TheReporterAsia: กรุงเทพฯ – หัวเว่ย ประกาศความเชื่อมั่นว่า 5.5G หรือ 5G Advanced จะเป็นมากกว่าแค่การเชื่อมต่อ และจะปลดล็อกศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัดให้กับทุกอุตสาหกรรม นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการ ฝ่ายขายกลุ่มธุรกิจเครือข่
- – Bridge Alliance ผนึกกำลัง Deutsche Telekom ขยายเครือข่าย IoT สู่ยุโรป
- – NT ชี้แจงให้บริการ NSW ตอบโจทย์ทุกภาคส่วน
นายอาเบล ระบุว่า 5.5G จะมอบความเร็วในการดาวน์โหลดมากกว่า 10 กิกะบิตต่อวินาที ความเร็วในการอัปโหลดมากกว่า 1 กิกะบิตต่อวินาที และลดความหน่วงจาก 14 มิลลิวินาทีเหลือเพียง 1 มิลลิวินาที หรืออาจต่ำกว่านั้น นอกจากนี้ 5.5G จะนำเสนอความสามารถด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่มีมาแต่กำเนิด
“ทั่วโลก เราคาดว่าจะมีผู้ให้บริการมากกว่า 60 รายที่ให้บริการ 5.5G พร้อมแพ็กเกจทางธุรกิจ” นายอาเบล กล่าว พร้อมยกตัวอย่าง China Mobile ในเซี่ยงไฮ้ ที่ได้เปิดตัวแพ็กเกจ 5.5G หรือ 5G Advanced แล้ว
AI กำเนิดใหม่: ตัวเร่งสำคัญ
หัวเว่ย เชื่อว่า AI กำเนิดใหม่ (Generative AI) เมื่อผสานกับประชากรวัยหนุ่มสาวและเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดสมาร์ทโฟนที่รองรับ AI
“IDC คาดการณ์ว่าจะมีการจัดส่งสมาร์ทโฟน AI มากกว่า 170 ล้านเครื่องทั่วโลก และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะครองส่วนแบ่งเกือบ 40-50% ของจำนวนนี้”
เขามองว่าการแพร่หลายของเนื้อหาที่สร้างโดย AI จะนำไปสู่การรับส่งข้อมูลจำนวนมหาศาลบนเครือข่าย ซึ่งจะเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับการพัฒนาอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตในอนาคต
5G ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล
นายอาเบล ย้ำถึงบทบาทสำคัญของ 5G ในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล โดยอ้างอิงงานวิจัยที่ระบุว่า การเพิ่มขึ้นของการใช้งาน 5G ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกทุก 10% จะส่งผลให้ GDP ของแต่ละประเทศเติบโตขึ้น 1-1.8%
“5G ยังช่วยเพิ่มผลผลิตให้กับอุตสาหกรรมดั้งเดิมได้เกือบ 20%” นายอาเบล กล่าวเสริม
ความสำเร็จของ 5G ในเอเชียแปซิฟิก
นายอาเบล ชื่นชมความก้าวหน้าของ 5G ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะในประเทศไทย ที่มีการใช้งาน 5G ในภาคอุตสาหกรรมอย่างแพร่หลาย เช่น โรงงานอัจฉริยะ เหมืองแร่ที่เชื่อมต่อ 5G และโรงพยาบาลอัจฉริยะ
“ในประเทศจีน ธุรกิจ 5G to B กลายเป็นเครื่องยนต์หลักในการเติบโตของผู้ให้บริการเครือข่ายรายใหญ่ 3 ราย” นายอาเบล กล่าว
ร่วมสร้างทศวรรษทอง
นายอาเบล ทิ้งท้ายด้วยการเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันเพื่อสร้าง “ทศวรรษทอง” ของเศรษฐกิจดิจิทัล
“การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและอุตสาหกรรมจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ตั้งแต่รัฐบาลไปจนถึงภาคอุตสาหกรรม จากบริษัทไปจนถึงครอบครัวและปัจเจกบุคคล” นายอาเบล กล่าว
เขาเชื่อมั่นว่าด้วยพลังของเทคโนโลยี 5.5G และความร่วมมืออย่างใกล้ชิด เราจะสามารถก้าวเข้าสู่โลกแห่งความอัจฉริยะ และสร้างภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่เชื่อมต่อถึงกันอย่างเต็มรูปแบบและชาญฉลาด
“เราจะสร้างทศวรรษใหม่ ทศวรรษทองสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของเราด้วยกัน” นายอาเบล สรุป
ทั้งนี้ประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้นำการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลในภูมิภาคนี้ มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในการนำ เทคโนโลยี 5G มาใช้ เพื่อผลักดันพัฒนาการทางดิจิทัลในอุตสาหกรรมอย่างมีนัยสำคัญและเสริมสร้างเศรษฐกิจดิจิทัล ด้วยวิวัฒนาการและการมาถึงของ 5.5G ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ช่วงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอย่างยิ่ง
มาตรฐานการใช้งานในระดับสากลของ 5.5G ซึ่งจัดทำแล้วเสร็จตั้งแต่ต้นปี 2567 ที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวสำคัญในการสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งเทคโนโลยีนี้ ได้ปรับปรุงและยกระดับการใช้งานของเทคโนโลยี 5G ดังนี้:
- อัลตราบรอดแบนด์ (Ultra-Broadband): 5.5G ให้ความเร็วในการดาวน์โหลดสูงถึง 10 Gbit/s ซึ่งเร็วกว่าการใช้งาน 5G ถึงสิบเท่า และความเร็วในการอัพโหลดอย่างน้อย500 Mbit/s เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ไร้รอยต่อและรวดเร็วสูงสุด
- การรับประกัน SLA แบบกำหนดเอง (Deterministic SLA): ด้วยค่าความหน่วงที่ต่ำลง 1 มิลลิวินาที 5.5G รับประกันคุณภาพบริการซึ่งจำเป็นสำหรับแอปพลิเคชันและบริการที่ต้องทำงานแบบเรียลไทม์
- AI และเครือข่ายอัตโนมัติ (AI and Autonomous Networks): การรวม AI เข้ากับการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) ที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่ายและเครื่องมือการตลาดที่แม่นยำ ทำให้ผู้ให้บริการสามารถจัดการเครือข่ายขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
#Huawei #5G #5.5G #Thailand #AsiaPacific #DigitalEconomy #IntelligentWorld #MobileBroadband #ICT #หัวเว่ย