SAMART Corporation Plc. หรือ SAMART ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567 ด้วยกำไรปกติที่โดดเด่นทะลุ 100 ล้านบาท สะท้อนการเติบโตที่แข็งแกร่งของธุรกิจ แม้จะมีผลขาดทุนสุทธิจากการตั้งสำรองหนี้สินพิเศษ บริษัทยังคงแสดงความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี
- – AIS ลุยขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลไทยด้วย 5G และโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง
- – หัวเว่ย ชี้ 5.5G จุดเปลี่ยนสู่ยุคทองของเศรษฐกิจดิจิทัลในเอเชียแปซิฟิก
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและพัฒนาธุรกิจใหม่ ของ SAMART กล่าวว่า “ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 เป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง โดยมีรายได้รวม 2,104 ล้านบาท และกำไรปกติสูงถึง 101 ล้านบาท”
กำไรปกติที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนี้ เป็นผลมาจากการเติบโตของธุรกิจหลักหลายด้าน ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างโครงการสายส่งสถานีไฟฟ้าแรงสูงแบบครบวงจร ธุรกิจให้บริการจัดการการจราจรทางอากาศที่ประเทศกัมพูชา และธุรกิจให้บริการ Airtime ในโครงการจัดหาระบบวิทยุสื่อสารข่ายบังคับบัญชากระทรวงมหาดไทย
ผลขาดทุนสุทธิจากปัจจัยพิเศษ
แม้จะมีกำไรปกติที่แข็งแกร่ง แต่ SAMART รายงานผลขาดทุนสุทธิ 183 ล้านบาทในไตรมาสนี้ สาเหตุหลักมาจากการตั้งสำรองหนี้สินระยะยาวจำนวน 283 ล้านบาท ซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทกับคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 และการกีฬาแห่งประเทศไทย
นายวัฒน์ชัย ชี้แจงว่า “หากไม่รวมผลขาดทุนจากการตั้งสำรองหนี้สินพิเศษนี้ บริษัทจะมีกำไรปกติถึง 100 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตทางธุรกิจที่แท้จริง”
ภาพรวมผลประกอบการครึ่งปีแรก
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 SAMART มีรายได้รวมกว่า 4 พันล้านบาท และกำไรปกติ 155 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่มั่นคงแม้เผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ
SAMART ยังคงมองเห็นโอกาสการเติบโตในช่วงครึ่งหลังของปี โดยคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความต้องการที่เพิ่มขึ้นในธุรกิจหลัก
นายวัฒน์ชัย กล่าวปิดท้ายว่า “เรามั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลัง จะมีการเติบโตทั้งรายได้และกำไรจากการดำเนินงานจากทุกกลุ่มธุรกิจ”
#SAMART #ผลประกอบการไตรมาส2 #กำไรเติบโต #หุ้นกู้SAMART #มั่นใจธุรกิจโตต่อเนื่อง