนั้นๆ

เร่งพิสูจน์สิทธิครอบครองที่ดิน

นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรียังเห็นชอบให้คณะอนุกรรมการพิสูจน์สิทธิในที่ดินของรัฐจังหวัด (คพร.จังหวัด) กาญจนบุรีและแม่ฮ่องสอน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบ รวบรวม ข้อมูลข้อเท็จจริง เพื่อเร่งรัด การพิสูจน์สิทธิ ในที่ดินให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี หากมีเหตุผลความจำเป็นให้ สคทช. ประสานกำหนดแผนการดำเนินการเพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเสนอสำนักงบประมาณ (สงป.) พิจารณาต่อไป

ดำเนินการตามมติ ครม. เดิม

การดำเนินการในครั้งนี้ เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2567 และ 12 มีนาคม 2567 ที่มอบหมายให้ สคทช. เร่งพิจารณาขอผ่อนผันการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2546 (ประชาชนผู้ได้รับทะเบียนบ้านชั่วคราวมาขออนุญาตใช้บริการไฟฟ้าและน้ำประปาจะอนุญาตได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากหน่วยงานของรัฐเจ้าของที่ดิน) เพื่อให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในที่ดินของรัฐโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงผู้ที่อยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิสามารถเข้าถึงสาธารณูปโภคทั้งไฟฟ้าและน้ำประปาได้เป็นการชั่วคราวตามหลักสิทธิมนุษยชน โดยให้ดำเนินการนำร่องในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีและแม่ฮ่องสอน

กำหนดกลุ่มเป้าหมายชัดเจน

ในการประชุม ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ(คทช.) ได้กำหนดประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับการผ่อนผันการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2546 ให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้

กลุ่มที่ 1 ได้รับการผ่อนผัน

  • ประเภทที่ 1 ผู้ที่ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิในที่ดิน (ประมาณ 33,019 แปลง)
  • ประเภทที่ 2 ผู้ที่ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 (ประมาณ 5,582 ครัวเรือน)

กลุ่มนี้จะได้รับการผ่อนผันการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2546 เพื่อให้สามารถขออนุญาตใช้บริการไฟฟ้าและน้ำประปาได้ โดยไม่ต้องมีทะเบียนบ้านชั่วคราวหรือได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากหน่วยงานของรัฐเจ้าของที่ดิน

กลุ่มที่ 2 พิจารณาเป็นรายกรณี

  • ประชาชนที่ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐประเภทอื่นๆ นอกเหนือจากกลุ่มที่ 1 (ประมาณ 6,086 ครัวเรือน)

กลุ่มนี้จะได้รับการพิจารณาเหตุผลและความจำเป็นในการผ่อนผันการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2546 เพื่อให้สามารถขออนุญาตใช้บริการไฟฟ้าและน้ำประปาได้เป็นรายกรณี

ผ่อนคลายข้อกำหนด ที่ดินรัฐ ตามหลักมนุษยธรรม

การผ่อนผันมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2546 ในครั้งนี้ เป็นการผ่อนคลายข้อกำหนดในการขออนุญาตใช้บริการไฟฟ้าและน้ำประปาตามหลักมนุษยธรรม สำหรับประชาชนที่อยู่อาศัยในป่าประเภทต่างๆ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิการครอบครอง โดยลดเงื่อนไขที่ผู้ขออนุญาตจะต้องมีทะเบียนบ้านชั่วคราวหรือได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากหน่วยงานของรัฐเจ้าของที่ดิน ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ประชาชนที่อยู่อาศัยในเขตพื้นที่ให้บริการไฟฟ้า (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็นหน่วยงานรับผิดชอบ) หรือน้ำประปา (องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของแต่ละพื้นที่เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ)

การเข้าถึงสาธารณูปโภคขึ้นอยู่กับความพร้อมของหน่วยงาน

สำหรับการเข้าถึงระบบสาธารณูปโภคของประชาชนที่อยู่อาศัยนอกเขตพื้นที่ให้บริการไฟฟ้าหรือน้ำประปา ยังขึ้นอยู่กับความพร้อมของหน่วยงานที่รับผิดชอบการให้บริการสาธารณูปโภคดังกล่าว หรือความเหมาะสมคุ้มค่าในการลงทุนเพื่อขยายเขตบริการให้ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ เช่น การปักเสาไฟฟ้าเพื่อขยายเขตไฟฟ้า การวางท่อขยายเขตให้บริการน้ำประปา โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนที่มีลักษณะเป็นเชิงเขา

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นชอบ

กระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) พิจารณาแล้วเห็นชอบ/ไม่ขัดข้อง พร้อมมีความเห็นเพิ่มเติมบางประการ เช่น ควรผ่อนผันการขออนุญาตใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ (ทุกประเภท) เพื่อวางท่อส่งน้ำประปาและการขยายเขตระบบไฟฟ้า

หากมีกิจกรรมที่รบกวนระบบนิเวศต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน แก้ไขและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด เขตอุทยานและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ยังไม่สามารถก่อสร้างสิ่งสาธารณูปโภคใหม่ได้ในขณะนี้ เว้นแต่เป็นการบำรุงซ่อมแซมสิ่งก่อสร้าง ส่วนการขอทำประโยชน์ในเขตป่าไม้และป่าสงวนแห่งชาติให้ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

มุ่งแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยและทำกิน

การผ่อนผันมติ ครม. ในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยและทำกินในเขต ที่ดินรัฐ โดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน และความจำเป็นในการเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของประชาชน ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต และลดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการในพื้นที่นำร่องได้แล้วเสร็จภายในปี 2567 และจะขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ ต่อไป

#ที่ดินรัฐ #ไฟฟ้า #ประปา #กาญจนบุรี #แม่ฮ่องสอน #คุณภาพชีวิต #ลดความเหลื่อมล้ำ #เศรษฐกิจ #สังคม #การเมือง

Related Posts