หลักทรัพย์บัวหลวง ชวนบริหารความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทนระยะยาวอย่างยั่งยืนในช่วงตลาดผันผวน ด้วยการจัดพอร์ตกองทุนรวมแบบอัตโนมัติ ชูผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปี 67 ที่ 7.77% สูงเป็นอันดับต้นๆ ของอุตสาหกรรม เมื่อเทียบกับกลุ่มกองทุนผสมเสี่ยงสูงในตลาด โดดเด่นด้วยการนำระบบการลงทุนระดับโลกมาช่วยจัดพอร์ต โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนมืออาชีพคอยคัดเลือกกองทุนตัวท็อป พร้อมกำหนดมุมมองและปรับพอร์ตลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาดปัจจุบันอย่างใกล้ชิด
นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการอาวุโส กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ตลาดการเงินทั่วโลกต้องเผชิญหน้ากับความผันผวนทั้งปัจจัยในและนอกประเทศ หนุนให้ราคาหุ้นหรือสินทรัพย์ต่าง ๆ มีความผันผวน ทำให้นักลงทุนต้องคอยติดตามและคาดการณ์ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอย่างใกล้ชิด ซึ่งการจัดพอร์ตลงทุนแบบระยะยาวด้วยการกระจายน้ำหนักลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก เพื่อลดความผันผวนของพอร์ตและเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืน ถือเป็นกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์การลงทุนท่ามกลางสถานการณ์ตลาดช่วงนี้
ทั้งนี้ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนมืออาชีพของบริษัท แนะนำปรับกลยุทธ์การลงทุนเพื่อรับมือความผันผวนด้วย “การจัดพอร์ตกองทุนรวมแบบอัตโนมัติ” (BLS Top Funds Portfolio) เครื่องมือช่วยสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืนที่ออกแบบมาแก้ปัญหา Pain Point การลงทุนแบบดั้งเดิม โดยสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนให้กับผู้ลงทุนได้อย่างโดดเด่นนับตั้งแต่ต้นปี 67 ที่ระดับ 7.77% (ตัวเลข ณ วันที่ 30 มิ.ย. 67) สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของอุตสาหกรรม เมื่อเทียบกับกลุ่มกองทุนผสมเสี่ยงสูงในตลาด และเทียบกับดัชนีหุ้นไทยที่ให้ผลตอบแทน -9.24% (ตัวเลข ณ วันที่ 30 มิ.ย. 67) ปัจจุบันมีให้เลือกลงทุนทั้งหมด 3 ประเภท 6 พอร์ตการลงทุน ประกอบด้วย
1. ประเภทการลงทุนแบบคาดหวังผลตอบแทน เน้นกระจายการลงทุนตามระดับความเสี่ยงของตนเอง ผ่าน 3 พอร์ตการลงทุน คือ พอร์ตการลงทุนเสี่ยงสูง Aggressive Asset Allocation (AAA) โดยนับตั้งแต่ต้นปี 67 สร้างผลตอบแทนที่ 7.77% (ตัวเลข ณ วันที่ 30 มิ.ย. 67) ให้ผลตอบแทนสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มกองทุนผสมเสี่ยงสูงที่มีผลตอบแทน -0.74% กลยุทธ์นี้เน้นลงทุนในกองทุนตราสารหนี้, กองทุนหุ้น และสินทรัพย์ทางเลือก ในสัดส่วนที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงสูง
พอร์ตการลงทุนเสี่ยงปานกลาง Moderate Asset Allocation (MAA) นับตั้งแต่ต้นปี 67 สร้างผลตอบแทนที่ 5.69% (ตัวเลข ณ วันที่ 30 มิ.ย. 67) สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มกองทุนผสมเสี่ยงปานกลางที่มีผลตอบแทน 1.10% กลยุทธ์นี้เน้นลงทุนในกองทุนตราสารหนี้, กองทุนหุ้น และสินทรัพย์ทางเลือก ในสัดส่วนที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงปานกลาง
พอร์ตการลงทุนเสี่ยงต่ำ Conservative Asset Allocation (CAA) นับตั้งแต่ต้นปี 67 สร้างผลตอบแทนที่ 2.37% (ตัวเลข ณ วันที่ 30 มิ.ย. 67) สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มกองทุนผสมเสี่ยงต่ำที่มีผลตอบแทน 0.57% กลยุทธ์นี้เน้นลงทุนในกองทุนตราสารหนี้,กองทุนหุ้น และสินทรัพย์ทางเลือก ในสัดส่วนที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงปานกลาง
2. ประเภทการลงทุนแบบรับกระแสเงินสดระหว่างทาง เน้นกระจายการลงทุนในกองทุนจ่ายเงินปันผล ด้วย พอร์ตการลงทุน Dividend Income Asset Allocation (DAA) โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 67 จ่ายเงินปันผลไปแล้ว 7 ครั้ง คิดเป็นผลตอบแทนหลังหักภาษีเงินปันผลอยู่ที่ 1.25% (ตัวเลข ณ วันที่ 30 มิ.ย. 67) กลยุทธ์นี้เหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงและมีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลคาดหวัง 3-4% ต่อปี คาดหวังผลตอบแทนรวม 6-7% ต่อปี เพราะเน้นลงทุนในกองทุนตราสารหนี้,กองทุนหุ้น และสินทรัพย์ทางเลือก ในระดับความเสี่ยงสูง
3. ประเภทการลงทุนเน้นปลอดภัย เน้นลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ ด้วย พอร์ตการลงทุน Saving Package (SP) โดยนับตั้งแต่ต้นปี 67 สร้างผลตอบแทนที่ 1.19% (ตัวเลข ณ วันที่ 30 มิ.ย. 67) กลยุทธ์นี้เน้นลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้นเหมาะสำหรับผู้ที่คาดหวังผลตอบแทน 1-2% ต่อปี และ พอร์ตการลงทุน Dynamic Income Package (DIP) นับตั้งแต่ต้นปี 67 สร้างผลตอบแทนที่ 0.51% (ตัวเลข ณ วันที่ 30 มิ.ย. 67) กลยุทธ์นี้เน้นกระจายลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะยาวเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทน
“สภาวะตลาดผันผวน การจัดสรรเงินลงทุนไปในหลาย ๆ สินทรัพย์ เพื่อลงทุนระยะยาวตั้งแต่ 3-5 ปีขึ้นไป ผ่านการจัดพอร์ตกองทุนรวมแบบอัตโนมัติกับหลักทรัพย์บัวหลวง นอกจากจะช่วยลดความผันผวนของพอร์ตแล้ว ยังทำให้โอกาสการขาดทุนต่ำลง โดยเราได้นำระบบการลงทุนระดับโลก Black-Litterman Model มาช่วยจัดพอร์ตลงทุน
ด้วยการคำนวณสัดส่วนการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดบนผลตอบแทนและความเสี่ยงที่เหมาะสม ซึ่งจะมีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนมืออาชีพคอยดูแล กำหนดมุมมองการลงทุน และคัดเลือกกองทุนตัวท็อปผลงานเด่นจาก 17 บลจ. ชั้นนำ เพื่อเข้าลงทุนในพอร์ต พร้อมปรับพอร์ตให้สอดคล้องกับภาวะตลาด และส่งคำซื้อขายกองทุนให้แบบอัตโนมัติ โดยผู้ลงทุนสามารถติดตามรายงาน BLS Top Funds Portfolio ประจำเดือนได้ทางแอป Wealth Connex และติดตามพอร์ตการลงทุนของตัวเองได้ผ่านแอป Streaming Fund+ สำหรับผู้ที่สนใจบริการจัดพอร์ตกองทุนรวมแบบอัตโนมัติ ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้น 500,000 บาท ไม่มีค่าธรรมเนียมในการบริหารพอร์ตเหมือนกับไปซื้อกองทุนเองปกติ สามารถสมัครได้ที่แอป Wealth CONNEX” นายบรรณรงค์ กล่าว