กรุงเทพฯ, ประเทศไทย– สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยทิศทางการยกระดับอุตสาหกรรมไมซ์ปี 2568 มุ่งเน้นการพัฒนาแบรนด์ประเทศไทย ใช้นวัตกรรม เพิ่มการสร้างเครือข่าย และเน้นความยั่งยืน พร้อมดึงงานขนาดใหญ่ สร้างระบบนิเวศน์ไมซ์ไทย ตั้งเป้าหมายนักเดินทางไมซ์ 34 ล้านคน ทำรายได้ 2 แสนล้านบาท
- – DMT แต่งตั้ง “ทวันทว์” คุมทัพธุรกิจใหม่ เดินหน้าสู่พลังงานหมุนเวียน
- – ทีทีบี เดินหน้าสู่การธนาคารเพื่อความยั่งยืน ผ่านโครงการ “fai-fah for Communities”
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ ทีเส็บ กล่าวว่า สถานการณ์การเดินทางระหว่างประเทศกำลังฟื้นตัวหลังจากโควิด-19 ผลการดำเนินงานของอุตสาหกรรมไมซ์ไทยปี 2567 พบว่ามีนักเดินทางไมซ์นานาชาติเข้าไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 41.89 เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2566 เนื่องจากปัจจัยสนับสนุนสำคัญ ได้แก่ การเพิ่มขึ้นของเที่ยวบิน แนวโน้มการฟื้นตัวของการเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลก และมาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติของภาครัฐ
“รัฐบาลให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมไมซ์ และมีนโยบายสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง เช่น มาตรการยกเว้นวีซ่าให้แก่กลุ่มนักท่องเที่ยวในหลายประเทศ โดยเฉพาะวีซ่าถาวรแก่นักท่องเที่ยวจีน ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 รวมทั้ง Visa on Arrival แก่นักท่องเที่ยวหลายประเทศมากขึ้น เช่น อินเดีย และไต้หวัน” นายจิรุตถ์ กล่าว
แนวโน้มการขยายตัวของนักท่องเที่ยวไทยก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน จากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวระยะเร่งด่วน (Quick Win) มาตรการทางภาษีเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงนอกฤดูกาล และมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านงานเทศกาลและงานประจำปีในแต่ละจังหวัด
ผลการดำเนินงานอุตสาหกรรมไมซ์ปี 2567 (ตุลาคม 2566 – กันยายน 2567) มีจำนวนนักเดินทางไมซ์ 25,350,288 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 43.47 จากปี 2566 โดยเป็นนักเดินทางไมซ์ในประเทศ 24,189,719 คน และนักเดินทางไมซ์นานาชาติ 1,160,569 คน สร้างรายได้ 148,341 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 41.27 แบ่งเป็นรายได้จากนักเดินทางไมซ์ในประเทศ 78,747 ล้านบาท และรายได้จากนักเดินทางไมซ์นานาชาติ 69,594 ล้านบาท
ทิศทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ไทย ปี 2568:
- พัฒนาแบรนด์ประเทศไทย ให้เป็นจุดหมายปลายทางของการจัดงานไมซ์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มสูง (High Value-Added MICE Destination) โดยสอดแทรก Soft Power
- ใช้นวัตกรรมและองค์ความรู้ในการขับเคลื่อน
- สร้างภาคีเครือข่ายกับผู้ประกอบการ
- ผลักดันประเทศไทยสู่จุดหมายปลายทางของการจัดงานอย่างยั่งยืน
- ดึงงานขนาดใหญ่ที่สร้างผลลัพธ์เชิงบวก
- พัฒนาระบบนิเวศน์ (Ecosystem) อุตสาหกรรมไมซ์
ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดงานระดับนานาชาติขนาดใหญ่ในปี 2568:
- ViV Asia 2025: งานแสดงสินค้าด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี และสัมมนาสำหรับอุตสาหกรรมปศุสัตว์และสัตว์น้ำครบวงจร สำหรับภูมิภาคเอเชีย (12 – 14 มีนาคม 2568)
- International Diabetes Federation (IDF) World Diabetes Congress 2025: เป็นครั้งแรกที่การประชุมนี้จัดขึ้นในภูมิภาคอาเซียน (7 – 10 เมษายน 2568)
- Asia Pacific Life Insurance Congress (APLIC 2025): การสัมมนาตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงินแห่งเอเชียแปซิฟิก (27 – 29 พฤษภาคม 2568)
- THAIFEX-Anuga Asia 2025: งานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำของเอเชีย (27 – 31 พฤษภาคม 2568)
- Thailand Coffee Fest 2025: งานเทศกาลที่สนับสนุนวงการกาแฟไทย (กรกฎาคม 2568)
- Bangkok International Digital Content Festival 2025: งานเทศกาลด้านดิจิทัลคอนเทนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย (สิงหาคม 2568)
- IEEE PES GTD Grand International Conference and Exposition Asia Bangkok 2025: งานประชุมวิชาการสำหรับผู้ประกอบการด้านไฟฟ้าและพลังงานชั้นนำจากทั่วโลก (26 – 29 พฤศจิกายน 2568)
การเป็นเจ้าภาพงานระดับโลกจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทย พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สร้างภาพลักษณ์ที่ดี
เป้าหมายสิ้นปี 2568:
- นักเดินทางไมซ์ 34 ล้านคน ทำรายได้ 2 แสนล้านบาท
- ตลาดต่างประเทศ 1.4 ล้านคน รายได้ 9.2 หมื่นล้านบาท
- ตลาดในประเทศ 32.6 ล้านคน รายได้ 1.08 แสนล้านบาท
#ทีเส็บ #อุตสาหกรรมไมซ์ #เศรษฐกิจไทย #ท่องเที่ยวไมซ์ #MICE