HID ผู้ให้บริการโซลูชันด้านความปลอดภัยระดับโลก เผยรายงาน “2025 State of Security and Identity” ชี้เทรนด์เทคโนโลยี Mobile Credentials, Biometrics, AI, และ Software-Centric Solutions กำลังมาแรง หนุนองค์กรเพิ่มประสิทธิภาพ-ลดเสี่ยงภัยคุกคาม แต่ยังต้องจับตาความท้าทายด้าน Integration, Cost, และ Trust in AI พร้อมแนะเร่งสร้างระบบ Security ที่ยืดหยุ่น-ทำงานร่วมกันได้-พร้อมรับนวัตกรรม
สิงคโปร์ – HID (เอชไอดี) ผู้ให้บริการโซลูชันด้านการระบุและยืนยันตัวตน รวมถึงโซลูชันด้านความปลอดภัยชั้นนำระดับโลก ซึ่งมีประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปี ได้เปิดเผยผลการศึกษาล่าสุดในรายงาน “2025 State of Security and Identity Report” ซึ่งเป็นการสำรวจความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมความปลอดภัยทั่วโลกกว่า 1,800 ราย ทั้งคู่ค้า (partners), ผู้ใช้งาน (end users), และบุคลากรด้านความปลอดภัยและไอที เพื่อฉายภาพแนวโน้มสำคัญที่จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมความปลอดภัยในปี 2568 และในอนาคต
รายงานฉบับนี้ได้ทำการสำรวจโดยส่งแบบสอบถามไปยังผู้รับจำนวนมากถึง 308,878 ราย มีอัตราตอบกลับที่ 0.58% ซึ่งคิดเป็นผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 1,802 ราย โดยในจำนวนนี้ แบ่งเป็นคู่ค้าของ HID จำนวน 851 ราย และผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการของ HID อีก 951 ราย
Mobile Credentials, Biometrics, AI: 3 เสาหลักความปลอดภัยยุคใหม่
ผลการศึกษาพบว่า องค์กรธุรกิจทั่วโลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการรักษาความปลอดภัย โดยมีเทคโนโลยีเกิดใหม่ (emerging technologies) เข้ามามีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Mobile Credentials (ข้อมูลประจำตัวบนมือถือ), Biometrics (การยืนยันตัวตนด้วยชีวมิติ), และ AI (ปัญญาประดิษฐ์) กำลังกลายเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านความปลอดภัย
- Mobile Credentials มาแรง: ผลสำรวจชี้ชัดว่า Mobile Credentials กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย 61% ของผู้นำด้านความปลอดภัยมองว่าเป็นเทรนด์สำคัญอันดับต้นๆ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการใช้งานจะเพิ่มขึ้น แต่ 84% ขององค์กรยังคงใช้ทั้ง Mobile Credentials และ Physical Credentials (เช่น บัตรพนักงาน) ควบคู่กันไป เพื่อความยืดหยุ่นในการใช้งานและเพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบต่างๆ
คุณ Prabhuraj Patil, Senior Director, Physical Access Control Solutions, Asean and India Subcontinent, HID กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า “Mobile Credentials กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเข้าถึงสถานที่ต่างๆ (Physical Access Control) มากขึ้นเรื่อยๆ แต่การเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบดิจิทัลเต็มรูปแบบยังต้องใช้เวลา องค์กรส่วนใหญ่ยังคงต้องรักษาระบบเดิมควบคู่ไปกับระบบใหม่ เพื่อให้มั่นใจได้ถึงความต่อเนื่องในการดำเนินงาน”
- Biometrics เติบโตใน MFA: เทคโนโลยี Biometrics ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการใช้งานร่วมกับการยืนยันตัวตนแบบหลายปัจจัย (Multi-Factor Authentication – MFA) ผลสำรวจพบว่า 73% ของผู้ตอบแบบสอบถามใช้ Biometrics เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ MFA และ 35% กำลังใช้เทคโนโลยี Biometrics อยู่แล้ว ขณะที่อีก 13% มีแผนที่จะนำมาใช้ในอนาคต
“เทคโนโลยี Biometrics เช่น การสแกนลายนิ้วมือ, การจดจำใบหน้า, และการสแกนม่านตา กำลังกลายเป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบ Access Control และกลยุทธ์การยืนยันตัวตน เพราะสามารถมอบวิธีการยืนยันตัวตนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง” คุณ Prabhuraj Patil กล่าวเสริม
- AI ขับเคลื่อนการวิเคราะห์-ตรวจจับภัยคุกคาม: AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการวิเคราะห์ข้อมูลและตรวจจับภัยคุกคามด้านความปลอดภัย ผลสำรวจพบว่า 64% ของผู้นำด้านความปลอดภัยกำลังใช้ AI อย่างกว้างขวาง ใช้ในพื้นที่จำกัด หรือมีแผนที่จะใช้โซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อวัตถุประสงค์ด้านความปลอดภัย
Unified Security Management และ Open Platforms: กุญแจสู่ความยืดหยุ่น
นอกเหนือจากเทคโนโลยีหลักทั้งสามแล้ว รายงานยังชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของ Unified Security Management (การจัดการความปลอดภัยแบบรวมศูนย์) และ Open Platforms (แพลตฟอร์มแบบเปิด)
ผลสำรวจพบว่า 67% ของผู้นำด้านความปลอดภัยกำลังดำเนินการเพื่อนำโซลูชันความปลอดภัยที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์มาใช้ โดย 73% ของลูกค้าของผู้ติดตั้งระบบและที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยก็กำลังเปลี่ยนไปใช้โซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์มากขึ้นเช่นกัน เนื่องจากต้องการความยืดหยุ่น, ความสามารถในการปรับขนาด (scalability), และการผสานรวมกับซอฟต์แวร์อื่นๆ ได้ง่ายขึ้น
ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยมากกว่าครึ่ง (50%) มองว่าโซลูชันแบบเปิดมีความสำคัญ “อย่างยิ่ง” หรือ “มาก” ต่อองค์กรของพวกเขา โดย 31% ระบุว่าแพลตฟอร์มแบบเปิดช่วยให้การผสานรวมกับโซลูชันของบริษัทอื่นง่ายขึ้น และ 30% กล่าวว่ามีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการอัปเกรดและขยายระบบ
ความท้าทายที่ต้องเผชิญ: Integration, Cost, Trust in AI
แม้ว่าแนวโน้มการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้จะเพิ่มขึ้น แต่รายงานของ HID ก็ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายที่องค์กรต่างๆ ต้องเผชิญ
- ความซับซ้อนในการผสานรวม (Integration Complexity): การผสานรวมระบบเก่า (legacy systems) เข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นความท้าทายสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) ที่ 41% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าเป็นหนึ่งในสามความท้าทายอันดับต้นๆ
- ข้อจำกัดด้านต้นทุน (Cost Constraints): ต้นทุนในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาค APAC ที่ 41% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าเป็นหนึ่งในสามความท้าทายอันดับต้นๆ
- ความไว้วางใจใน AI (Trust in AI): ความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย, ความเป็นส่วนตัว, ความน่าเชื่อถือ, ความถูกต้อง, และความโปร่งใสในการตัดสินใจของ AI เป็นอุปสรรคสำคัญในการนำ AI มาใช้ โดย 41% ของผู้นำด้านความปลอดภัยทั่วโลกแสดงความกังวลเกี่ยวกับประเด็นเหล่านี้
Channel Transformation และ Sustainability: อีกสองเทรนด์ที่ไม่ควรมองข้าม
รายงานของ HID ยังได้กล่าวถึงอีกสองแนวโน้มสำคัญที่กำลังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมความปลอดภัย ได้แก่ Channel Transformation (การเปลี่ยนแปลงช่องทาง) และ Sustainability (ความยั่งยืน)
- Channel Transformation: การเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลส่งผลกระทบต่อช่องทางการขาย, การให้บริการ, และการดำเนินธุรกิจต่างๆ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ (77%) รู้สึกว่าพวกเขากำลังปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ดี แต่ก็ยังมีความท้าทายหลายประการ เช่น การตามเทคโนโลยีให้ทัน, การฝึกอบรมพนักงาน, การจัดการความคาดหวังของลูกค้า, และการรักษาสมดุลระหว่างบริการเก่าและใหม่
- Sustainability: ความยั่งยืนกำลังกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจด้านความปลอดภัย โดย 75% ของผู้นำด้านความปลอดภัยพิจารณาเรื่องความยั่งยืนในการเลือกโซลูชันความปลอดภัย, 54% มองหาเทคโนโลยีที่ช่วยลดการใช้พลังงาน, 53% ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนเมื่อต้องอัปเกรดระบบ และ 70% มีการรีไซเคิลหรือกำจัดบัตรผ่านเข้า-ออกเก่าอย่างมีความรับผิดชอบ
อนาคตของ Security: ยืดหยุ่น-ทำงานร่วมกันได้-พร้อมรับนวัตกรรม
Ramesh Songukrishnasamy, Senior Vice President และ Chief Technology Officer ของ HID, ได้สรุปแนวโน้มสำคัญและให้คำแนะนำแก่ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานในอุตสาหกรรมความปลอดภัยว่า:
“องค์กรต่างๆ จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่น (flexibility) ในการปรับเปลี่ยนระบบ, ความสามารถในการทำงานร่วมกัน (interoperability) กับระบบอื่นๆ, และการเปิดรับนวัตกรรม (innovation) เพื่อให้สามารถรับมือกับความท้าทายและใช้ประโยชน์จากโอกาสที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีใหม่ๆ เหล่านี้ได้อย่างเต็มที่”
คุณ Ramesh ยังกล่าวเสริมว่า “AI-Driven Analysis and Detection จะเป็นแนวโน้มที่สำคัญที่สุดในอีก 3 ปีข้างหน้า” ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจที่พบว่า AI เป็น Top Trend ในทุกภูมิภาค
รายงาน “2025 State of Security and Identity Report” ของ HID ได้ฉายภาพให้เห็นถึงภูมิทัศน์ความปลอดภัยที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว องค์กรที่ต้องการประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัลจำเป็นต้องปรับตัวและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามต่างๆ อย่างไรก็ตาม การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ก็มาพร้อมกับความท้าทายที่ต้องจัดการอย่างรอบคอบ การให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่น, การทำงานร่วมกันได้, และนวัตกรรม จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างระบบความปลอดภัยที่แข็งแกร่งและพร้อมสำหรับอนาคต
#HID #Security #Identity #MobileCredentials #Biometrics #AI #UnifiedSecurity #OpenPlatforms #Sustainability #Cybersecurity #DigitalTransformation #TechTrends #AccessControl #FutureOfSecurity #TechReport