กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – ดีลอยท์ เผยรายงานวิเคราะห์ตลาดหุ้น IPO ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยระบุว่าปี 2567 ตลาดอยู่ในภาวะซบเซาอย่างเห็นได้ชัด ระดมทุนได้เพียง 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นมูลค่าต่ำสุดในรอบ 9 ปี แม้จะมีบริษัทเสนอขายหุ้น IPO มากถึง 122 บริษัท โดยปัจจัยหลักมาจากการขาดการเสนอขายหุ้น IPO ขนาดใหญ่ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ความผันผวนของค่าเงิน ความแตกต่างของกฎระเบียบในแต่ละประเทศ และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการค้าและการลงทุน
- – เปิดผนึก สมุดปกขาว หอการค้าไทย – ญี่ปุ่น จากเวที AJBM #50
- – สภาหอการค้าไทย จับมือญี่ปุ่น จัดงาน “AJBM” ครั้งที่ 50
มาเลเซียผงาดนำตลาด ด้วยจำนวน IPO สูงสุดในภูมิภาคถึง 46 บริษัท ระดมทุนได้ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนถึง 50% ของมูลค่าการระดมทุนทั้งหมด และมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม 6.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยหมวดอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภคและทรัพยากรและพลังงานยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเสนอขายหุ้น IPO ของ Radium Development Berhad บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 335 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้มาเลเซียกลายเป็นตลาดที่น่าจับตามองสำหรับนักลงทุน
เท ฮวี ลิง ลีดเดอร์ ที่ปรึกษาด้านบัญชีและรายงานทางการเงิน ดีลอยท์ เซาท์อีสท์ เอเชีย กล่าวว่า “ตลาด IPO ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เผชิญกับความท้าทายสำคัญในปี 2567…บริษัทที่ต้องการเสนอขายหุ้นข้ามประเทศต้องพิจารณาถึงตลาด IPO ที่เป็นตัวแทนของการเติบโตของธุรกิจตนเอง”
สถานการณ์ IPO ในประเทศไทย มีจำนวน IPO 29 บริษัท ระดมทุนได้ 756 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น 26% ของมูลค่าการระดมทุนในภูมิภาค โดย วิลาสินี กฤษณามระ พาร์ทเนอร์ บริการสนับสนุนด้านบัญชีสำหรับรายการทางธุรกิจ ดีลอยท์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ในปี 2567 ภูมิทัศน์ของตลาดหลักทรัพย์ในประเทศไทย และการเสนอขายหุ้น IPO สะท้อนถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการเติบโตในระดับปานกลาง… อีกทั้งหน่วยงานกำกับดูแลยังได้เปิดตัวโครงการเพื่อเพิ่มความโปร่งใสของตลาดและสนับสนุนธุรกิจใหม่” ตัวอย่างเช่น การเสนอขายหุ้น IPO ของ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็น IPO ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยในปีนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนในธุรกิจประกันภัย
อินโดนีเซีย เผชิญภาวะถดถอยอย่างหนัก โดยมี IPO เพียง 39 บริษัท ระดมทุนได้ 368 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงจาก 79 บริษัท ระดมทุน 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2566 ซึ่ง จัสมิน มารานาน ที่ปรึกษาด้านตลาดทุน ประจำ ดีลอยท์ อินโดนีเซีย ระบุว่า เป็นผลมาจากความไม่แน่นอนที่ทวีความรุนแรงขึ้นจากปัจจัยลบของตลาดโลก และปี 2567 เป็นปีการเลือกตั้งในประเทศ ทำให้บริษัทขนาดเล็กเปิดตัวการเสนอขายหุ้น IPO ด้วยเป้าหมายการระดมทุนที่เน้นความมั่นคงมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังมี IPO ที่น่าสนใจ เช่น การเสนอขายหุ้น IPO ของ PT Pertamina Geothermal Energy Tbk บริษัทพลังงานความร้อนใต้พิภพ ซึ่งระดมทุนได้ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เวียดนาม มีเพียง 1 IPO ระดมทุนได้ 37 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในหมวดเทคโนโลยีทางการเงิน ซึ่งถือเป็นการระดมทุนครั้งแรกในหมวดนี้ของเวียดนาม และมีผลตอบแทนเหนือกว่าตลาดหุ้นเวียดนามตลอดทั้งปี 2566 และมากกว่ามูลค่าเฉลี่ยของ IPO ตั้งแต่ปี 2564-2566 ถึงประมาณ 5 เท่า โดย CUCI ซึ่งเป็นบริษัท Fintech ที่ให้บริการด้านสินเชื่อ ประสบความสำเร็จในการระดมทุน แม้ในสภาวะตลาดที่ซบเซา
สิงคโปร์ มี 4 IPOs ระดมทุนได้ 34 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถือว่า ยังคงทรงตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยมี IPO ที่โดดเด่น เช่น บริษัท Neuropixel ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ
แนวโน้มตลาดหุ้น IPO ในปี 2568 ดีลอยท์คาดการณ์ว่าจะฟื้นตัวขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง เงินเฟ้อที่ชะลอตัว และการบริโภคภายในประเทศที่แข็งแกร่ง
#IPO #ตลาดหุ้น #เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ #ดีลอยท์ #เศรษฐกิจ #มาเลเซีย #ไทย #อินโดนีเซีย #เวียดนาม #สิงคโปร์