Suntory Beverage & Food (SBF) ภายใต้การนำของ “มากิโกะ โอโนะ” ประกาศแผนธุรกิจเชิงรุก ทุ่มงบลงทุนเกือบ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มุ่งขยายพอร์ตโฟลิโอสินค้า, เจาะตลาดต่างประเทศ, และให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2024 แตะ 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
กรุงเทพฯ – ในการเปิดเผยแผนธุรกิจครั้งสำคัญของSuntory Beverage & Food (SBF) บริษัทเครื่องดื่มและอาหารชั้นนำระดับโลก “มากิโกะ โอโนะ” ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้แสดงวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการนำพาองค์กรไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งขยายธุรกิจไปทั่วโลก ผ่านกลยุทธ์หลักที่ครอบคลุมทั้งการสร้างแบรนด์, การปรับเปลี่ยนองค์กร, การส่งเสริมความหลากหลาย, และการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
Suntoryกับเป้าหมาย “True Global Beverage Company”
หัวใจหลักของแผนธุรกิจระยะกลางของ SBF คือ การก้าวไปสู่การเป็น “True Global Beverage Company” หรือบริษัทเครื่องดื่มระดับโลกอย่างแท้จริง ซึ่งคุณโอโนะได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการ “ส่งมอบการเติบโตที่มีคุณภาพและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ SBF” โดยมีเสาหลัก 4 ประการ ได้แก่
- Brand (แบรนด์): สร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์หลัก และพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
- Transformation (การเปลี่ยนแปลง): ปรับเปลี่ยนองค์กรให้มีความทันสมัยและคล่องตัว เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
- DEI (Diversity, Equity, and Inclusion): ส่งเสริมความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการไม่แบ่งแยกในองค์กร สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เปิดกว้างและยอมรับความแตกต่าง
- Sustainability (ความยั่งยืน): ดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างคุณค่าให้กับสังคม
ทุ่มงบลงทุนเกือบ 2 พันล้านดอลล์ – ขยายฐานการผลิตทั่วโลก
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเติบโตที่วางไว้ SBF ได้ประกาศแผนการลงทุนครั้งใหญ่ โดยจะเพิ่มงบลงทุน (CAPEX) ขึ้น 1.5 เท่า จาก 1.32 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงปี 2021-2023 เป็น 1.98 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงปี 2024-2026
“เรามีแผนริเริ่มในการเปลี่ยนแปลงมากมาย แต่ดิฉันอยากจะพูดถึงเรื่องการขยายกำลังการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรามีการลงทุนจำนวนมากในช่วงสามปีนี้ ตั้งแต่ปี 2024 ถึง 2026 เราตั้งเป้าที่จะใช้เงินเกือบ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ CAPEX เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต โดยการสร้างโรงงานใหม่หรือติดตั้งสายการผลิตใหม่ และทางด้านขวามือคือตัวอย่าง เรากำลังสร้างโรงงานใหม่ในเวียดนาม และในประเทศไทย เรากำลังขยายกำลังการผลิตโดยการติดตั้งสายการผลิตใหม่ 2 สายในปีนี้และปีหน้า” มากิโกะ โอโนะ กล่าว
การลงทุนดังกล่าวจะกระจายไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก โดยมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน:
- ยุโรป: ปรับปรุงระบบโลจิสติกส์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งและกระจายสินค้า
- อเมริกา: เพิ่มสายการผลิตใหม่และขยายคลังสินค้า เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น
- ญี่ปุ่น: เพิ่มสายการผลิตใหม่ที่โรงงาน Shinano-no-Mori และ Takasago
- APAC (เอเชียแปซิฟิก):
- เวียดนามและไทย: ขยายกำลังการผลิต เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยที่มีโรงงาน Saraburi Plant เป็นฐานการผลิตสำคัญ
- ออสเตรเลีย: ขยายกำลังการผลิตและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ประเภทใหม่ (RTD)
APAC หัวหอกสำคัญในการเติบโต – ไทยคือฐานที่มั่น
SBF ให้ความสำคัญกับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) เป็นอย่างมาก โดยคาดการณ์ว่าจะเป็นภูมิภาคที่ขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายใน APAC ไว้ที่ +9% ในช่วงปี 2023-2026 ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของตลาดโดยรวมที่คาดการณ์ไว้ที่ +5~6%
ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในแผนการเติบโตของ SBF ในภูมิภาค APAC โดยเป็นทั้งฐานการผลิตที่สำคัญและตลาดที่มีศักยภาพสูง ด้วยจำนวนพนักงานกว่า 1,800 คน และโรงงานผลิต 4 แห่งในจังหวัดชลบุรี ระยอง และสระบุรี SBF ประเทศไทยมีรายได้ในปี 2024 สูงถึง 33.2 พันล้านบาท และส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยัง 17 ประเทศทั่วโลก
มากิโกะ โอโนะ กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่ใหญ่ เราร่วมทุนกับ PepsiCo ใน Suntory PepsiCo Beverage (Thailand) และอย่างที่ดิฉันได้กล่าวไป หมวดหมู่สินค้ากำลังขยายตัว เนื่องจากความต้องการผลิตภัณฑ์อย่าง TEA+ หรือ BOSS Coffee ที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ เรายังมีอีกบริษัทหนึ่งในประเทศไทย คือ ธุรกิจ Health Enrichment ซึ่งเราได้เข้าซื้อกิจการในปี 1990 นั่นคือ Brand’s Suntory
“ทั้งสองบริษัท (Suntory PepsiCo Beverage (Thailand) และ Brand’s Suntory) ใช้สำนักงานร่วมกัน ซึ่งเรามุ่งเน้นไปที่นวัตกรรมผลิตภัณฑ์โดยอิงจากข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค เรายังคงลงทุนในประสิทธิภาพการผลิตอย่างต่อเนื่อง อย่างที่ดิฉันได้กล่าวไปแล้ว การขยายกำลังการผลิต และแน่นอนว่า เราต้องการประสิทธิภาพที่มากขึ้นในห่วงโซ่อุปทาน และความเป็นเลิศในการดำเนินงานก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน การเติบโตในการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรในประเทศไทยก็เป็นภารกิจที่สำคัญมากสำหรับธุรกิจของเรา”
เจาะลึกพอร์ตโฟลิโอ – ชูแบรนด์ดังระดับโลก
Suntory Group มีพอร์ตโฟลิโอสินค้าที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (Soft Drinks) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (Alcohol Beverages) และธุรกิจอื่นๆ (Other Businesses)
ในส่วนของเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ SBF มีผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท ทั้งกาแฟ (BOSS), ชา (TEA+), เครื่องดื่มเกลือแร่, น้ำอัดลม, เครื่องดื่มชูกำลัง, น้ำผลไม้, และน้ำดื่ม
สำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ SBF มีทั้งเบียร์ (The Premium Malt’s), เครื่องดื่ม RTD (Ready-to-drink), วิสกี้ (Japanese whisky, Bourbon, Scotch), เหล้าหวาน, คอนญัก, และไวน์
นอกจากนี้ Suntory Group ยังมีธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (เซซามิน), ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว, ร้านอาหาร, และธุรกิจดอกไม้
กลยุทธ์ Brand-Centric – เร่งนวัตกรรม, ขยายตลาด
SBF มุ่งเน้นที่การเติบโตเหนือกว่าตลาดในทุกภูมิภาค โดยใช้กลยุทธ์ “Brand-Centric” ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมให้กับแบรนด์หลักของตนเอง
ในส่วนของกาแฟ แบรนด์ BOSS จะเป็นหัวหอกในการบุกตลาดทั่วโลก ทั้งในญี่ปุ่น ไทย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เวียดนาม และสหรัฐอเมริกา
สำหรับชา แบรนด์ TEA+ จะเป็นเรือธงในการทำตลาดในเวียดนามและไทย
ส่วนเครื่องดื่มชูกำลัง แบรนด์ “V” และ Lucozade จะเป็นตัวหลักในการทำตลาดในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ และภูมิภาค APAC
“Grow For Good” และ “Give Back to Society” – ปรัชญาการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
Suntoryให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยยึดหลักปรัชญา “Grow For Good” และ “Give Back to Society”
ในประเทศไทย Suntoryได้ดำเนินโครงการและกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ได้แก่
- โครงการให้ความรู้เรื่องน้ำมิซุอิกุ (One Suntory Mizuiku Water Education Program): ให้ความรู้เรื่องการอนุรักษ์น้ำแก่เยาวชน
- โครงการช่วยเหลือสังคม (One Suntory Helping Hands): สนับสนุนกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือชุมชนและผู้ด้อยโอกาส
- โครงการรีไซเคิลขวดต่อขวด (Suntory PepsiCo Thailand’s “Bottle-to-Bottle Recycling”): ส่งเสริมการรีไซเคิลขวดพลาสติกอย่างยั่งยืน
- โครงการบริจาคโลหิต (Suntory Beverage and Food Thailand’s “BRAND’S Young Blood” Project): สนับสนุนการบริจาคโลหิตเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์
คุณมากิโกะ โอโนะ กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มตลาดในปี 2025 ดิฉันมองว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักในการเติบโตของSuntory เนื่องจากภูมิภาคนี้มีพลวัตสูงและมีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวียดนามและไทย ซึ่งเป็นตลาดสำคัญสองแห่งของเรา สำหรับประเทศไทย สถานการณ์โดยรวมน่าจะไปได้ด้วยดี แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องความเชื่อมั่นของผู้บริโภคบ้าง ซึ่งเราต้องเตรียมพร้อมรับมือ ด้วยการนำเสนอรสชาติใหม่ๆ ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ หรือพัฒนานวัตกรรมต่างๆ สิ่งสำคัญคือเราต้องสร้างสรรค์และนำเสนอ “คุณค่าที่แท้จริง” ให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เพราะนี่คือปัจจัยหลักที่จะนำไปสู่ความสำเร็จทางธุรกิจของเรา
“เราตั้งเป้าหมายการเติบโตที่ท้าทายในเอเชียแปซิฟิกไว้ แม้ว่าสภาพแวดล้อมทางธุรกิจโดยรวมอาจจะไม่ราบรื่นนัก แต่เราก็มีแผนงานหลายอย่างที่จะรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงแผนการพัฒนานวัตกรรมและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจของเรา”
ทั้งนี้ ภายใต้การนำของ “มากิโกะ โอโนะ” Suntory Beverage & Food กำลังเดินหน้าสู่การเป็นบริษัทเครื่องดื่มระดับโลกอย่างแท้จริง ด้วยแผนธุรกิจที่ชัดเจน กลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง และความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน การลงทุนครั้งใหญ่ในครั้งนี้ จะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างการเติบโตให้กับ SBF ในระยะยาว และสร้างคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย
#Suntory #SBF #มากิโกะโอโนะ #แผนธุรกิจ #เครื่องดื่ม #อาหาร #การลงทุน #เติบโตอย่างยั่งยืน #APAC #ประเทศไทย #GlobalExpansion #BrandStrategy #Sustainability #DEI