ซีอีโอ Maven Clinic และหัวหน้าเจ้าหน้าที่ AI ของ Databricks ร่วมอภิปรายในงาน MWC25 ชี้ Generative AI มีศักยภาพปฏิวัติการดูแลสุขภาพและการเข้าถึงข้อมูล แต่ยังติดปัญหาเรื่องการใช้งานที่ยุ่งยาก แนะเร่งพัฒนาอินเทอร์เฟซให้ใช้งานง่ายขึ้น พร้อมรวมศูนย์ข้อมูล-ปรับแต่งให้เข้ากับบริบทผู้ใช้
ในงาน Mobile World Congress 2025 (MWC25) ณ เมืองบาร์เซโลนา ได้มีการอภิปรายที่น่าสนใจเกี่ยวกับอนาคตของเทคโนโลยี Generative AI (GenAI) โดยมีผู้บริหารระดับสูงจากสองบริษัทชั้นนำในวงการเทคโนโลยีและสุขภาพ คือ Kate Ryder ซีอีโอของ Maven Clinic บริษัทที่ให้บริการด้านสุขภาพเสมือนจริงสำหรับผู้หญิงและครอบครัว และ Naveen Rao หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่าย AI ของ Databricks บริษัทแพลตฟอร์มข้อมูลและการวิเคราะห์ มาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมอง
GenAI กับการปฏิวัติวงการแพทย์: โอกาสและความเป็นไปได้
Kate Ryder ซีอีโอของ Maven Clinic ได้ฉายภาพให้เห็นถึงศักยภาพของ Generative AI ในการพลิกโฉมการดูแลสุขภาพและการเข้าถึงข้อมูลทางการแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกา เธอชี้ว่าแม้ AI จะถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในการวินิจฉัยโรค การแพทย์ทางไกล (Telemedicine) และการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ แต่ GenAI จะเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้ข้อมูลและการสนับสนุนทางการแพทย์เข้าถึงได้ง่ายและเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น
“ลองนึกภาพว่าคุณเดินเข้าไปในโรงพยาบาลที่ไม่สามารถให้การดูแลตามอาการ (Evidence-Based Care) ในด้านสุขภาพสตรีได้ แต่คุณยังมีข้อมูลอยู่ในมือที่สามารถช่วยปกป้องคุณในสถานการณ์เหล่านั้น” Ryder กล่าว
Ryder ยังเปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า ผู้ป่วย Gen Z (กลุ่มคนที่เกิดในช่วงปลายทศวรรษ 1990 ถึงต้นทศวรรษ 2010) ราว 30% ค้นหาข้อมูลทางการแพทย์จากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง TikTok และ 80% ของข้อมูลเกี่ยวกับการเจริญพันธุ์บน TikTok นั้นมาจากผู้สร้างคอนเทนต์ที่ไม่มีคุณสมบัติทางการแพทย์ ซึ่งในยุคที่ข้อมูลผิดๆ แพร่หลายบนโลกออนไลน์ GenAI สามารถเข้ามามีบทบาทสำคัญในการกอบกู้ความถูกต้องของข้อมูลในอุตสาหกรรมที่ต้อง “สร้างความไว้วางใจกับผู้ป่วยอยู่ตลอดเวลา”
อุปสรรคและความท้าทาย: Generative AI ยังไปไม่ถึงไหน?
แม้จะเห็นพ้องถึงศักยภาพของ Generative AI แต่ Naveen Rao จาก Databricks กลับมองว่าการนำ Generative AI มาใช้ในวงกว้างยังคงไม่น่าประทับใจเท่าที่ควร แม้ว่าต้นทุนในการพัฒนาเทคโนโลยีจะลดลงอย่างมาก และมีโมเดลที่มีประสิทธิภาพสูงอย่าง DeepSeek เกิดขึ้น แต่ Rao ก็ยังไม่เห็น “การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ Generative AI จะเข้ามามีบทบาทในทุกที่”
Rao ชี้ว่าปัญหาหลักอยู่ที่ส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ (User Interface: UI) ที่ยังซับซ้อนและขาดความสามารถในการนำไปประยุกต์ใช้ในวงกว้าง “เราต้องการมากกว่าแค่แชตบอต แชตบอตเป็นวิธีทั่วไปในการแสดงความตั้งใจ ในภาษาของมนุษย์ ผมสามารถแสดงความตั้งใจใด ๆ ก็ได้ แต่มันยุ่งยากมาก”
หนทางสู่การใช้งานจริง: UI ที่ง่ายขึ้น, ข้อมูลรวมศูนย์, และการปรับแต่ง
Rao เสนอว่า การพัฒนาอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายขึ้น การรวมศูนย์ข้อมูล และการปรับแต่งการตอบสนองให้เข้ากับบริบทของผู้ใช้ในแต่ละอุปกรณ์ จะเป็นนวัตกรรมสำคัญที่นำไปสู่การนำ Generative AI มาใช้ในวงกว้าง
ทั้ง Rao และ Ryder เห็นตรงกันว่า การเติบโตของ Generative AI จะขึ้นอยู่กับการให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้ใช้เป็นหลัก เมื่อการแข่งขันในการนำ GenAI ไปใช้ในเชิงพาณิชย์ทวีความรุนแรงขึ้น
อนาคตของ Generative AI ในอุตสาหกรรมสุขภาพ
การอภิปรายในครั้งนี้ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพอันมหาศาลของ Generative AI ในการปฏิวัติวงการสุขภาพ ทั้งในแง่ของการเข้าถึงข้อมูล การวินิจฉัยโรค การรักษา และการดูแลผู้ป่วย อย่างไรก็ตาม การจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้นั้น ยังมีโจทย์สำคัญที่ต้องแก้ไข ทั้งในเรื่องของความถูกต้องของข้อมูล ความน่าเชื่อถือ และที่สำคัญที่สุดคือ การออกแบบประสบการณ์การใช้งานที่ง่ายและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้
#GenAI #AI #MWC25 #Healthcare #เทคโนโลยี #การแพทย์ #MavenClinic #Databricks #GenerativeAI