กรุงเทพฯ – คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) นำโดยเลขาธิการ นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ ลงพื้นที่จังหวัดชุมพรและระนอง สำรวจความพร้อมและศักยภาพของระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (SEC) และโครงการแลนด์บริดจ์ ที่จะเป็นสะพานเศรษฐกิจเชื่อมอ่าวไทยและอันดามัน หวังยกระดับภาคใต้สู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจและการลงทุนแห่งใหม่ของภูมิภาค
- – ปตท.สผ. ไตรมาส 2 กำไรสุทธิโต 25% ปันผลระหว่างกาล 4.50 บาทต่อหุ้น
- – SCG ครึ่งปีแรกกำไร 6,133 ล้าน ประกาศจ่ายปันผล 2.50บาท/หุ้น
นายนฤตม์ กล่าวว่า SEC ซึ่งประกอบด้วย 4 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช มีศักยภาพสูงในการดึงดูดการลงทุน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ใช้วัตถุดิบในพื้นที่และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งยังมีจุดแข็งด้านการท่องเที่ยว แหล่งอาหารทะเล และศูนย์กลางโลจิสติกส์
แลนด์บริดจ์: เกมเชนเจอร์เศรษฐกิจ
โครงการแลนด์บริดจ์ที่เชื่อมชุมพรและระนอง กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก ทั้งจากญี่ปุ่น จีน สหรัฐฯ ยุโรป และตะวันออกกลาง โดยนายนฤตม์ ระบุว่า โครงการนี้จะเป็น “เกมเชนเจอร์” ด้านโลจิสติกส์ คาดว่าจะนำเม็ดเงินลงทุนกว่า 1 ล้านล้านบาท และสร้างงานกว่า 280,000 ตำแหน่ง
แม้มีศักยภาพสูง แต่การพัฒนา SEC และแลนด์บริดจ์ยังมีอุปสรรค โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร โครงสร้างพื้นฐาน และการมีส่วนร่วมของชุมชน ซึ่งบีโอไอได้รับข้อเสนอแนะจากผู้บริหารท้องถิ่นและผู้ประกอบการในพื้นที่ และจะนำไปพิจารณากำหนดนโยบายส่งเสริมการลงทุนที่เหมาะสมต่อไป
โอกาสการลงทุนใน SEC
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา บีโอไอ มีคำขอส่งเสริมการลงทุนใน SEC กว่า 275 โครงการ มูลค่ากว่า 73,000 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและโอกาสการลงทุนในพื้นที่ โดยเฉพาะในกิจการเกษตร ผลิตภัณฑ์ยาง อาหารแปรรูป และพลังงานทดแทน
ด้วยศักยภาพของ SEC และโครงการแลนด์บริดจ์ ภาคใต้ของไทยมีโอกาสสูงที่จะก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการลงทุนแห่งใหม่ อย่างไรก็ตาม การพัฒนาที่ยั่งยืนต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชน เพื่อให้คนในพื้นที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการลงทุนและการพัฒนา
#บีโอไอ #SEC #แลนด์บริดจ์ #การลงทุน #ภาคใต้ #เศรษฐกิจ #ชุมพร #ระนอง #TheReporterAsia #BOI #SouthernEconomicCorridor #LandBridge #Investment #Thailand #Economy #Chumphon #Ranong