กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – กระทรวงพาณิชย์ จัดงาน Public hearing ร่างแผนปฏิบัติการด้านการค้าแห่งชาติ พ.ศ. 2568-2570 ชู 5 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ 1. การพัฒนา SMEs 2. การพัฒนาและยกระดับการส่งออก 3. การค้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร 4. การค้าสินค้าอุตสาหกรรม 5. การค้าธุรกิจบริการ เพื่อสร้างการรับรู้ทิศทางการพัฒนาการค้าของประเทศ โดยมีผู้บริหารของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนเข้าร่วม

• – ค่าครองชีพ คนไทย พุ่ง! อาหาร Delivery มาแรงแซงค่าเดินทาง
• – ETDA เผยอินไซต์ SMEs พื้นที่ EEC-ใต้ ลุยปลดล็อก SMEs GROWTH

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สนค.ได้จัดงาน Public hearing ร่างแผนปฏิบัติการด้านการค้าแห่งชาติ พ.ศ. 2568-2570 เพื่อสร้างการรับรู้ทิศทางการพัฒนาการค้าของประเทศ โดยมีผู้บริหารของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนเข้าร่วม โดยได้นำเสนอภาพรวมของร่างแผนปฏิบัติการด้านการค้าแห่งชาติฯ ซึ่งได้ทบทวนภายหลังจากที่รับฟังความคิดเห็น (Focus group) จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค

สำหรับสาระสำคัญของร่างแผนปฏิบัติการด้านการค้าแห่งชาติ พ.ศ. 2568-2570 ประกอบด้วย 5 เรื่อง ดังนี้

1. การพัฒนา SMEs

• ส่งเสริมโอกาสทางการค้าในประเทศ
• สร้างโอกาสการส่งออก
• พัฒนาความสามารถของธุรกิจ SMEs ทั้งทักษะการดำเนินธุรกิจ และการปรับตัวต่อการค้าโลกในปัจจุบัน
• พัฒนาระบบนิเวศที่เอื้ออำนวยต่อการดำเนินธุรกิจ

2. การพัฒนาและยกระดับการส่งออก

• ส่งเสริมสินค้าและธุรกิจบริการที่ตอบสนองต่อ Megatrends
• พัฒนาสินค้า Product Champion ในระดับจังหวัด/ท้องถิ่น ให้เป็นสินค้าส่งออก
• กระจายตลาดส่งออกไปยังตลาดกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging market) มากขึ้น
• ขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างประเทศ
• สนับสนุนการสร้างมูลค่าเพิ่ม และยกระดับมาตรฐานสินค้า
• คุ้มครองผู้ประกอบการภายในประเทศ สร้างความเข้มแข็งและเป็นธรรมทางการค้า

3. การค้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร

• ส่งเสริมการจัดการปัจจัยการผลิตสินค้าเกษตรและโครงสร้างพื้นฐาน
• ส่งเสริมศักยภาพและพัฒนาทักษะผู้ประกอบการสินค้าเกษตร
• ส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มและการค้าสินค้าเกษตรมูลค่าสูง
• ส่งเสริมระบบตลาดสินค้าเกษตร เพื่อบริหารจัดการปริมาณและราคาสินค้าเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ
• อำนวยความสะดวกทางการค้า โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาประสิทธิภาพของระบบโลจิสติกส์การเกษตร เพื่อกระจายสินค้าไปสู่ผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว และคงคุณภาพของสินค้าไว้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. การค้าสินค้าอุตสาหกรรม

• ยกระดับสินค้าอุตสาหกรรมให้สอดรับกับความต้องการของตลาด โดยเฉพาะสินค้าอุตสาหกรรมแห่งอนาคต
• พัฒนาระบบนิเวศที่เหมาะสม เพื่อส่งเสริมการแข่งขัน
• เร่งเสริมทักษะแรงงานให้สอดรับกับภาคอุตสาหกรรมสมัยใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง
• สร้างภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในโลก เพื่อสร้างความสามารถในการปรับตัวให้แก่ภาคอุตสาหกรรม

5. การค้าธุรกิจบริการ

• พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนธุรกิจบริการ
• พัฒนาปัจจัยสนับสนุนเพื่อส่งเสริมและเพิ่มขีดความสามารถของธุรกิจบริการ
• พัฒนาคนในการขับเคลื่อนภาคบริการแห่งอนาคต
• ส่งออกและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจบริการ

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการเสวนาในหัวข้อ “ไทยควรเดินหน้านโยบายเศรษฐกิจการค้าอย่างไร เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยแข่งขันได้อย่างยั่งยืน” ซึ่งได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิจากสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองต่อทิศทางการทำนโยบายการค้าของประเทศในระยะกลาง-ยาว และนำมาปรับใช้กับการทำงานและการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านการค้าแห่งชาติในอนาคต

นายพูนพงษ์ กล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่ให้เกียรติมาร่วมงาน และกล่าวว่า หลังจากนี้ สนค. จะทำงานในขั้นตอนต่อไป เพื่อให้แผนปฏิบัติการด้านการค้าแห่งชาติฯ ออกมาสมบูรณ์ เสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก่อนส่งไปยังสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณากลั่นกรอง และให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามลำดับต่อไป

#TheReporterAsia #พาณิชย์ #แผนพัฒนาการค้าแห่งชาติ #SMEs #ส่งออก #เกษตร #อุตสาหกรรม #ธุรกิจบริการ #เศรษฐกิจไทย #พูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ #กระทรวงพาณิชย์ #สนค.