กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ (SET:S) ประกาศผลประกอบการงวดเก้าเดือนแรกของปี 2567 โดยมีรายได้จากธุรกิจหลักรวมทั้งสิ้น 11,431 ล้านบาท เติบโต 13% YoY แบ่งเป็น
- – ส.วิศวกรฯ ชี้ 4 ปมสลักเกลียวหลุด อาจเป็นเหตุทำ นั่งร้าน คอนโดหรูถล่ม!
- – เอสซีจี เผย 9 เดือนปี 2567 กำไร 6,854 ล้านบาท ลดลง 75%
- รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 2,534 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 50%
- รายได้จากธุรกิจให้บริการ จำนวน 8,654 ล้านบาท ขับเคลื่อนโดยรายได้จากกลุ่มธุรกิจโรงแรมที่ปรับตัวสูงขึ้น 7%
คุณฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ‘S’ เปิดเผยว่า “ถึงแม้ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์จะมีความท้าทาย แต่ภาพรวมการดำเนินงานของสิงห์ เอสเตทในช่วง 9 เดือนแรกยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากโครงการที่อยู่อาศัยของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นในเซกเมนต์ลักชูรี ซึ่งยังมีความต้องการของลูกค้าที่แข็งแกร่ง”
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
-
โครงการแนวราบและคอนโดมิเนียม
- สิงห์ เอสเตท ยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากยอดโอนกรรมสิทธิ์ของโครงการ สริน ราชพฤกษ์-สาย 1 (S’RIN Ratchapruek – Sai 1), โครงการ ดิ เอ็กซ์โทร พญาไท-รางน้ำ (THE EXTRO Phayathai-Rangnam) และโครงการ ดิ เอส สุขุมวิท 36 (The ESSE Sukhumvit 36)
- สำหรับธุรกิจที่พักอาศัย ยังเห็นสัญญาณการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการโอนกรรมสิทธิ์ของโครงการบ้านระดับซูเปอร์ลักชัวรีและพรีเมียมลักชัวรี อาทิ ศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส (Siraninn Residences), สริน ราชพฤกษ์- สาย 1 และโครงการคอนโดมิเนียม ดิ เอส สุขุมวิท 36
- การตอบรับที่ดีต่อโครงการที่เปิดตัวระหว่างปี ได้แก่ ฌอน ปัญญาอินทรา (SHAWN Panya Indra) และ ฌอน วงแหวน-จตุโชติ (SHAWN Wongwaen – Chatuchot) ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวในกลุ่มลักชัวรี ได้เริ่มเห็นการทยอยโอนกรรมสิทธิ์ที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ผ่านมา
-
โครงการในอนาคต
- สิงห์ เอสเตท ยังคงมุ่งมั่นรังสรรค์โครงการคุณภาพ โดยภายในปลายปีนี้จนถึงช่วงต้นปีหน้า เตรียมเปิดตัว 4 โครงการในเซ้กเมนต์ลักชัวรี ถึง ซูเปอร์ ลักชัวรี
- โครงการคอนโดร่วมทุน 1 โครงการ ตั้งอยู่บนทำเลพระราม 3
- บ้านเดี่ยว 3 โครงการ ภายใต้แบรนด์ สมิทธ์ (SMYTH’S) บน 2 ทำเลสำคัญ ได้แก่ รามอินทรา และ เกษตร-นวมินทร์
- S’RIN Prannok-Kanchana (สริน พรานนก-กาญจนา) บน ถนน พรานนก-ตัดใหม่
- มูลค่าโครงการรวมกว่า 8,800 ล้านบาท
- สิงห์ เอสเตท ยังคงมุ่งมั่นรังสรรค์โครงการคุณภาพ โดยภายในปลายปีนี้จนถึงช่วงต้นปีหน้า เตรียมเปิดตัว 4 โครงการในเซ้กเมนต์ลักชัวรี ถึง ซูเปอร์ ลักชัวรี
-
Backlog
- ณ สิ้นไตรมาส 3 บริษัทฯ มี Backlog อีกกว่า 1,824 ล้านบาท ซึ่งเราตั้งเป้าหมายในการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ประมาณ 38% ของยอด Backlog ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 ซึ่งจะเป็นแรงหนุนให้รายได้ทั้งปีเติบโตได้ตามเป้า
ธุรกิจโรงแรม
-
ผลประกอบการเติบโตโดดเด่น
- ผลประกอบการกลุ่มธุรกิจโรงแรมรอบเก้าเดือนแรกที่ผ่านมาเติบโตอย่างโดดเด่น โดยกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 12% แตะระดับ 1,918 ล้านบาท สะท้อนประสิทธิภาพในการควบคุมค่าใช้จ่าย
- รายได้จากกลุ่มธุรกิจโรงแรมปรับตัวสูงขึ้น 7% แม้ว่าในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 จะมีการปรับปรุงห้องพักโรงแรมในประเทศไทยบางส่วน ซึ่งสะท้อนจากความสำเร็จในการขยายฐานลูกค้าสู่ประเทศกลุ่มใหม่ ๆ เพื่อเติมเต็มศักยภาพในช่วงนอกฤดูกาล พร้อมแรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- ผลจากการปรับปรุงห้องพักส่วนนี้ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ ทันสมัยและตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยว ผลักดันให้อัตราค่าห้องพัก (ADR) ของพอร์ตเติบโตขึ้นกว่า 15%
-
กลยุทธ์การเติบโต
- สำหรับในส่วนกลุ่มธุรกิจโรงแรมมีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ เราเห็นแรงขับเคลื่อนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ด้วยกลยุทธ์การขยายตลาดเชิงรุกไปยังตลาดใหม่ พร้อมการปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าที่ดี ส่งผลให้รายได้เฉลี่ยต่อห้อง (RevPAR) ปรับตัวเพิ่มขึ้น กว่า 12% จากปีก่อนหน้า
- บริษัทฯ มองเห็นโอกาสเติบโตของธุรกิจโรงแรมในช่วง high season ทั้งในประเทศไทย มัลดีฟส์ และมอริเชียส
- ห้องพักที่ปิดปรับปรุง 173 ห้องของโรงแรม ทราย ลากูน่า ภูเก็ต (SAii Laguna Phuket) จะทยอยเปิดให้บริการอีกครั้งภายในเดือนธันวาคม พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวช่วง high season และคาดว่าจะปรับเพิ่มอัตราค่าห้องพัก ได้ถึง 15-20% จากการปรับปรุงดังกล่าว พร้อมแรงสนับสนุนจากการเพิ่มรายได้จากบริการอื่น ๆ เช่น อาหารและเครื่องดื่ม (F&B) และสปา ตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้
ธุรกิจอาคารสำนักงาน
-
รางวัลและความสำเร็จ
- ในไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถคว้ารางวัล Global Business Outlook Award 2024 สาขา Most Innovative New Office Building Development จากโครงการ S-OASIS ซึ่งสะท้อนถึงการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมอาคารสำนักงานของบริษัทฯ
- รางวัลนี้เน้นย้ำถึงความสำเร็จของการออกแบบอาคารอัจฉริยะที่ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเอส โอเอซิส (S-OASIS) นับเป็นอาคารสำนักงานที่ยั่งยืนระดับแนวหน้าของไทยในย่านวิภาวดี
-
ความยั่งยืน
- ปัจจุบัน นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนกำลังเป็นที่ต้องการสูงจากผู้เช่าที่ยึดถือหลักการทำธุรกิจแบบมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้โครงการนี้เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นในตลาด
-
อัตราการเช่า
- เราคาดว่าอัตราการเช่าพื้นที่ของอาคาร เอส โอเอซิส (S-OASIS) จะสามารถไปสู่เป้าที่ระดับ 50% ภายในสิ้นปี 2567
ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม
ความคืบหน้า * โครงการนิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง (S. Angthong Industrial Estate) มีความคืบหน้าในการพัฒนาโครงการกว่า 90% * บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายที่ดินกับ บริษัท ยูนิเทค พริ้นท์ เซอร์กิต บอร์ด (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตแผ่นวงจรพิมพ์รายใหญ่จากประเทศจีน ซึ่งเป็นลูกค้ารายแรกของโครงการ * การก่อสร้างอาคารโรงงานของลูกค้ารายแรก คาดว่าจะแล้วเสร็จและเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงต้นปี 2568
- ศักยภาพการเติบโต
- สิงห์ เอสเตท มั่นใจว่านิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง จะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่สร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต
คุณฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ กล่าวเสริมว่า “สิงห์ เอสเตท ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ โดยมุ่งเน้นการเติบโตใน 4 ธุรกิจหลัก และการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในเซกเมนต์ลักชัวรี บนทำเลศักยภาพ พร้อมขยายธุรกิจโรงแรมในแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ ควบคู่ไปกับการพัฒนาโครงการอาคารสำนักงานและนิคมอุตสาหกรรมที่เน้นนวัตกรรมและความยั่งยืน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้กับผู้ถือหุ้น”
-
เป้าหมายรายได้
- บริษัทฯ ยังคงตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2567 เติบโต 10-15% จากปีก่อน
- มั่นใจว่าจะสามารถสร้างผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
#SinghaEstate #S #ผลประกอบการ #อสังหาริมทรัพย์ #โรงแรม #อาคารสำนักงาน #นิคมอุตสาหกรรม